บทที่ 8 ความรักชโลมใจ
“แกจะเอาเฟอร์นิเจอร์พวกนี้ไปเป็นสินสอดเหรอ? ฉันว่าแกคงคิดถึงผู้ชายจนสติแตกไปแล้ว ลองไปถามดูสิว่าลูกสาวบ้านไหนมีสินสอดเป็นเฟอร์นิเจอร์บ้าง?
เฟอร์นิเจอร์ของบ้านไหนที่ผู้ชายไม่ซื้อเอง? แกยังไม่ได้แต่งออกไปเลยนะ ก็ยอมทุ่มเทขนาดนี้แล้ว”
ฟังเข้าสิ คิดถึงผู้ชายจนสติแตก ใครกันที่เป็นแม่แล้วจะใช้คำพูดที่ฟังดูแย่ขนาดนี้มาด่าลูกสาวตัวเอง
กวนโย่วซวงถอนหายใจและพูดอย่างใจเย็นว่า “แม่คะ แม่คงไม่ลืมนะคะว่าแม่เรียกสินสอดจากบ้านกู้เพิ่มมา 200 หยวนกะทันหัน บ้านกู้เป็นอย่างไรแม่ไม่รู้เหรอคะ?
สมัยนี้ ใครจะหาเงิน 200 หยวนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เดิมทีฉันกับจ้าวหยางก็หมั้นกันแล้ว พวกแม่นั่นแหละที่ยืนยันจะเปลี่ยนตัว แล้วฉันจะทำยังไงได้ล่ะคะ?
ฉันแต่งไปก็ต้องใช้ชีวิตด้วยกัน ถ้าฉันไม่เตรียมสินสอดไปมากหน่อย บ้านกู้เขาจะมองฉันดีเหรอคะ?”
“แล้วเหล่ยเหล่ยล่ะ? ไม่ใช่ว่าฉันต้องควักเงินจนหมดตัวเพื่อเตรียมเฟอร์นิเจอร์สำหรับสินสอดให้เธออีกคนเหรอ?”
“แม่คะ เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแม่เองค่ะ ถ้าแม่ต้องการเตรียมให้น้อง ฉันก็ไม่มีความเห็นอะไร เฟอร์นิเจอร์ชุดนี้รวมทั้งหมด 650 หยวน ซื้อมาจากตลาดขายส่งเฟอร์นิเจอร์ในอำเภอค่ะ”
“แก...แก...” จางไฉ่เหอโกรธจนฟันกระทบกัน “ไอ้ลูกผลาญเงิน!”
เธอเงื้อไม้กวาดขึ้นมาอีกครั้ง
กวนโย่วซวงปัดเบา ๆ จางไฉ่เหอก็ถอยหลังไปสองสามก้าว
“แม่ แม่อย่ามาพูดมั่ว ๆ นะ ฉันไม่ได้ใช้เงินของแม่แม้แต่แดงเดียว อีกอย่าง ฉันอายุ 23 แล้ว แม่ยังตีฉันไม่พออีกเหรอคะ?”
“แก...แกไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”
“ติดหนี้เขามาค่ะ แต่แม่ไม่ต้องกังวลนะคะ หนี้ก้อนนี้ไม่เกี่ยวกับแม่ ฉันจะหามาคืนเอง”
พูดจบ กวนโย่วซวงก็หาววอดหนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวกลับไปพักผ่อนในห้องก่อนนะคะ”
“ฟืนหลังบ้านยังเก็บไม่เรียบร้อย แกก็จะนอนแล้วเหรอ? ฉันเลี้ยงหมูยังดีกว่าเลี้ยงแกอีก”
กวนโย่วซวงไม่สนใจ เดินเข้าไปในห้องข้าง ๆ จัดการล็อกประตูและล้มตัวลงนอนบนเตียง อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเบา ๆ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้จางไฉ่เหอคงจะโกรธจนควันออกหูแล้ว
เธอขี้เกียจจะสนใจ
ในชาติที่แล้ว ในฐานะลูกคนเดียว เธอได้รับความรักอย่างลึกซึ้งจากพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ด้วยความมั่งคั่งทางจิตใจ ทำให้เธอมีความมั่นใจมากและไม่กลัวว่าจะไม่มีใครรัก
เมื่อนึกถึงชายหนุ่มผมสั้นสุดหล่อคนนั้น เธอก็มีความสุขจนกลิ้งไปมาบนเตียง และเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ขณะที่เธอกำลังฝันหวาน เสียงจักรกลเสียงหนึ่งก็ปลุกเธอให้ตื่น
[เหลือเวลาอีก 10 นาที การสอนคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะเริ่มขึ้น กรุณาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเวลา]
กวนโย่วซวงตกตะลึง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาทันที
เธอเกือบจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันเสาร์
ในวันธรรมดา เธอต้องเขียนวิทยานิพนธ์ บวกกับการดูแลรักษาระบบไลฟ์สดและเพิ่มฟังก์ชันใหม่ ๆ ทำให้เธอยุ่งจนแทบไม่มีเวลาว่าง
ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายลดการบ้านและลดการเรียนพิเศษสำหรับนักเรียน
เธอได้ยกเลิกการไลฟ์สดทั้งหมดในวันธรรมดา เหลือไว้เพียงวันเสาร์และวันอาทิตย์ วันละสองรอบ คือรอบเช้าและรอบบ่าย
ยังดีที่เป็นแค่เสาร์อาทิตย์ ถ้ายังไลฟ์สดทุกวันเหมือนเมื่อก่อน เธอคงเหนื่อยตาย
สำหรับเธอในตอนนี้ การได้ไลฟ์สดถือเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สวรรค์มอบให้
เพราะทุกครั้งที่ไลฟ์สด เธอสามารถถอนเงินออกมาได้หนึ่งพันหยวน
หนึ่งพันหยวนในสมัยนี้ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย
เธอหลับตาลงและภาวนาในใจว่า เข้าห้องไลฟ์สดเร็ว ๆ ทีเถอะ
ลืมตาขึ้นมาดู ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร
ดูเหมือนจะไม่สามารถเข้าก่อนเวลาด้วยการใช้จิตอธิษฐานได้
ช่างมันเถอะ รอไปก่อน
เธอเดินไปที่โต๊ะเก่า ๆ เทน้ำใส่แก้ว แล้วค่อย ๆ ดื่ม
[เหลือเวลาอีก 5 นาที การสอนคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะเริ่มขึ้น กรุณาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเวลา]
ที่ลานบ้าน จางไฉ่เหอยังคงด่าทอไม่หยุด ดูเหมือนนางจะไม่คอแห้งเลยสักนิด เธอชื่นชมร่างเดิมจริง ๆ ที่สามารถอดทนมาได้หลายปีขนาดนี้
กวนเหล่ยที่เพิ่งกลับมาก็กำลังปลอบโยนอย่างอ่อนโยน เรียก "แม่" ด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงใจเป็นอย่างยิ่ง
ทันใดนั้น กวนโย่วซวงก็ได้ยินกวนเหล่ยเรียก "พี่สาว" และเดินมาที่ห้องของเธอ
ไม่สิ ห้องของพวกเธอทั้งสองคน
เสียงฝีเท้าค่อย ๆ ใกล้เข้ามา
“พี่คะ อ้าว? ทำไมพี่ล็อกประตู?” กวนเหล่ยเคาะประตู
กวนโย่วซวงจ้องไปที่นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์เล็ก ๆ บนโต๊ะ 10 9 8...
และแล้ว เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ภาพตรงหน้าเธอก็มืดลง พอเปิดตาขึ้นอีกครั้ง เธอก็เข้ามาอยู่ในห้องไลฟ์สดของตัวเองแล้ว
ที่แปลกก็คือ เมื่อเธอเข้ามาในห้องนี้ เธอก็จะเปลี่ยนไปสวมชุดเดรสสีขาวที่เธอชื่นชอบที่สุดอย่างไม่มีเหตุผล
ครั้งที่แล้วก็เป็นเช่นนั้น ครั้งนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม
เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่วนใหญ่ก็อายุสิบเอ็ดสิบสองปีแล้ว และนักเรียนในชั้นเรียนนี้ก็เป็นเด็กเรียนเก่งที่ตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ ดังนั้นการสอนจึงค่อนข้างง่าย
เมื่อตอนที่เธอปรับปรุงฟังก์ชัน เธอได้พัฒนาธีมที่สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของนักเรียนแต่ละชั้นเรียน
ชั้นเรียนนี้ตรงกับธีมอวกาศ
หลังจากเปลี่ยนธีมเรียบร้อยแล้ว เธอก็ทักทายเด็ก ๆ ตามปกติ
ตามแผนการสอน คาบนี้จะสอนเรื่องการคูณเศษส่วนกับเศษส่วน
เพื่อความสะดวกในการไลฟ์สด ก่อนหน้านี้เธอได้ทำเนื้อหาความรู้ทั้งหมดของทุกชั้นเรียนเป็นสไลด์การสอน
ซึ่งมีตัวอย่างโจทย์ แบบฝึกหัด และแน่นอนว่ามีโจทย์โอลิมปิกสำหรับชั้นเรียนเด็กหัวกะทิด้วย
เธอเพียงแค่ต้องดึงออกมาจากสไลด์การสอนของเธอเท่านั้น
เธอหยิบปากกาชอล์กอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาเขียนบนหน้าจอสีเขียวขนาดใหญ่ จากนั้นก็เริ่มอธิบายอย่างลึกซึ้งและเข้าใจง่าย พร้อมทั้งกระตุ้นให้เด็ก ๆ คิดและสรุป
ชั้นเรียนของเด็กวัยนี้ ใช้เวลา 50 นาที กวนโย่วซวงยึดหลัก 40+10 เสมอ นั่นคือ เรียน 40 นาทีและ 10 นาทีสำหรับการพูดคุยกันอย่างอิสระ ซึ่งเด็ก ๆ ต่างก็ชอบมาก
การเรียนรู้ใกล้จะสิ้นสุดลงโดยไม่รู้ตัว กวนโย่วซวงสรุปสิ่งที่เรียนในวันนี้แล้วพูดว่า
“เด็ก ๆ ถ้าอย่างนั้นเราก็เข้าสู่ช่วงเม้าท์มอยกันเถอะ”
ทันใดนั้น แถบความคิดเห็นก็เริ่มคึกคักขึ้น
[คุณครูคะ คุณครูคะ คุณครูมีแฟนแล้วใช่ไหมคะ?]
[มีแฟนแล้ว +1]
[มีแฟนแล้ว +10086]
[จริงเหรอคะ? คุณครูมีแฟนแล้วจริง ๆ เหรอคะ? มีความสุขมาก ๆ นะคะ]
ตามด้วยกล่องของขวัญหลายแถบลอยขึ้นมาพร้อมกับการประกาศด้วยเสียง
[หม่าเสี่ยเหวินส่งขนม 10 เม็ด]
[จางหลินหลินส่งดอกไม้ 10 ดอก]
[หลิวเจี๋ยส่งเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข 10 เม็ด]
...
ในระบบไลฟ์สด "สนุกคิดสตรีมมิ่ง" สิ่งเหล่านี้คือไอเท็มของขวัญ ซึ่งดอกไม้มีราคา 1 หยวน ขนมมีราคา 3 หยวน และเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขมีราคา 5 หยวน
กวนโย่วซวงห้ามไม่ให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะส่งของขวัญให้เธอเสมอ ซึ่งทำให้เด็ก ๆ ไม่พอใจ
โดยบอกว่าพ่อแม่ของพวกเขาอนุญาตให้พวกเขาใช้เงินค่าขนมได้อย่างอิสระ
สามารถซื้อขนมก็ได้ เล่นเกมก็ได้ และแน่นอนว่าสามารถให้ทิปกับสตรีมเมอร์ที่พวกเขาชื่นชอบก็ได้
[ในชั้นเรียนของเรามีคู่รักตั้ง 5 คู่แล้ว คุณครูอายุมากขนาดนั้นแล้ว การไม่คบใครสิถึงจะผิดปกติ]
[เห็นด้วย ๆ]
อายุมากขนาดนั้นแล้ว...
กวนโย่วซวงรู้สึกเหมือนถูกทำร้ายจิตใจในทันที
เธอยิ้มและถามว่า “พวกเธอเห็นว่าครูมีแฟนจากตรงไหนเหรอ?”
[คุณครูแทบจะเขียนคำว่า 'กำลังมีความรัก' ไว้บนหน้าผากแล้วนะครับ ชัดเจนขนาดนี้ยังต้องถามอีกเหรอ?]
[วันนี้คุณครูดูอ่อนโยนเป็นพิเศษเลยครับ]
[สีหน้าของคุณครูดูดีมากเลยค่ะ ดูเหมือนความรักชโลมใจ]
[อืม เข้าใจเลย]
พวกเด็ก ๆ พวกนี้ โตเป็นผู้ใหญ่กันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?
แต่เธอก็สงสัยเช่นกัน แค่ได้เจอเทพบุตรเพียงครั้งเดียว ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปมากขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?
แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้ เธอมีเรื่องที่สำคัญกว่า
เมื่อไลฟ์สดจบลง เธอรีบเปิดบัญชีของฉันทันที
ถอนเงิน 1,000 หยวน ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
