บทที่ 6 หล่อจัง!
“อยากกินอะไร?” กู้เอ่อหรงถาม
“นายพูดมาแบบนี้แล้ว ฉันต้องไถนายซะหน่อยแล้ว ไปเถอะ ร้านอาหารตามสั่ง”
“ไป”
จริง ๆ แล้วตัวอำเภอไม่ได้ใหญ่มาก ถนนสายหลักมีแค่สองสาย คือสายเหนือกับสายใต้
สำนักงานการไฟฟ้าและประปาของอำเภอตั้งอยู่บนถนนเล็ก ๆ ข้างถนนสายเหนือ
บริเวณโดยรอบมีแค่ร้านค้าเล็ก ๆ และตลาดขายส่งเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ รวมถึงสถานีขนส่ง ผู้คนและรถสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ทั้งวุ่นวายและเสียงดัง
นี่เป็นเหตุผลหลักที่ผู้นำยื่นเรื่องขอให้ย้ายสำนักงานบ่อยครั้ง
เซี่ยหย่วนหางยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา แล้วพูดว่า “แถวนี้เสียงดังเกินไป เราไปทางใต้กันเถอะ”
“ได้”
ขณะที่กำลังเดินผ่านประตูใหญ่ของตลาดขายส่งเฟอร์นิเจอร์ เซี่ยหย่วนหางก็อุทานออกมา
“เป็นอะไรไป?”
“เร็วเข้า ดูสิ” เซี่ยหย่วนหางชี้เข้าไปในตลาดแล้วขยี้ตา “นั่นผู้หญิงใช่ไหม?”
ตามทิศทางที่เขาชี้ กู้เอ่อหรงก็เห็น ผู้ที่กำลังลากเชือกหนา ๆ พาดบ่า และแบกกล่องกระดาษขนาดมหึมาไว้ข้างหลัง เดินเข้ามาอย่างใจเย็น ไม่ใช่ผู้หญิงคนหนึ่งหรอกหรือ?
เป็นผู้หญิงสวยที่ดูบอบบางคนหนึ่ง
“ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนี้แรงเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?” เซี่ยหย่วนหางมองเธอด้วยความสนใจ “ฉันต้องไปทำความรู้จักกับเธอหน่อยแล้ว”
“โย่วซวง เธอไหวไหม? หรือว่าเราหาคนช่วยย้ายดีกว่า” หญิงสาวผมเปียคนหนึ่งเดินตามมาข้างหลังและถามอย่างกระวนกระวาย
“ไม่มีปัญหา นี่มันเรื่องเล็กน้อย”
“แต่ว่า...เดี๋ยวก็มีตู้ชุดนั้นอีกนะ? เธออย่าฝืนตัวเองเลย”
กวนโย่วซวงยิ้มและไม่พูดอะไร
เธอก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีทักษะนี้เหมือนกัน
เมื่อสักครู่ เจ้าของร้านบอกว่าคนงานขนย้ายของพวกเขาจะมาถึงตอนบ่าย และขอให้พวกเธอรออีกสองสามชั่วโมง
เธอรู้ว่าร่างเดิมมักจะทำงานเกษตร และถือว่าเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีแรง เธอจึงตั้งใจจะลองด้วยตัวเอง
แต่เธอกลับแบกโซฟาขนาดใหญ่สำหรับสามที่นั่งได้อย่างง่ายดาย
เป็นเหมือนยอดมนุษย์เลย!
แม้แต่เจ้าของร้านก็ยังตะลึง!
โซฟาหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิง แม้แต่ผู้ชายที่แข็งแรงก็ยังต้องใช้สามคนช่วยกันยก
กวนโย่วซวงเดินออกไปนอกประตูใหญ่
เมื่อเห็นกู้เอ่อหรง เธอก็รู้สึกใจสั่นเล็กน้อย
ผมรองทรงมาตรฐาน ผิวสีแทน ความสูง 185 เซนติเมตร ข้าง ๆ มีชายหนุ่มหล่อสูง 175 เซนติเมตร การรวมตัวนี้รู้สึกคุ้นเคยนิดหน่อยนะ?
เธอมองเห็นสำนักงานการไฟฟ้าและประปาที่อยู่เยื้อง ๆ กัน และก็เข้าใจทันที
นี่ไม่ใช่ กู้เอ่อหรงกับเพื่อนของเขาหรอกเหรอ?
