บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ทะลุมิติ

“แม่คะ ในเมื่อน้องอยากแต่งงานกับตระกูลจ้าว ก็ปล่อยให้เธอแต่งไปเถอะค่ะ ยังไงฉันก็ไม่มีความเห็นอะไร”

กวนโย่วซวงพูดอย่างเกียจคร้าน พลางเอื้อมมือไปที่จาน ซึ่งมีหมั่นโถวแป้งข้าวโพดสามลูก และหมั่นโถวแป้งสาลีสองลูกวางอยู่

เธออยากกินหมั่นโถวแป้งสาลี

“เธอจะทำอะไร?”

จางไฉ่เหอที่อยู่ตรงข้ามปัดมือเธอออกทันที พร้อมกับตะคอกด้วยสายตาจ้องเขม็งว่า “ไม่รู้หรือไงว่าหมั่นโถวแป้งสาลีมีไว้สำหรับน้องชายกับน้องสาว?”

“โถ่...แม่คะ”

กวนเหล่ยที่อยู่อีกด้านของโต๊ะคล้องแขนแม่ของเธออย่างสนิทสนมและออดอ้อนว่า “วันนี้ฉันไม่อยากกินแป้งสาลี ให้พี่สาวกินเถอะค่ะ”

พูดจบ เธอก็กวาดตาไปรอบ ๆ แล้วหยิบหมั่นโถวแป้งสาลีลูกหนึ่งส่งให้กวนโย่วซวงอย่างใจกว้าง

กวนโย่วซวงไม่ปฏิเสธ รับมาแล้วก็กินทันที พร้อมกับคีบหัวไชเท้าดองเปรี้ยว ๆ มาสองสามชิ้น

กว่าเธอจะเข้าใจว่าตัวเองตายอย่างกะทันหันและได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยายยุคนี้ กลายเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลกวนที่ไม่เป็นที่รัก เธอก็อดอาหารมาสองวันแล้ว

พูดถึงเจ้าของร่างเดิมก็น่าสงสารจริง ๆ เมื่อวานถูกไล่ให้ไปตัดฟืนที่ภูเขาทางตะวันตก

พอกลับมาตอนสี่ทุ่ม ก็ตาเหม่อลอย สีหน้าซีดเหลือง นอนอยู่บนเตียงไม่ไหวติง

แน่นอนว่าเธอรู้ว่าทำไมกวนเหล่ยถึงไม่เลือกแต่งงานกับกู้เอ่อหรง ชายหนุ่มรูปงามที่มีอนาคตไกล

แต่กลับแย่งจ้าวหยาง ชายวัย 30 ปีที่หมั้นหมายกับร่างเดิมแล้ว

เพราะในนิยายต้นฉบับ จ้าวหยางเป็นคนร่ำรวยที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแถบนี้ ไม่เพียงแต่จะซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้ร่างเดิมเป็นประจำหลังแต่งงาน

แต่การจัดงานแต่งงานก็ทำให้ร่างเดิมได้รับความสนใจอย่างมาก

ส่วนกวนเหล่ย แม้ว่าจะได้แต่งงานกับชายในฝันที่พ่อแม่เลือกให้ แต่เนื่องจากกู้เอ่อหรงไม่มีบ้านในเมือง

กวนเหล่ยจึงต้องอยู่กับพ่อแม่สามีในหมู่บ้านในช่วงแรก และอยู่ร่วมกับกู้หยวนหยวน หลานชายวัย 7 ขวบของกู้เอ่อหรงด้วย

พี่ชายและพี่สะใภ้ของกู้เอ่อหรงไปทำงานต่างเมืองเป็นประจำ เด็กจึงอยู่กับปู่และย่า

ด้วยเหตุนี้ กวนเหล่ยจึงรู้สึกไม่พอใจ มักจะจู้จี้จุกจิกกับเด็ก

สิ่งที่ทำให้กวนเหล่ยไม่พอใจยิ่งกว่าคือสุขภาพของพ่อแม่สามีไม่ค่อยดี ต้องกินยาเป็นประจำ

ไม่ต้องพูดถึงว่าจะช่วยอะไรเธอได้มากน้อยแค่ไหน แค่ค่ารักษาพยาบาลก็ต้องใช้เงินก้อนใหญ่แล้ว

พี่สาวมักจะสวมเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ล่าสุด ส่วนเธอมีเงินติดตัวแค่เล็กน้อยทุกเดือน เธอคิดมากเข้าก็ยิ่งโกรธ ด่าว่าพ่อแม่สามีว่าเป็นตัวถ่วง

ถึงกับนำเงินค่ารักษาพยาบาลที่สามีส่งมาให้พ่อแม่สามีไปซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเอง

กู้เอ่อหรงทนไม่ไหวจึงขอหย่า กวนเหล่ยรับไม่ได้ จุดไฟเผาบ้านกู้เอ่อหรง ครอบครัวเก่าแก่จึงเสียชีวิตในกองเพลิง ส่วนตัวเธอก็ฆ่าตัวตายตามไป

เป็นโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง

น่าเสียดายและน่าอนาถใจ

กวนโย่วซวงเคี้ยวหมั่นโถวแป้งสาลีคำโต

จางไฉ่เหอมองเธออย่างดุดัน จากนั้นหันหน้าไป สลับเป็นน้ำเสียงอ่อนโยนของแม่ผู้ใจดี พลางตบมือลูกสาวคนเล็ก แล้วกล่าวว่า

“เหล่ยเหล่ย ลูกอย่าเอาแต่ใจเลย ลูกชายตระกูลกู้คนนั้นเป็นข้าราชการกินเงินเดือนของรัฐ แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย มีกี่ครอบครัวที่อยากจะดองกับเขา

ถ้าไม่ใช่เพราะน้าสะใภ้ของลูกสนิทกับหวังฮุ่ยอิง แม่ของกู้เอ่อหรงตั้งแต่ยังสาว เรื่องดี ๆ แบบนี้จะตกถึงบ้านเราได้ยังไงกัน”

“แต่...แม่คะ”

กวนเหล่ยอยากพูดแต่ก็หยุดไว้ เธอจะอธิบายยังไงดีว่าจริง ๆ แล้วเธอเกิดใหม่ และรู้ว่าอนาคตของเธอจะน่าเศร้าแค่ไหนถ้าแต่งงานไป แต่เธอก็ไม่รู้จะทำยังไงให้แม่เข้าใจ

“แม่ขา~” กวนเหล่ยทำปากจู๋ออดอ้อนอีกครั้ง “พี่สาวก็ยอมให้สลับคู่แล้ว แม่ก็ตกลงให้ฉันเถอะนะคะ ฉันอยากแต่งงานกับตระกูลจ้าวจริง ๆ ค่ะ”

“ในเมื่อโย่วซวงตกลง ก็แล้วแต่เด็ก ๆ เถอะ”

กวนซิงกั๋ว ซึ่งเงียบมาตลอดกล่าว “ถึงแม้ลูกชายคนโตของตระกูลจ้าวจะอายุมากไปหน่อย แต่ก็เป็นครอบครัวที่ซื่อสัตย์ และฐานะทางบ้านก็ไม่เลวด้วย”

“ฮะ? คุณว่าไงนะ?” จางไฉ่เหอขึ้นเสียงสูงอย่างตื่นเต้น

“มีเงินแค่ไหนก็เป็นชาวนา จ้าวหยางอายุ 30 แล้ว ส่วนเหล่ยเหล่ยอายุแค่ 21 แถมเหล่ยเหล่ยก็ผิวพรรณดี คุณทนให้ลูกเป็นชาวนาไปตลอดชีวิตได้เหรอ?”

“แม่ แล้วทำไมพี่ซวงถึงแต่งได้ล่ะ?” กวนรุ่ยเจี๋ยวัย 12 ปี เท้าคางถามอย่างจริงจัง

“เด็กอย่างลูกจะไปรู้อะไร กินเสร็จแล้วรีบไปทำการบ้านไป๊”

“แม่ก็แค่ลำเอียง ไม่ยอมรับ” กวนรุ่ยเจี๋ยยัดหมั่นโถวเข้าปากแล้ววิ่งออกไป

“อ้าว! ลูกจะไปไหน? ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ? เฮ้อ! เวรกรรมจริง ๆ!”

ในเวลานี้ กวนโย่วซวงกินหมั่นโถวเสร็จแล้ว เธอลุกขึ้นยืนและพูดอย่างใจเย็นว่า

“แม่คะ แม่ไม่ต้องมองแค่ว่ากู้เอ่อหรงมีงานทำนะคะ จริง ๆ แล้วงานของเขาเป็นงานชั่วคราว แถมกู้เอ่อหรงยังมีพี่ชายอีกคนด้วย

พวกเขายังไม่ได้แยกบ้านกันเลย แล้วเหมือนหลานชายของเขาก็อยู่กับพวกเขาด้วยไม่ใช่เหรอคะ...”

จางไฉ่เหอผงะไป “เธอไปได้ยินเรื่องไร้สาระแบบนี้มาจากไหน?งานที่การไฟฟ้าและประปาเป็นงานที่ได้รับการจัดสรรอย่างเป็นทางการเลยนะ

ส่วนเรื่องแยกบ้านหรือไม่แยกบ้านไม่สำคัญหรอก เหล่ยเหล่ยแต่งงานไปก็จะได้ตามกู้เอ่อหรงไปอยู่ในเมือง”

“นั่นมันแค่สิ่งที่เขาพูดให้แม่ฝันหวาน” กวนโย่วซวงกล่าวอย่างเฉยเมย

“กู้เอ่อหรงก็อายุไม่น้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยแต่งงาน แต่พอพ่อเขาเพิ่งล้มจนเอวหัก ก็รีบร้อนจะหาภรรยา แม่ไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไรเหรอ?”

“ปัญหาอะไร?”

กวนโย่วซวงแกล้งหยุดเล็กน้อยแล้วพูดช้า ๆ ว่า “เขาต้องการหาภรรยาราคาถูกเพื่อมาปรนนิบัติพ่อของเขาฟรี ๆ”

กวนเหล่ยรู้สึกตกใจไปทั้งตัว!

ใช่! ใช่แล้ว! ความจริงก็เป็นแบบนี้แหละ!

เธอเหลือบมองกวนโย่วซวงอย่างระมัดระวัง ในใจก็สงสัยว่าทำไมพี่สาวของเธอที่ปกติเป็นคนเฉื่อยชาและยอมคนง่ายถึงได้ดูแตกต่างออกไป?

เรื่องที่แม่ของเธอยังไม่รู้รายละเอียดดี ทำไมพี่สาวถึงรู้ชัดเจนขนาดนี้? แถมยังพูดได้ถูกต้องอีกด้วย

ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อรู้ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังยอมสลับคู่กับเธออีก?

ไม่นาน ความสงสัยของเธอก็ถูกถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาลของแม่

“เหล่ยเหล่ยเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อกับแม่”

กวนโย่วซวงเหลือบมองและพูดอย่างไม่รีบร้อนว่า

“เธอไม่เคยทำงานบ้านหรือทำอะไรเลยตั้งแต่เด็กจนโต แม่ของกู้เอ่อหรงก็สุขภาพไม่ดี พ่อของเขาก็บาดเจ็บ เหล่ยเหล่ยแต่งไปแล้วไม่เพียงแต่ต้องดูแลพวกเขาเท่านั้น แต่ยังต้องออกไปทำนาทำไร่อีก

ถึงตอนนั้นพ่อกับแม่ก็คงจะสงสาร ส่วนฉัน...ไม่ว่าแต่งงานกับใครก็ไม่สำคัญอะไร ฉันมีแรง ทำงานได้ อยู่ชนบทก็ไม่เสียเปรียบหรอกค่ะ”

จางไฉ่เหอครุ่นคิดอยู่นาน น้ำเสียงในที่สุดก็อ่อนลง

“หายากที่ลูกจะคิดถึงน้องได้ขนาดนี้ เอาเถอะ ทางตระกูลกู้เขาต้องการคนเร่งด่วน ลูกก็แต่งไปก่อนเถอะ”

จางไฉ่เหอมองไปที่กวนซิงกั๋ว และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ส่วนทางตระกูลจ้าว ดูว่าจะยกเลิกได้ไหม”

กวนซิงกั๋วดื่มชาอึกสุดท้าย แล้วกล่าวว่า “เขาให้สินสอดมาครึ่งหนึ่งแล้ว อีกอย่างตลอดช่วงที่ผ่านมา ตระกูลจ้าวก็ไม่ได้ให้ของกับบ้านเราน้อยเลย

ถ้าถอนหมั้นตอนนี้ ต่อไปเราจะเงยหน้าอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้ยังไง”

“คุณหมายความว่าไง? คุณใจแข็งพอที่จะให้เหล่ยเหล่ยแต่งงานไปจริง ๆ เหรอ?”

กวนซิงกั๋วยังไม่ทันได้พูด กวนเหล่ยก็รีบร้อน

“แม่คะ! แม่คะ! ถอนหมั้นไม่ได้! ฉันไม่อยากแต่งงานกับใครทั้งนั้น! ฉันจะแต่งงานกับจ้าวหยาง!”

เพื่อที่จะได้เป็นคุณนายผู้ร่ำรวยในอนาคต กวนเหล่ยไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรีแล้ว และพูดเสียงดังว่า “ฉันชอบเขา!”

จางไฉ่เหอมองลูกสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อ พลางแตะหน้าผากเธอ

“เหล่ยเหล่ย ลูกไม่สบายเหรอ ลูกไม่เคยเจอจ้าวหยางด้วยซ้ำ”

“ฉัน...ฉันเคยเจอค่ะ แม่คะ ถ้าแม่รักฉันจริง ๆ ก็ตกลงเถอะนะคะ แม่เชื่อฉันนะ ฉันจะต้องมีความสุขมาก ๆ แน่นอนค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel