บท
ตั้งค่า

5 เธอคือใครในกระจก

[เทเป]

[สัตว์อสูรระดับ 1 Level. 10]

[อิสลาน]

[สัตว์อสูรระดับ 2 Level. 20]

[เรดคาว]

[สัตว์อสูรระดับ 1 Level. 10]

ตามอย่างที่มิราน่าพูดไว้ไม่มีผิด พอเข้ามาภายในรั้วกำแพงเมือง ถึงได้รู้ว่าประชากรจำนวนเกินครึ่งเป็นเทมเมอร์

พวกเขากำลังใช้สัตว์อสูรทำงานแทนตนเอง และพวกมันอยู่ในระดับต่ำแทบทั้งสิ้น ตั้งแต่เดินเข้ามา ฉันยังไม่เห็นตัวไหนเกินระดับสาม นอกจากคุณลุงคนนั้น

[ทันเดอร์วูฟล์]

[สัตว์อสูรระดับ 5 Level. 50]

เขาคงเป็นคนที่มิราน่ากล่าวถึง ตำนานที่มีเพียงหนึ่งของที่นี่ เทมเมอร์ผู้มีสัตว์อสูรไว้ในครอบครองถึงห้าตัว แถมยังมีสัตว์อสูรระดับห้า ที่ดูทรงแล้วน่าจะหายากพอสมควร

แต่นั่นไม่ได้สร้างความว้าวให้กับฉันเลยสักนิด เพราะในคลังสัตว์อสูรของฉัน มีอะไรที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่า

แบบนี้ถ้าฉันเรียกกระจิบออกมาเดินเฉิดฉาย พวกชาวบ้านไม่พากันแตกตื่นแย่หรอกเหรอ เพราะน้องเป็นถึงสัตว์อสูรระดับแปด ฉันคงรู้สึกภาคภูมิใจไม่น้อย ถ้าได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น

แต่เมื่อมองอีกมุมหนึ่ง มันจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายน่าปวดหัวหรือเปล่า เพราะฉันมีในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่มี แม้กระทั่งเทมเมอร์ซึ่งเป็นตำนานของที่นี่ ยังมีแค่สัตว์อสูรระดับห้า

ตอนนี้ฉันเก็บเรื่องกระจิบไว้เป็นความลับก่อนดีกว่า ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรนำน้องออกมาใช้พร่ำเพรื่อ มันจะกลายเป็นสร้างปัญหาให้กับชีวิตตัวเอง เด่นมากไปก็ดูจะไม่ปลอดภัยเท่าไหร่

“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะ”

หญิงร่างท้วมวัยกลางคนสวมผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ ปรี่มาให้การต้อนรับ เมื่อฉันเดินเข้ามาภายในสิ่งก่อสร้าง ที่ด้านหน้ามีป้ายเขียนเอาไว้ว่าโรงแรม

ด้านหลังของเธอ มีจิงโจ้ตัวใหญ่สวมผ้ากันเปื้อนสีเปลือกไข่ไก่ ในอุ้งมือถือไม้ขนไก่ปัดฝุ่นเดินตามไม่ห่าง นี่ก็คงเป็นเทมเมอร์เหมือนกัน

[แกงก้า]

[สัตว์อสูรระดับ 1 Level. 10]

น่ารักชะมัด เนื้อน้องดูแน่นมาก เทมเมอร์คนนี้คงจะเลี้ยงสัตว์อสูรในการดูแลเป็นอย่างดี อยากสัมผัสจัง...

“ที่นี่มีห้องพักว่างไหมคะ?”

ฉันเก็บความมันเขี้ยวเอาไว้ในใจ เอ่ยถามผู้หญิงที่เดาว่าน่าจะเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ขณะสายตามองเลยไปยังจิงโจ้ตัวนั้นอยู่เป็นระยะ

“มีเจ้าค่ะ มีว่างอยู่ 2 ห้อง คุณหนูจะเปิดห้องพักเลยไหมเจ้าคะ?”

“ราคาเท่าไหร่เหรอคะ?”

ก่อนตอบตกลงเราควรถามไถ่ราคาเสียก่อน เพราะกระเป๋าฉันค่อนข้างแห้ง เพิ่งได้เซอร์คอเนียร์มาจากอีแร้งแค่สิบก้อนเท่านั้น ไม่รู้ว่าจะพอจ่ายค่าที่พักคืนนี้หรือเปล่า

“คืนละ 1 เซอร์คอเนียร์เจ้าค่ะ”

‘โอ๊ะ! ถูกจัง’

“งั้นหนูเอา 1 ห้องค่ะ ส่วนจะพักกี่คืนยังไม่มีกำหนด ยังไงเดี๋ยวบอกเป็นรายวันเอานะคะ”

“ได้เจ้าค่ะ”

เธอตอบรับและหันหลังเตรียมเดินจากไป น่าจะเตรียมไปจัดการเรื่องห้องพักให้ แต่ฉันยังไม่หมดธุระกับเธอจึงเรียกรั้งเอาไว้

“คุณน้าคะ ถ้าหากว่าหนูจะสั่งอาหารขึ้นไปทานบนห้องด้วย จะได้ไหม?”

ได้ที่ซุกหัวนอนแล้ว ห้องน้ำก็คงจะมีให้บริการเช่นกัน เพราะฉะนั้นจะเหลือสิ่งซึ่งสำคัญที่สุดคืออาหาร

“ได้เจ้าค่ะ คุณหนูจะรับอะไรบ้างเจ้าคะ?”

เจ้าของโรงแรมหันไปรับแผ่นไม้กระดานบางๆ ขนาดพอเหมาะ ที่จิงโจ้ดึงออกมาจากกระเป๋าหน้าท้อง และยื่นส่งต่อให้กับฉัน

มันคือรายการอาหารซึ่งมีจำนวนหลากหลาย ส่วนใหญ่ฉันแทบไม่รู้จัก จึงตัดสินใจจิ้มๆ สั่งที่พอเคยเห็นผ่านตา

“หนูเอาสตูเนื้อ 1 ที่ค่ะ แล้วก็... แกงกะหรี่ด้วย”

ปกติฉันเป็นคนกินไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครึ่งซองใส่น้ำเยอะๆ ก็สามารถทำให้ฉันอิ่มท้องได้

แต่ไหนๆ ได้โผล่มาอยู่ในโลกใบใหม่พร้อมกับการไร้หนี้ ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องประหยัดอีกต่อไป ฉันสามารถหาเซอร์คอเนียร์ ไว้ใช้จ่ายได้จากการล่าสัตว์อสูร ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับคนมีสัตว์อสูรระดับแปดอย่างฉัน

“เจ้าค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะให้มูมูพาคุณหนูขึ้นไปบนห้อง ส่วนอาหารรอสักครู่นะเจ้าคะ”

จิงโจ้ตัวนั้นชื่อมูมูอย่างนั้นเหรอ พอเจ้าของโรงแรมพูดจบ มันก็กระโดดนำทางฉันขึ้นบันไดไปชั้นสอง และพามาหยุดอยู่หน้าห้องพักริมซ้ายสุดของทางเดิน

กี้!

ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับที่มูมูส่งเสียงร้อง คงจะสื่อสารบอกให้รู้ว่านี่คือห้องที่ฉันต้องพักอาศัย

“ขอบใจจ้ะ”

น้องหันหลังกระโดดกลับไปทางเดิมแล้ว ฉันจึงเข้าห้องพักของตัวเองพร้อมปิดประตู เดินสำรวจห้องสี่เหลี่ยม ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กมากจนเกินไป เหมาะแก่การพักอาศัยคนเดียว

ด้านในสุดมีประตูอีกบานอยู่ด้วย เมื่อเปิดเข้าไปจึงพบว่าเป็นห้องน้ำ ถึงไม่ได้ดูทันสมัยเหมือนในโลกที่ฉันจากมา แต่ทุกอย่างมีหน้าตาใกล้เคียงกัน เพียงแค่ทำจากไม้

“ขออาบน้ำก่อนละกันนะ เหนียวเนื้อเหนียวตัวแถมยังคันอีกต่างหาก”

ฉันหันไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนขนาดพอเหมาะ กับเสื้อคลุมอาบน้ำ ซึ่งแขวนไว้ข้างประตูเดินเข้าห้องน้ำไป

ถอดเสื้อผ้าเน่าๆ กองทิ้งไว้บนพื้น และลงแช่น้ำในอ่างไม้ขนาดใหญ่ พอให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งลงไปนอนเล่นได้ แต่ดูเหมือนเมื่อเทียบกับขนาดร่างกายฉัน มันจะดูใหญ่เกินไปนิด

‘แปลกแฮะ ทำไมรู้สึกเหมือนขนาดตัวเล็กลงกว่าเดิม?’

ร่างกายฉันไม่ได้ผอมกะหร่อง เหมือนก่อนหน้าตอนที่ยังไม่ตาย แต่เป็นความสูงต่างหากที่ดูเหมือนจะลดลง เมื่อก่อนฉันสูงถึงหนึ่งร้อยหกสิบแปด แต่เหมือนตอนนี้หดลงอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากปลายเท้า ซึ่งแตะไม่ถึงอีกฟากของอ่างอาบน้ำ

ผิวพรรณดูอิ่มเอิบขาวผ่อง ผิดจากตอนมีชีวิตอยู่ลิบลับ แต่เสียดายจังที่หน้าอกเล็กเหมือนเดิม เศร้า...

นอนเล่นอยู่ในอ่างอาบน้ำสักพัก ฉันจึงตัดสินใจหยุดช่วงเวลาหรรษานี้ลง ท้องเริ่มกลับมาร้องประท้วงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าอาหารที่สั่งไปจะทำเสร็จแล้วหรือยัง

ฉันลุกขึ้นสวมผ้าคลุมอาบน้ำ และใช้ผ้าขนหนูซับความเปียกชื้นบนใบหน้าและศีรษะ เดินตรงไปหยุดยืนอยู่หน้ากระจกทองเหลือง ยกมือขึ้นเช็ดไอน้ำซึ่งเกาะอยู่บนผิวกระจกออก เพื่อดูเงาสะท้อนของตัวเอง

“…!”