แม้ว่าในหนังสือจะมีการบรรยายรูปลักษณ์ของกู้เอ่อหรงไว้มากมาย แต่เมื่อได้เห็นตัวจริง เธอก็ยังรู้สึกว่าการบรรยายในหนังสือนั้นจืดชืดเกินไป
เขาทั้งหล่อเหลาบาดใจ มีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม แถมเขายังเคยเป็นทหาร ทำให้เขามีท่ายืนที่สง่างาม และมีอารมณ์ที่เยือกเย็น ทำให้หัวใจของกวนโย่วซวงเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ
แย่แล้ว นี่คือความรู้สึกของรักแรกพบ!
ในเวลานี้ เธออยากจะย้อนเวลากลับไป และตอบคำถามในกระทู้เว็บว่า "ถ้าว่าที่สามีในอนาคตหล่อมาก จะรู้สึกอย่างไร?"
กวนโย่วซวงรำพึงในใจ สาเหตุที่ชาติก่อนเป็นโสด ไม่ใช่เพราะรักการเรียน แต่เป็นเพราะยังไม่เจอผู้ชายที่ทำให้ใจเต้นจริง ๆ ต่างหาก!
ไม่นะ! เธอจะแสดงความเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งขนาดนี้ต่อหน้าเทพบุตรได้อย่างไร?
หลังจากที่เธอเหลือบมองกู้เอ่อหรงแวบหนึ่ง เธอก็รีบเร่งฝีเท้า ก้มหน้าลงและวิ่งไปที่สถานีขนส่งที่อยู่ข้าง ๆ
“โย่วซวง เธอรอฉันด้วยสิ วันนี้เธอเป็นอะไรไป? มีแรงเหลือเฟือใช่ไหม?”
กู้เอ่อหรงเม้มปากมองหญิงสาวคนนี้เงียบ ๆ
หญิงสาวคนนี้แต่งตัวธรรมดา เสื้อสูทสีแดงที่ซักจนซีดเล็กน้อย กางเกงสีดำทรงหลวมที่ซีดเช่นกัน
แต่เพราะเธอตัวสูงโปร่ง รูปร่างผอมเพรียว ชุดนี้กลับดูดีเล็กน้อย แถมเธอยังมีผิวขาว ใบหน้าสวยงาม คิ้วและดวงตาที่สดใสภายใต้หน้าผากที่เกลี้ยงเกลา
ทำให้เธอกลายเป็นสาวงามอย่างแท้จริง
แค่แวบเดียว กู้เอ่อหรงก็รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้มีความคล้ายคลึงกับคู่หมั้นของเขาเล็กน้อย
ที่บ้านเคยส่งรูปถ่ายของ “กวนเหล่ย” มาให้เขา ซึ่งก็มีใบหน้าที่สมส่วนเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับหญิงสาวตรงหน้า เขากลับรู้สึกว่ากวนเหล่ยขาดอะไรไปบางอย่าง
เมื่อนึกถึงคู่หมั้น เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเสียมารยาทเล็กน้อย และรีบหันสายตาไป
“น้องสาวเก่งมากจริง ๆ ขนเฟอร์นิเจอร์หนักขนาดนี้ได้ พี่เซี่ยขอชื่นชมจากใจจริง และอยากทำความรู้จักกับน้องสาว ไม่ทราบว่าน้องสาวชื่ออะไร?”
เซี่ยหย่วนหางรีบเดินเข้าไปทักทาย
“พี่ชายคะ ถ้ามีเวลาช่วยพวกเราขนตู้ชุดข้างในนั้นดีกว่าค่ะ” เหลียงอวี้ถิงชี้เข้าไปในตลาดขายส่ง
“พวกเราต้องรีบไปขึ้นรถประจำทางกลับกวนเสียกู่ ถ้าช้ากว่านี้จะตกรถค่ะ”
เซี่ยหย่วนหางใช้คางชี้ไปที่กวนโย่วซวง ในท่าทีที่บอกว่า "เธอแรงเยอะขนาดนั้น ไม่เห็นต้องให้พวกเราช่วยเลย"
กวนเสียกู่เหรอ?
ใจของกู้เอ่อหรงสะดุดเล็กน้อย คู่หมั้นของเขาก็มาจากกวนเสียกู่เหมือนกัน
“พวกคุณมาจากกวนเสียกู่เหรอ?” เขาถาม
“ใช่ค่ะ” เหลียงอวี้ถิงพยักหน้า
“อ้าว พี่หรง คู่หมั้นของนายก็มาจากกวนเสียกู่ไม่ใช่เหรอ?”
“อ๊ะ? ใช่เหรอ? บังเอิญจังเลย คู่หมั้นคุณชื่ออะไรเหรอ? ฉันรู้จักสาว ๆ ในหมู่บ้านเราเกือบหมด”
“กวนเหล่ย”
เหลียงอวี้ถิงอ้าปากกว้าง
เธอรู้ว่าบ้านตระกูลกวนหาคู่ครองที่ดีให้กวนเหล่ย แต่ไม่คิดว่าจะเป็นชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า!
