บท
ตั้งค่า

ฟ้าผ่ากลางใจ

เมษาจัดการตัวเองเสร็จแล้วออกเดินทางไปทำงาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40นาที เพราะต้องนั่งรถสองต่อ ต่อแรกเป็นรถสองแถว ต่อที่สอง รถไฟฟ้า แล้วเดินเข้าซอยอีกเล็กน้อยเพื่อเข้าออฟฟิศ พอถึงที่ทำงานเมษาก็เตรียมตัวทำงาน นั่งไปได้สักพักพี่ที่แผนกก็บอกว่าพี่บุ๋มเรียกพบ

“เมษาพี่บุ๋มเรียกพบนะ”

“ค่ะพี่ ขอบคุณนะคะ” เมษาขานรับแล้วเดินไปหาพี่บุ๋มที่ห้อง

“พี่บุ๋มสวัสดีค่ะ” เมษาสวัสดีทักทาย

“สวัสดีจ้ะ” พี่บุ๋มยิ้มรับ

“พี่เรียกหนูมีงานอะไรจะสั่งเหรอคะ” เมษาถามเพราะปกติพี่บุ๋มเรียกมาจะให้ช่วยทำงานนู้นนี้ตลอด

“เปล่าหรอกจ้ะ พอดีพี่เรียกมาคุยเรื่องที่น้องเมหยุดวันนี้น่ะ”

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามด้วยความสงสัย

“พอดีเจ้านายเขามาตรวจแผนกแล้วเห็นว่าเมลาโดยไม่แจ้งล่วงหน้าน่ะ เขาเลยยื่นขอเสนอ ถ้าเมเต็มใจลาออกจะให้เงินเดือนพร้อมโบนัส 1ปีจ้ะ แต่ถ้าน้องเมจะทำงานต่อเขาจะให้หักเงิน30 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน”

“แต่พี่บุ๋มคะ ตั้งแต่เมทำงานมาเมไม่เคยขาดลาหรือมาสายสักครั้งเลยนะคะ” เมษาแย้งเพราะทำงานมาแทบตายขอลาครึ่งวันโดนขอให้ออกซะงั้น

“พี่เข้าใจ...แต่เจ้านายเขาบอกมาแบบนี้พี่ก็พยายามช่วยแล้วแต่ไม่ได้จริงๆ” บุ๋มตอบ เธอพยายามช่วยแล้วเพราะเธอเห็นว่าเด็กคนนี้ขยันจริงๆ เลยเสนอทางนั้นเรื่องโบนัสให้แทน จะทำไงได้ละนะเขาอยากให้หลานเขาเข้ามาทำแทน

“ถ้างั้นเมยอมลาออกก็ได้ค่ะ”

“อะนี่จ้ะ เจ้านายเขาเตรียมเงินสดไว้ให้เลยนะ วันนี้เมไม่ต้องทำงานก็ได้นะเก็บของกลับบ้านได้เลย” พี่บุ๋มยื่นซองเงินหนาปึกให้เมษา

“ขอบคุณค่ะ” เมที่เซ็นใบลาออกเรียบร้อย รับซองจากพี่บุ๋มแล้วเดินออกไปเก็บของกลับบ้าน ท่ามกลางเสียงซุบซิบถึงความโชคร้ายของเมแล้วดีใจที่ไม่ใช่ตนที่โดนออก

เมษาเดินหามุมลับตาคนแล้วเก็บสมบัติทั้งหลายเข้ามิติ เดินทางกลับห้องด้วยความห่อเหี่ยว พอถึงห้องก็นอนนิ่งๆ บนเตียงจนถึงเย็น เมนึกอะไรบางอย่างได้แล้วดีดตัวขึ้นมาอย่างเร็ว

“ขนาดผ้าห่มยังเพิ่มจำนวน แล้วถ้าเป็นเงินละจะได้ไหมนะ”

เมษาวิ่งกุลีกุจอไปหากระเป๋าตัวเองด้วยความรวดเร็ว หยิบเงินขึ้นมาแล้วพูดว่าเก็บเบาๆ เงินก็หายวับไป สักพักเมษาเรียกเงินออกมา แล้วหลับตาแล้วตั้งจิตเข้าไปในมิติ พอเพ่งมองเข้าไปก็เจอซองเงินจริงๆ พอลองเอาออกมามันมีเงินอยู่ในนั้นเมษาถึงกลับกรี๊ดลั่นห้อง

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆ รอดแล้ว รอดตายแล้ว ฮื้อๆ แม่จ๋า”

หลังจากเมได้สติแล้วก็มานั่งลิสต์ของที่จะตุนแบบจริงจังว่าจะซื้ออะไรเก็บไว้บ้าง เธอคิดว่าถ้าไม่ได้ไปไหนกะจะเปิดร้านข้าวราดแกงถูกๆ เพราะอย่างน้อยต้นทุนก็ไม่มาก แล้วเดือนนี้จะส่งเงินให้แม่นางเยอะๆ หน่อย เพราะยังไงแม่นางก็เลี้ยงเธอมาแถมยังดีกับเธอมากๆ ตลอดเวลาที่มาทำงาน เธอส่งเงินให้แม่นาง มากบ้าง น้อยบ้าง แม่นางไม่เคยเรียกร้องขอเพิ่มเลยสักครั้ง นอกจากจะถามว่าพอกินใช่ไหมลูก แต่คิดก็น้ำตาซึมแล้ว คิดถึงแม่นาง

“ตุนของเสร็จแล้วกลับไปหาแม่นางดีกว่า” เมษาลิสต์รายการพร้อมยิ้มด้วยความตื่นเต้น หลังลิสต์เสร็จเธอก็ทานข้าวอาบน้ำ นอนรอออกไปซื้อของในวันพรุ่งนี้….

ในขณะที่เธอนอนหลับนั้น เธอก็ฝันในฝันนั้นเหมือนเธออยู่กลางปุยเมฆ เธอเห็นหญิงชราคนหนึ่ง ดูคุ้นมากเหมือนเคยเห็นแต่นึกไม่ออกเธอเลยตัดสินใจเดินเข้าไปหา “คุณยายค่ะ” พอหญิงชราหันมาเธอถึงกับตะลึงเพราะหญิงชราคนนี้คือคนๆเดียวกันกับที่ขายแหวนเงินให้เธอเอง “ลูกแม่ในที่สุดเราก็เจอกันเสียที” หญิงชรายิ้มตอบ “มะแม่อะไรกัน..คุณยายคือมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ” เธอละล่ำละลักถามคุณยายด้วยความตกใจ หญิงชรายิ้มแล้วบอกเธอว่า

“เหลือเวลาไม่มากแล้วนะเตรียมตัวให้พร้อม ของที่ให้ไปคงช่วยหนูได้มากมิติแห่งนั้นแม่ยกให้ถือว่าชดใช้ที่แม่ไม่สามารถเลี้ยงหนูได้” หญิงชรายิ้มให้อย่างอ่อนโยน “มะ...มะแม่เหรอคะ คุณคือแม่ของหนูเหรอคะ ฮึ้กฮือออ…” เมษาถามหญิงชราทั้งน้ำตา ในใจเธอรู้สึกมีความสุขมากอย่างน้อยๆ เธอก็ได้เห็นหน้าแม่ชัดๆ อีกครั้ง

“ไม่ต้องร้อง หนูต้องรีบเตรียมตัวแล้วนะลูกหนูเหลือเวลาแค่ 7 วันเท่านั้น อ้อมิตินั้นถ้าเก็บของอะไรเข้าไปใช้ได้ไม่มีวันหมดเป็นมิติคงสภาพไม่เน่าเสีย แล้วก็สามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปได้ด้วยนะ” หญิงชราบอกพลางลูบหัวเมษาอย่างอ่อนโยน

“หนูขอเวลาเพิ่มอีกสักหน่อยได้ไหมคะหนูอยากอยู่กับแม่นางในวาระสุดท้ายของหนู หนูอยากตอบแทนเธอ ฟื้ดดด…” เธอสูดน้ำมูกพลางออดอ้อนหญิงชราที่พึ่งรู้ว่าเป็นแม่อย่างออดอ้อน

“ก็ได้ๆ ให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ แล้วที่ที่ลูกต้องไปอยู่เป็นยุคที่แร้นแค้นนิดหน่อยเตรียมตัวให้ดีละ แม่ต้องไปแล้ว”

“ค่ะแม่” เธอตอบรับแล้วก็ก้มลงกราบแทบเท้ามารดาผู้ให้กำเนิด ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย….......

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel