5.แรงแห่งโชคชะตา
**** ทักทายคร้า ไปอ่านต่อกันเลยนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่าน แต่อย่าลืมส่งใจช่วยนางเอกด้วยนะคะ****
ชิดสมัยวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เสียงฝีเท้าวิ่งตามมาติดๆ หญิงสาวรีบวิ่งไปที่ทางออกด้านหลัง เธอต้องหลบหลังกำแพงเมื่อเห็นชายฉกรรจ์หลายคนกระจายอยู่เต็มไปหมด
“หามันให้เจอ นายสั่งให้จับเป็นเท่านั้น” เสียงตะโกนสั่งการดังไปทั่วบ่อน
ดวงตาคมสวยสอดส่ายสายตาดูทั่วบริเวณเพื่อหาทางออกไปที่รถ ชิดสมัยยิ้มออกมาอย่างมีความหวังเมื่อเห็นต้นไม้ใหญ่ข้างกำแพง ร่างเล็กลัดเลาะซ่อนตัวไปตามริมกำแพง โชคดีที่คืนนี้เป็นคืนเดือนดับ ความมืดจะช่วยเธออำพรางกายได้ ร่างบอบบางปีนป่ายเกือบจะถึงขอบกำแพง
“เฮ้ย! มันอยู่นั่น!”
แสงไฟจากสปอร์ตไลต์ส่องสว่างมาที่เธอ ใบหน้างามสะบัดหลบอย่างตกใจ ทำให้วิกผมเกี่ยวติดกับกิ่งไม้ร่วงลงพื้น มือบางเอื้อมไปยึดขอบกำแพงแล้วโหนตัวออกไปนอกกำแพงอย่างรวดเร็ว
ปุๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงปืนเก็บเสียงดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน พวกมันต่างพากันปีนกำแพงตามออกมา เสียงรถขับออกไปด้วยความเร็วสูง พวกที่อยู่ข้างล่างก็รีบวิ่งไปที่รถเพื่อไล่ตามไป
ปุๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ชิดสมัยขับรถออกไปด้วยความเร็วเต็มพิกัด เสียงปืนยินไล่หลังตามมาติดๆ หญิงสาวหันกลับไปมองแล้วโบกมือให้ พวกมันมองอย่างแค้นใจที่ถูกลูบคม
ชาร์ยืนอยู่ที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดเพื่อนำภาพที่บันทึกไว้ตั้งแต่เปิดบ่อนออกมาดู ดวงตาสีฟ้ากวาดไปยังจอภาพอื่นๆ ที่ปรากฏอยู่แต่ละจุด ชาร์นั่งดูภาพเคลื่อนไหวหลายสิบตัว เทปม้วนสุดท้ายถูกบันทึกตั้งแต่ทางเข้าบ่อนในช่วงเวลาต่างกัน ชายหนุ่มดีดตัวขึ้นทันทีเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติ
“กรอกลับภาพเมื่อกี้” ชาร์จ้องภาพที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า ภาพของชิดสมัยในคราบผู้ชายร่างสูงโปร่ง หน้าหวานใสปรากฏอยู่บนจอภาพ ชาร์มองภาพห้องโถงใหญ่ เห็นร่างสูงโปร่งเดินไปดูทั่วทั้งห้อง แล้วภาพก็หายไปเมื่อเกิดเรื่องชกต่อยกันขึ้น
“ซูมให้ชัดกว่านี้หน่อยคาร์ลอส” ชายหนุ่มสั่ง แล้วภาพหนุ่มหน้าหวานก็ถูกขยายใหญ่ขึ้น ชาร์หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ทำให้ลูกน้องหันไปมองอย่างแปลกใจ
“ผู้หญิงนี่นา สวยซะด้วยสิ” ชาร์โพล่งออกมาเมื่อยืนพิจารณาใบหน้าหวานนั้นไม่นาน
“เจ้านายรู้ได้ยังไงครับ” คาร์ลอสถาม คิ้วหนาขมวดมุ่น เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมองที่ประตู เบน มาทาริท หัวหน้าคุมคาสิโนยื่นวิกผมให้เจ้านายหนุ่ม
“มันหนีไปได้ครับ”
“นี่ไงล่ะคาร์ลอส คำตอบของนาย” ชาร์บอกลูกน้องเสียงเรียบ
“ผมจะลองตัดต่อภาพเอาวิกผมออก ดูเค้าหน้าให้ชัดขึ้นอีกหน่อย” คาร์ลอสพูดเสร็จก็หันกลับไปที่จอคอมพิวเตอร์ จัดการตัดวิกผมออกแล้วเอาผมทรงใหม่ใส่เข้าไปทันที ไม่นานใบหน้างามของชิดสมัยก็ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
“อื้อหือ สเปกพี่พอลเขาเลยนะนั่น” ชาร์พิศมองภาพหญิงสาวตรงหน้าพลางคิดถึงพี่ชายขึ้นมาทันที
“แล้วจะจัดการกับเธอยังไงครับ”
“ผู้หญิงสวยๆ แบบนี้มีวิธีจัดการกี่วิธีล่ะคาร์ลอส ติดอยู่ที่ว่าคนจัดการเขาจะใช้วิธีไหนเท่านั้นเอง” ชาร์บอกลูกน้อง คนสนิท แววตาซุกซนขี้เล่นเหมือนสมัยเป็นหนุ่มน้อยกลับมาอีกครั้ง พอลอยู่มานานคงเหงา หาคนไปให้คลายเหงาท่าจะดีเหมือนกัน ชาร์คิดอย่างครึ้มใจ
“ส่งรูปเธอให้สายของเรา หาตัวเธอให้เจอ แล้วส่งตัวไปให้พอลทันที”
“คงมีเหตุการณ์สยองขวัญเกิดขึ้นบ้างล่ะ” คาร์ลอสเปรยออกมา นึกภาพที่ทั้งสองเจอกันแล้วเสียวแทน คนหนึ่งเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ อีกคนดูท่าทางก็เก่งพอตัว
“พี่พอลมีวิธีรับมืออยู่แล้ว”
“แล้วศพไอ้นิโกรคนนั้น ผมเอาไปฝังเลยนะครับ” เบนบอกเจ้านาย ชาร์พยักหน้าอนุญาตน้อยๆ
“ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ถ้าเธอมีภาพแล้วส่งให้หนังสือพิมพ์ ภาพลักษณ์คาสิโนเราจะเสียหายได้” ชาร์บอกอย่างคาดคะเน
“คงต้องปิดปากหนังสือพิมพ์ด้วย” คาร์ลอสบอกเสียงเรียบ ชำเลืองมองภาพหญิงสาว
“พรุ่งนี้ฉันจะเข้ากรุงเทพฯ ฝากนายดูแลที่นี่ด้วย” ชาร์สั่งงานลูกน้องคนสนิท ก่อนจะล้มตัวลงนอนยาวไปบนโซฟาตัวใหญ่
“ดูท่าทางเจ้านายจะเซ็งๆ นะครับ” คาร์ลอสชวนคุยต่อ สายตาจับจ้องที่หน้าจอโน้ตบุ๊กเครื่องจิ๋วทรงประสิทธิภาพ
“นิดหน่อย” ชาร์ตอบสั้นๆ ตายังคงหลับอยู่เช่นเดิม ชาร์และคาร์ลอสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก คาร์ลอสเป็นลูกชายของแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัวเขา ทั้งสองเติบโตมาด้วยกันและรักพอล มาโรน่าพี่ชายเหมือนกัน ชาร์จำได้ว่าตอนเด็กๆ เขาและคาร์ลอสเกเรหนีโรงเรียนไปมีเรื่องกับนักเลงเจ้าถิ่น เกิดการต่อสู้กันเพราะความเลือดร้อนของวัยรุ่น พอลตามไปช่วยไว้ทันและสู้กับนักเลงเพื่อปกป้องน้องชายสองคนของตัวเอง พอกลับมาบ้าน พ่อของเขารู้เรื่องและเตรียมลงโทษเขากับคาร์ลอส แต่พอลกลับออกรับแทนและถูกลงโทษเพียงคนเดียว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้งชาร์และคาร์ลอสก็ไม่กล้าเกเรอีกเลย...
“นายว่าอะไรนะชาร์!” เสียงพอล มาโรน่าตะโกนเข้าไปในโทรศัพท์ หลังจากที่กดรับสายของชาร์ มาโรน่า น้องชายที่อยู่ในเมืองไทย
“ผมมีปัญหานิดหน่อย” ต้นสายตอบพี่ชายเสียงเบาหวิว ฟังจากน้ำเสียงของน้องชาย ทำให้พอลรู้ได้ทันทีว่าปัญหาที่เกิดกับน้องชายไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเสียแล้ว
“นายไม่ใช่เด็กแล้วนะชาร์ ทำไมถึงชอบใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลอยู่เรื่อย แล้วนี่ไปก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ” ชายหนุ่มถามออกไปอย่างหงุดหงิด
“แทงคนตาย” เสียงตอบพี่ชายเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน พอลยืนกำกระบอกโทรศัพท์แน่น
“ใคร” ในที่สุดคนเป็นพี่ชายก็ถามออกมา หลังจากที่เงียบไปนาน
“ไม่รู้เหมือนกัน มันไม่ปริปากบอก แต่เป็นแขกที่เข้ามาเล่นในคาสิโน”
“มีคนเห็นเหตุการณ์หรือเปล่า” พอลถามเสียงเครียด หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ไม่ใช่ว่าเขากังวลที่มีคนบาดเจ็บหรือตาย เพราะธุรกิจของมาโรน่ากรุ๊ปเติบโตมาได้ทุกวันนี้ผ่านอะไรมามากมาย คนในวงการอสังหาริมทรัพย์และตลาดลงทุนทั้งในประเทศฝรั่งเศสและทั่วโลก ต่างก็รู้จักธุรกิจของมาโรน่ากรุ๊ปเป็นอย่างดี บางครั้งการทำธุรกิจก็ไม่ใช่ว่าจะมือสะอาด เบื้องหลังของตระกูลมาโรน่ามีกลุ่มมือปืนและมาเฟียหนุนหลังอยู่ ด้วยอำนาจเงินบวกกับความสามารถของคนรุ่นปู่ รุ่นพ่อและมาถึงรุ่นเขา งานของเขาจะสะอาดก็ต่อเมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่สะอาดเท่านั้น
“มี...เป็นนักข่าวสาวสวย มาทำสกู๊ปข่าวในคาสิโน”
“เธอมีหลักฐานในมือหรือเปล่า”
“มีรูปถ่ายที่ผมกำลังแทงไอ้หมาขี้เรื้อนตัวนั้น” ชาร์บอกพี่ชายอย่างกังวล ถึงบารมีของมาโรน่าจะแผ่ถึงเมืองไทย แต่เขาก็ไม่อยากให้ข่าวนี้หลุดออกไป เพราะอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจและหน้าตาของมาโรน่าเอง
“ผู้หญิงคนนั้นทำงานให้สำนักพิมพ์ไหน”
“ฮอตไลน์สุดสัปดาห์”
“ทำไมไม่รีบจัดการให้เรียบร้อย ถ้าเตือนไม่ฟังก็หาทางปิดหนังสือพิมพ์ซะ อย่าให้ข่าวหลุดออกไปได้” พอลสั่งน้องชายเสียงเข้ม
“ทำไม่ลง” ชาร์บอกสั้นๆ ทำให้ปลายสายเงียบไป ชาร์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ทำไม” เสียงถามของพอลดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์กับคำตอบของน้องชาย ชาร์ยิ้ม เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินออกมาที่หน้าระเบียงคอนโดหรู
“ผมทำไม่ลงเลยอยากให้พี่ช่วยจัดการให้หน่อยได้ไหม” หากพอลได้มีโอกาสเห็นแววตาและท่าทางของน้องชายตอนนี้ คงแทบจะหักคอชาร์ให้ตายไปเลยก็ได้
“นายไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นาชาร์ อะไรที่ทำให้มัจจุราชไร้หัวใจอย่างนายเป็นแบบนี้” พอลถามออกมาอย่างแปลกใจ พอลรู้จักน้องชายดีว่าทำงานไร้ความปรานีเสมอ สำหรับคนที่กล้าหือกับมาโรน่า
“ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่เห็นของสวยๆ งามๆ แล้วทำไม่ลงเท่านั้นเอง” ชาร์บอกอย่างอารมณ์ดี เสียงหัวเราะหึๆ ของพี่ชายดังแว่วมาตามสายก่อนที่จะกดตัดสายไป
ชาร์มองเอกสารที่อยู่ในมือ ประวัตินักข่าวสาวที่เขากำลังตามหาอยู่ ประวัติถือว่าใช้ได้ทีเดียว ต่อสู้ชีวิตในบ้านแห่งชีวิตและส่งเสียตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี ประวัติการทำงานและฝีมือการต่อสู้ก็ไม่เลว
ชาร์หยิบภาพถ่ายที่อยู่ในซองเอกสารสีน้ำตาลออกมาดู ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพของหญิงสาวขณะทำงานแทบทั้งสิ้น แต่ภาพสุดท้ายนี่สิ ทำเอาหัวใจที่ไม่เคยรู้สึกรู้สมของชาร์กระตุกวูบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...เป็นภาพสาวสวยสองคนยืนโพสต์ท่าอยู่ข้างยีราฟตัวใหญ่ คนหนึ่งคือคนที่เขากำลังตามหา แต่อีกคนทำให้หัวใจของชาร์วาบไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้ารูปไข่หวานสวยหมดจด ดวงตาสุกสกาวใสเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า จมูกโด่งเล็กเป็นสันสวยรับกับริมฝีปากอิ่ม ทั้งสองเล่นกล้องอย่างน่ารักในสายตาของชายหนุ่ม ชาร์ยกมือลูบท้ายทอยตัวเองไปมาตามด้วยเสียงหัวเราะในลำคอ เขาติดใจเธอตั้งแต่แรกเห็นเลยหรือนี่
ตึกทำการของหนังสือพิมพ์ฮอตไลน์สุดสัปดาห์ คำรณนั่งหน้าเครียดกุมขมับอยู่ในห้องทำงาน เมื่อได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ในกระทรวงให้หยุดนำเสนอข่าวบ่อนคาสิโน และนักข่าวที่ส่งไปทำข่าวให้กักตัวไว้ให้ดี เพราะทางมาโรน่ากรุ๊ปไม่ต้องการให้ข่าวหลุดออกไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
นรากรเปิดประตูเข้ามาด้วยความเป็นห่วง ร่างโปร่งบางสวมสูทสีน้ำตาลเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานมองคำรณอย่างเป็นห่วง เธอรู้ว่าคำรณพยายามต่อรองเพื่อให้ได้เสนอข่าวที่ชิดสมัยกำลังนำกลับมา
“ติดต่อไหมได้หรือยังนรา” ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ยังเลยค่ะ”
ใบหน้าของคำรณเคร่งเครียดขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำตอบ นรากรถอนหายใจ รู้สึกสงสารบก. หนุ่มไม่น้อย
“นราว่าคุณทำใจดีๆ ก่อนดีกว่านะคะ อาจจะไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับน้องไหมก็ได้” นรากรเดินอ้อมมาหลังโต๊ะทำงาน จับมืออูมของชายหนุ่มมากุมไว้อย่างให้กำลังใจ
“ขอบคุณมากนะครับนรา ที่ให้กำลังใจผม” ชายหนุ่มลุกขึ้นมองสบตากับหญิงสาว เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้นทำให้ทั้งสองตื่นจากภวังค์ คำรณเอี้ยวตัวหันไปมองและหยิบโทรศัพท์มากดรับทันที
“ฮัลโหล” บก. หนุ่มกรอกเสียงเข้าไปในเครื่อง สักพักดวงตายาวรีก็เบิกกว้างด้วยความดีใจ เมื่อรู้ว่าคนที่โทรมาคือชิดสมัย
“บก. นี่ไหมเองนะคะ”
“ไหมจริงๆ ด้วย ตอนนี้อยู่ที่ไหน” คำรณถามอย่างร้อนใจ นรากรขยับตัวเข้ามาฟังใกล้ๆ
“ไหมกำลังจะเข้ากรุงเทพฯ ค่ะ”
“อย่าเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ตอนนี้นะไหม มาโรน่ารู้แล้วว่าคนที่แอบไปทำข่าวคือไหม ตอนนี้ผู้ใหญ่ในกระทรวงโทรมาให้เราหยุดลงข่าวเรื่องนี้แล้ว ถ้าไม่ฟังเขาจะสั่งปิดหนังสือพิมพ์เราทันที” คำรณพูดอย่างรีบร้อน ใบหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิม
“ไม่ได้นะคะบก. บ่อนนั่นไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่สื่อเสนอออกไป ไหมมีภาพคนที่เล่นโกงในคาสิโนแล้วถูกฆ่ามาด้วย”
คำรณได้ยินแล้วแทบหยุดหายใจ นี่กระมังที่เป็นสาเหตุให้มาโรน่ากรุ๊ปต้องวิ่งปิดข่าว นรากรจ้องใบหน้าอูมซึ่งบัดนี้ซีดขาวอย่างตกใจ
“ไหมฟังพี่นะ อย่าเพิ่งเข้ากรุงเทพฯ หาที่หลบสักพัก ให้เรื่องมันเงียบก่อนแล้วค่อยกลับมา” คำรณเน้นคำพูด น้ำเสียงแฝงไปด้วยความห่วงใย การสนทนาหยุดลงทันทีเมื่อประตูถูกเปิดออกเต็มแรง พร้อมชายฉกรรจ์สวมสูทสีดำหลายคนกรูเข้ามา คำรณกำโทรศัพท์แน่น นรากรรีบเข้ามาหลบหลังชายหนุ่ม คำรณจ้องมองกลุ่มคนที่เข้ามาในห้องอย่างไม่พอใจ
“พวกคุณเป็นใคร เข้ามาในห้องทำงานของผมโดยพลการแบบนี้ได้ยังไง ผมจะแจ้งความเอาผิดกับพวกคุณข้อหาบุกรุก” คำรณเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ
“ผมคงต้องแจ้งจับคุณด้วยเหมือนกันกระมัง คุณคำรณ” เสียงตอบทรงอำนาจที่ดังมาจากประตู ทำให้คำรณนิ่งงัน มองสบตาคมแข็งกร้าวของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่
“สวัสดีครับท่าน” คำรณพนมมือไหว้ชายวัยกลางคนที่มีตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลชุดปัจจุบัน และมีอำนาจมากพอที่จะสั่งปิดหนังสือพิมพ์เขาได้
“สวัสดีคุณคำรณ”
“ไม่ทราบว่าท่านจะมา ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับ” คำรณบอกอย่างนอบน้อม ตาชำเลืองมองร่างสูงสง่าที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก ผมมาคุยด้วยนิดหน่อยแล้วก็จะกลับ นี่คือคุณพอล มาโรน่า ประธานบริหารมาโรน่ากรุ๊ป คุณคงเคยได้ยินชื่อ” คำรณและนรากรมองร่างสูงสง่าในสูทสีน้ำเงินเข้ม ริมฝีปากหยักได้รูปยิ้มบางๆ ให้พวกเขา ใบหน้าหล่อเหลากับดวงตาสีทองที่มองมา คำรณรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา อำนาจและรังสีบางอย่างแผ่ออกมารอบตัวชายหนุ่ม
“มีอะไรให้ทางฮอตไลน์รับใช้ครับท่าน”
“เรื่องบ่อนคาสิโน ผมอยากให้จบเพียงเท่านั้น หลักฐานต่างๆ ที่ลูกน้องคุณได้มา ผมอยากให้คุณคืนให้กับคุณพอลซะ และเรื่องทั้งหมดขอให้เลิกแล้วต่อกัน”
“หลักฐานอะไรครับท่าน ลูกน้องที่ผมส่งไปทำข่าวยังไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำ หรือว่าทางคุณพอลมีอะไรปิดบังอยู่ครับ ถึงไม่อยากให้เราเสนอข่าวออกไป”
ร่างสูงสง่าขยับตัวทันที
“ผมทำอะไรตรงไปตรงมาเสมอ และอีกอย่าง ผมไม่อยากทำอะไรรุนแรงกับคนของคุณด้วย ถึงต้องมาเจรจาด้วยตัวเอง” เสียงเข้มทรงอำนาจดังขึ้น หลังจากที่เงียบตั้งแต่เข้ามา
“มีอะไรเกิดขึ้นที่คาสิโนล่ะครับ ถึงทำให้พอล มาโรน่าต้องมาเจรจากับผมด้วยตัวเอง” คำรณถามอย่างไม่เกรงกลัวดวงตาสีทองที่มองเขาอยู่
“ผมคงไม่จำเป็นต้องตอบคำถามคุณ ถ้าหลักฐานทั้งหมดที่ลูกน้องคุณได้มาไม่ถึงมือผมภายในสองวัน ผมไม่รับรองความปลอดภัยของลูกน้องคุณ เธออาจจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย หรือคนที่เกี่ยวข้องกับเธออาจจะเดือดร้อนทั้งหมด” พอลเอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งสนิท สายตาคมเหลือบมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือบก. หนุ่ม ไฟสัญญาณยังคงกะพริบอยู่ แสดงว่าก่อนที่เขาจะเข้ามาคงมีการใช้โทรศัพท์อยู่อย่างแน่นอน คำรณมองเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ในมือ แววตาตื่นตระหนก
“คงมีคนรอสายคุณอยู่” พอลหรี่ตามองอย่างจับสังเกต
“เอ่อ! ผมคุยงานกับลูกน้องเพิ่งเสร็จ” คำรณตอบไม่เต็มเสียงนัก ปลายนิ้วกดโทรศัพท์ทิ้งทันที ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก คำรณมองเบอร์ที่โชว์อยู่ ก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากเย็น
พอลก้าวเท้าเข้าไปใกล้ แบมือไปข้างหน้า คำรณเงยหน้ามองใบหน้าคม เม็ดเหงื่อซึมออกมาตามหน้าผาก อำนาจบางอย่างในดวงตาสีทองนั้นบังคับให้เขาส่งโทรศัพท์ให้ชายหนุ่ม เมื่อปลายนิ้วเรียวกดรับ เสียงปลายสายก็ดังขึ้นทันที
“บก. ทำไมเงียบไป เกิดอะไรขึ้นคะ” เสียงใสดังแว่วมาตามสาย หัวใจของพอล มาโรน่ากระตุกวูบขึ้นมาทันที
“ชิดสมัยใช่ไหม” พอลถามไปตามสาย เสียงปลายสายนิ่งเงียบไปสักพักจึงถามกลับมา
“คุณเป็นใคร บก. ไปไหน” เสียงถามของหญิงสาวเข้มขึ้น
“คุณอยู่ที่ไหนชิดสมัย” พอลยกมือล้วงกระเป๋าถามอย่างใจเย็น
“อย่าบอกนะไหม รีบหนีไป โอ๊ย” คำรณเข้าไปแย่งโทรศัพท์จากมือชายหนุ่ม พอลเบี่ยงตัวหลบหมัดของคำรณ ชายหน้าเหี้ยมเข้ามาจับตัวคำรณเอาไว้แล้วสวนหมัดเข้าไปที่ท้อง ทำให้ร่างท้วมของคำรณทรุดลงกับพื้น
“ว้าย! บก.” เสียงนรากรดังเข้าไปในโทรศัพท์ ทำให้ชิดสมัยถามออกมาทันที
“นั่นนายทำอะไรพี่คำรณกับพี่นรา” เธอถามออกมาอย่างร้อนรน พอลหัวเราะเบาๆ ไปตามสาย
“ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณจะปลอดภัยชิดสมัย ถ้าคุณเอาหลักฐานที่ได้มาให้ผม” เสียงสั่งทรงอำนาจกรอกเข้าไป เสียงหญิงสาวเงียบไปนานก่อนที่จะตอบกลับมาใหม่
“นายเป็นใคร”
“พอล มาโรน่า”
“ฉันไม่รู้เรื่องหลักฐานอะไรของนายทั้งนั้น และฉันเองก็ไม่รู้จักนายด้วย อย่ามาขู่กันดีกว่า”
พอลยิ้มที่มุมปาก ดวงตาสีทองแข็งกร้าวขึ้นอย่างน่ากลัว
“ผมไม่ได้ขู่ชิดสมัย ถ้าคุณอยากลองดีกับผมก็ตามใจ เตรียมรอฟังข่าวคนรอบตัวคุณไว้ให้ดี แล้วคุณจะรู้ว่าผมไม่ได้แค่ขู่เล่นๆ แล้วคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณมากที่สุดคือคนที่บ้านแห่งชีวิตใช่ไหม ช่วงนี้ผมว่าง พรุ่งนี้คงต้องไปบริจาคเพื่อการกุศลสักหน่อย คุณว่าดีไหม” พอลพูดเหมือนเป็นเรื่องสนุก แต่คนฟังถึงกลับเย็นยะเยือกไปทั้งกาย
“อย่าทำร้ายชีวิตบริสุทธิ์ที่นั่นนะ” เธอสวนกลับมาทันที
“ขึ้นอยู่กับคุณ แม่นักข่าวคนเก่ง” เขาเอ่ยยั่วยวนอีกฝ่าย รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าคมน่ากลัว
“ตกลง! ฉันจะคืนหลักฐานทั้งหมดให้คุณ แต่คุณต้องสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายใคร และเรื่องของเราก็จบกันแค่นี้ คุณห้ามทำอะไรกับฮอตไลน์ด้วย ถ้าคุณตกลงฉันก็ยินดีคืนหลักฐานทั้งหมดให้” เธอเงียบไปนานก่อนที่จะตัดสินใจ พอลยิ้มอย่างผู้ชนะ
“คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับผม...คุณนักข่าว” พอลบอกออกไป พลันเสียงปืนก็ดังแว่วเข้ามาในโทรศัพท์ ใบหน้าคมเครียดขึ้นมาทันที หันหลังกลับไปสบตาบารอน ลูกน้องคนสนิท
“ชิดสมัย! ชิดสมัย! เกิดอะไรขึ้น” เขากรอกเสียงดังเข้าไปในโทรศัพท์
“จะอะไรล่ะ กำลังโดนไล่ยิงอยู่เนี่ย คนของคุณหรือเปล่า ถ้าใช่อย่าหวังว่าจะได้หลักฐานทั้งหมดจากฉัน ไอ้คนลวงโลก!” ว่าแล้วหญิงสาวก็ตัดสายไป
“บารอนรีบหาชิดสมัยให้เจอเร็วที่สุด ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะได้ตัวเธอไป” พอลสั่งลูกน้องเสียงเข้ม หันกลับไปมองหน้าคำรณและนรากร
“ถ้าเธอโทรกลับมาให้บอกผมทันที ไม่มีใครปกป้องเธอได้นอกจากผม ถ้าคนอื่นได้ตัวเธอไปจุดจบคือตาย แต่กับผมเธอมีสิทธิ์เลือก” คำพูดของชายหนุ่มทำให้คนฟังหนาวไปทั้งขั้วหัวใจ
คำรณมองแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปด้วยท่าทางทระนง พร้อมกับถอนหายใจออกมาดังๆ ในใจก็อดห่วงลูกน้องไม่ได้ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
ขอบคุณคร้า