“กวนเหล่ย? ถ้างั้นคุณก็คือคุณกู้...คุณกู้... อะไรนั่นใช่ไหม? บังเอิญจังเลย! รีบช่วยพี่สะใภ้ขนของเร็วเข้า”
“พี่สะใภ้เหรอ?” เซี่ยหย่วนหางสงสัย
“เธอชื่อกวนโย่วซวง เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของกวนเหล่ย ไม่เรียกพี่สะใภ้แล้วจะเรียกอะไร?”
เหลียงอวี้ถิงยังไม่รู้เรื่องที่สองพี่น้องจะสลับตัวกันแต่งงาน
“ให้ตายเถอะ บังเอิญจริง ๆ” เซี่ยหย่วนหางอุทาน
น้องสาวกำลังจะแต่งงาน พี่สาวก็ต้องแต่งงานไปนานแล้ว
เซี่ยหย่วนหางไม่กล้าคิดอะไรกับกวนโย่วซวงอีกต่อไป
จริง ๆ แล้วกู้เอ่อหรงค่อนข้างสับสน ตอนที่แม่สื่อพูดถึงการแต่งงานครั้งนี้ เธอก็แนะนำสถานการณ์ของบ้านตระกูลกวน เขาจึงรู้ว่าบ้านตระกูลกวนมีลูกสาวสองคน
เขาอายุ 26 ปีแล้ว และรู้สึกว่าตัวเองอายุมากเกินไป เขาจึงเสนออย่างนุ่มนวลว่าควรแนะนำลูกสาวคนโตของบ้านตระกูลกวนให้เขาดีกว่า เพราะอายุจะห่างกันน้อยกว่า
แต่แม่สื่อโบกมือและบอกว่า ลูกสาวคนโตของบ้านตระกูลกวนทั้งน่าเกลียด ขี้เกียจและสกปรก แถมยังมีนิสัยเงียบขรึม
แม้แต่ผู้ชายที่แต่งงานครั้งที่สองแล้วก็ยังไม่ค่อยอยากได้เธอเลย
น่าเกลียดเหรอ?
ขี้เกียจเหรอ?
สกปรกเหรอ?
หญิงสาวตรงหน้า ไม่ว่ามองมุมไหนก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับคำคุณศัพท์เหล่านี้เลย!
“ยังไม่รีบไปช่วยอีก?” เหลียงอวี้ถิงผลักกู้เอ่อหรง แล้วชี้ไปที่กวนโย่วซวงที่เข้าไปในสถานีขนส่งแล้ว
ในไม่ช้า ชายหนุ่มสองคนก็ช่วยกันขนโซฟาและตู้ชุดขึ้นรถประจำทาง
เนื่องจากคนขับรถประจำทางเป็นเพื่อนเล่นในวัยเด็กของกู้เอ่อหรง เขาจึงตบหน้าอกรับประกันว่าจะช่วยขนเฟอร์นิเจอร์ไปส่งถึงบ้านให้พวกเธอ
กวนโย่วซวงตั้งใจจะเลี้ยงข้าวกู้เอ่อหรงและเพื่อนของเขา แต่รถประจำทางใกล้จะออกแล้ว
เธอจึงทำได้แค่ไปซื้อบุหรี่ยี่ห้อหงต้าซานสองซองจากร้านขายของชำที่สถานีขนส่ง และยัดใส่มือพวกเขา
บนรถ
เหลียงอวี้ถิงกำลังแทะเมล็ดแตงโม แล้วพูดว่า “คู่หมั้นที่แม่เธอหาให้กวนเหล่ยดีจริง ๆ”
“เธอจะขอแลก”
“แลกอะไร?”
“แลกคู่หมั้น”
มือที่ถือเมล็ดแตงโมของเหลียงอวี้ถิงชะงักกลางอากาศ เธอพยายามคิดวนไปวนมาในสมอง
“หมายความว่าไง?”
“ก็ตามตัวอักษรเลย เธออยากแต่งงานกับจ้าวหยางจากจ้าวโกว ส่วนฉันแต่งงานกับกู้เอ่อหรง แม่ของฉันก็ยอมเธอแล้ว”
“ดีมากเลย โย่วซวง” เหลียงอวี้ถิงดึงกวนโย่วซวงเข้ามา แล้วจุ๊บที่แก้มของเธอ
“ฉันชอบเห็นกวนเหล่ยโง่แบบนี้ที่สุดเลย ในที่สุดชีวิตที่ลำบากของเสี่ยวซวงก็กำลังจะจบลงแล้ว”