ภาพที่เห็นอยู่เต็มๆ สองลูกตา ทำเอาผ้าในมือหลุดร่วงลงพื้น ฉันยืนเบิกตาค้างมองภาพสะท้อนด้วยความอึ้ง เพราะใบหน้าที่เห็น มันคนละเค้ากับหน้าเดิมของฉันลิบลับ

เด็กผู้หญิงอายุอานามไม่น่าจะเกินสิบห้า ดวงตากลมโตดั่งไข่ห่าน นัยน์ตาสีชมพูอ่อนคล้ายใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น ไหนจะกลุ่มผมสีเทามันเงายาวสลวยนั่นอีก

ฉันเพิ่งนึกเอะใจว่านี่มันไม่ใช่สีผมเดิม ทั้งๆ ที่มองผ่านไปผ่านมาหลายรอบมากแล้ว หรือเพราะกำลังให้ความสนใจกับเรื่องอื่นมากเกินไป จึงไม่ทันสังเกตเห็น

ฉันยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าตัวเอง ค่อยๆ ลูบไล้ไปเรื่อยๆ ด้วยความรู้สึกสับสน

เด็กคนนี้เป็นใคร?

ฉันกำลังอยู่ในร่างของใครกันแน่?

นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“คุณหนู! รบกวนเปิดประตูห้องให้ดิฉันหน่อยเจ้าค่ะ”

เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกจากด้านนอก ดึงสติที่กำลังตื่นเตลิดของฉันกลับมา ฉันรีบออกจากห้องน้ำ ไปเปิดประตูให้เจ้าของโรงแรม เธอกำลังยืนถือถาดอาหารอยู่หน้าห้อง พร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร

“เพิ่งอาบน้ำเสร็จหรือเจ้าคะ น้ำร้อนเกินไปไหม?”

เธอเบี่ยงตัวเดินเอาถาดอาหารไปวางไว้ให้บนโต๊ะกลางห้อง พร้อมกล่าวถาม

“ไม่ค่ะ กำลังดี ว่าแต่คุณน้าพอจะหาเสื้อผ้าใหม่ให้หนูสักชุดได้ไหมคะ? เดี๋ยวหนูจ่ายเพิ่มให้”

จะให้กลับไปใส่ชุดเน่าๆ ที่กองอยู่บนพื้นในห้องน้ำก็ไม่ไหว ไหนๆ ก็ได้โอกาสใช้เซอร์คอเนียร์แล้ว ใช้ๆ มันไปซะ แล้วค่อยออกไปหาเพิ่มใหม่

“ได้เจ้าค่ะ เดี๋ยวดิฉันให้มูมูเอาขึ้นมาให้”

“ขอบคุณค่ะ”

“เรียกดิฉันว่าเชอลีนก็ได้นะเจ้าคะ ไม่ต้องเรียกว่าคุณน้าหรอก”

“ค่ะ เชอลีน”

เชอลีนออกจากห้องไปได้สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันรู้ได้ในทันทีว่าต้องเป็นมูมูเอาชุดใหม่มาให้แน่ จึงไม่ได้ส่งเสียงถาม และก็พบว่าเป็นมูมูจริงอย่างที่คิด หลังจากเปิดประตูออก

กี้!

“ขอบใจจ้ะ”

ฉันรับชุดเดินกลับเข้ามาในห้อง เสื้อผ้าที่มูมูเอามาส่ง เป็นชุดกระโปรงแบบที่เด็กผู้หญิงควรสวมใส่ สีฟ้าครามคล้ายกับสีของน้ำทะเล ปลายแขนเสื้อมีขลิบสีดำตัดให้ดูไม่หวานจนเกินไป

เข็มขัดหนังสองเส้นนี้คงเอาไว้รัดตรงช่วงเอว ดูน่ารักดีโดยเฉพาะตรงส่วนคอเสื้อ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นขนของสัตว์สักชนิด นุ่มนิ่มมากด้วย เป็นส่วนที่ฉันถูกใจมากที่สุด

หลังจัดการสวมใส่แล้ว จึงได้รู้ว่ามันพอดิบพอดีแถมยังเหมาะกับร่างกายนี้มากๆ ไม่รู้หรอกนะว่าพระเจ้ากำลังเล่นอะไรอยู่ แต่ขอบคุณมากจริงๆ ที่ให้ชีวิตพร้อมกับร่างกายใหม่กับฉัน จะดูแลมันอย่างดีที่สุด ให้สมกับที่ฉันไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน

มื้อเย็นซึ่งล่วงเลยมาจนกลายเป็นมื้อค่ำถูกจัดการจนเกลี้ยง เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนคล้อย ฉันเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดสามฟุตครึ่ง เพียงไม่นานความสบายของเครื่องนอน ก็สูบสติฉันให้จมหายไปในห้วงนิทรา

วันนี้ฉันสนุกมากกับการได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้รู้และทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ลองทำ หวังว่าวันพรุ่งนี้และต่อๆ ไป จะมีเรื่องสนุกๆ รอฉันอยู่นะ

ชีวิตใหม่ของฉัน...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel