บท
ตั้งค่า

บทที่20 เงินหมื่นหยวน

กัวเหม่ยอิงมองเงินเกือบหมื่นหยวนที่วางอยู่บนเตียงด้วยความเงียบ เธอรู้ว่าทหารที่พลีชีพในระหว่างปฎิบัติหน้าที่นั้นครอบครัวของเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาล โดยมีเงินค่าทำขวัญให้ตามความเหมาะสมของตำแหน่งหรือตามที่เห็นสมควร

อย่างพ่อสามีที่ได้พลีชีพไปทางรัฐบาลก็ได้ให้เงินค่าทำขวัญมาหนึ่งพันหยวนและเป็นบ้านใหญ่ที่เอาเงินไป ซึ่งเงินพวกนี้ไม่ได้รวมกับที่บ้านใหญ่มาเอาไป เพราะแม่สามีเห็นว่าสามีของนางก็เป็นลูกชายของสกุลหานจึงให้พวกเขาเอาไปทั้งหมด

ก่อนหน้านี้หลังจากกินข้าวมื้อเย็นเสร็จทุกคนต่างเข้าห้องนอนของตัวเอง

และเป็นสะใภ้รองกับน้องชายรองที่มาเคาะห้องพร้อมกับเงินจำนวนมากที่กัวเหม่ยอิงไม่เคยคิด

เงินของหานหรงเจ๋อได้มามากถึงห้าพันหยวน เป็นจำนวนห้าเท่าของพ่อสามีด้วยซ้ำ และยังมีเงินที่สามีของเธอเก็บเอาไว้อีกสองพันกว่าหยวน นอกจากนี้ยังมีเงินของน้องชายรองที่เกษียณทหารออกมาอีกสามพันหยวน

อันที่จริงเงินของน้องชายรองกัวเหม่ยอิงให้พวกเขาเอาคืนไปด้วย เพราะแค่เงินของสามีมันก็เพียงพอแล้ว แต่พวกเขาปฎิเสธอีกทั้งบอกพี่สะใภ้คนโตก็เหมือนแม่ และพวกเขาก็เคารพเธอมากด้วย อีกทั้งไหนจะสร้างบ้านอีก

สุดท้ายจึงจบด้วยการที่กัวเหม่ยอิงคืนเงินพวกเขาไปหนึ่งพันหยวน เงินพวกนี้เธอจะไม่เข้าไปยุ่งไม่ว่าพวกเขาจะเอาไปให้ใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ พอรวมกับที่มีอยู่มันก็มากถึงหนึ่งหมื่นหยวนเลยทีเดียว

นอกจากเงินแล้ว น้องชายรองยังมีคูปองกลับมาด้วยอีกเต็มกระเป๋า ต้องบอกว่าทั้งกระเป๋าของเขานั้นมีเพียงชุดเดียวที่เหลือมันเป็นคูปองและเงิน

ระหว่างที่สองสามีภรรยาเข้ามาในห้อง กัวเหม่ยอิงได้เปิดประตูตู้ไว้และข้างในเต็มไปด้วยธัญพืชและของใช้ส่วนตัวของเธอ เธอเห็นน้องสะใภ้สำรวจแต่หล่อนไม่ได้มีสีหน้าแปลกใจทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ซื้อธัญพืชมาเลยแต่ธัญพืชที่มีกลับไม่ลดลง ไหนเธอจะบอกให้หล่อนหยิบกล่องเงินให้ขนาดชี้ให้ดูหล่อนยังไม่เห็น มันเกิดอะไรขึ้น?

การสร้างบ้านหลังหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายและใช้เวลาไม่น้อย ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมากัวเหม่ยอิงเหนื่อยมากเพราะไปดูแลการสร้างบ้านทุกวัน เพราะหากเกิดปัญหาจะได้แก้ง่าย ส่วนลูกสาวเธอก็ได้จ้างแม่กัวมาดูแลลูกสาวให้ นอกจากลูกสาวแล้วก็มีเสี่ยวหนิงที่แม่ของเธอก็เลี้ยงบ้าง

น้องชายสามไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะไม่มีใครดูแลลูกสาวให้ แม้จะมีแม่กัวมาช่วยแต่เขาก็ไม่ได้ถูกอนุญาตให้ไปทำงาน

“ผักพวกนี้เราเริ่มจะกินไม่ทันแล้ว” สะใภ้รองบอกกัวเหม่ยอิงที่กำลังถอนหญ้าในแปลงผักหลังบ้าน

กัวเหม่ยอิงพยักหน้า “อืม ถ้าเธอว่างก็เข้าไปซื้อไหในตำบลที” เธอจะทำผักดองเอาไว้กินในบ้าน

ไหที่ซื้อมานั้นถูกขายไปพร้อมกับหน่อไม้บางส่วนแล้ว แต่บางส่วนก็ใส่หน้อไม้เก็บไว้อยู่ และมันก็ไม่มีไหที่ว่างเลย

“ตอนนี้เกวียนในหมู่บ้านถูกนำไปขนธัญพืชหมดแล้วค่ะ เราคงต้องรอให้พวกเขาเลิกงานกันก่อน แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะให้ยืมไหม” สะใภ้รองตอบ

เนื่องจากภายในหมู่บ้านมีรถที่ใช้เข็นธัญพืชคันเดียว และแน่นอนว่าถ้าใช้คันเดียวเข็นมันคงจะไม่ทันการเก็บเกี่ยว

คนในหมู่บ้านจึงหารือกัน บ้านไหนที่มีเกวียนวัวก็ให้เอาออกไปขนธัญพืช แต่ไม่ใช่ว่าให้เอาไปขนฟรี ๆ เกวียนหนึ่งเล่มที่เอาออกมาใช้ คนในบ้านจะได้คะแนนเพิ่มคนละหนึ่งคะแนนตลอดระยะเวลาเก็บเกี่ยว บ้านไหนจำนวนคนเยอะก็ได้เปรียบ แต่บ้านไหนคนน้อยก็เสียเปรียบหน่อย

“ไม่ใช่ว่าคนงานสร้างบ้านเอาเกวียนวัวมาใช้หรือ”

วันแรกคนงานมาด้วยรถบรรทุกของ แต่ด้วยความที่ภายในหมู่บ้านทางขรุขระมาก วันต่อ ๆ มาคนงานจึงเอาเกวียนวัวของที่บ้านมาใช้เพราะเข้ามาสะดวกกว่า ถ้าให้เดินมากว่าจะถึงก็คงจะเหนื่อยกันมาก

“โอ้ นั่นสิ!” สะใภ้รองเพิ่งนึกขึ้นได้ เอาไว้ตอนที่ว่างค่อยไปยืมก็แล้วกัน เพราะที่บ้านมีน้องชายสามจึงไม่เป็นปัญหาหากบังคับเกวียนไม่เป็น

กัวเหม่ยอิงเลือกผักที่โตพอจะเอามาทำอาหารได้แล้วออกจากแปลงผัก ก่อนจะนำไปล้างแล้วตากแดดเอาไว้ พรุ่งนี้จะได้นำมามาดองใส่ไหพอดี

ผักที่กัวเหม่ยอิงจะนำมาดองมีผักกาด ผักกวางตุ้งและหัวไชเท้า ที่จริงมันยังเหลืออยู่อีกหลายชนิดแต่ยังเก็บเกี่ยวไม่ได้ต้องรออีกหน่อย

“ผมอยากไปดูบ้านครับ” เป็นน้องชายรองบอก

นอกจากเอาซาลาเปาหรือกับข้าวอย่างอื่นไปส่งให้คนงานน้องชายรองก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่ตอนนี้อาการของเขามันดีขึ้นมากหากเขายังอยู่ที่กองทัพตอนนี้คงออกไปทำภารกิจแล้ว

และจะให้เขามานอนเป็นคนป่วยต่อไปน้องชายรองก็ไม่ขอทน ด้วยตอนนี้ภรรยากับน้องชายออกไปซื้อของตามที่พี่สะใภ้สั่งเขาจึงมาขอพี่สะใภ้

กัวเหม่ยอิงถาม “นายหายดีแล้วเหรอ”

“ยังไม่หายดีแต่ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ” เขาตอบ

“เดี๋ยวเอาไว้หลังการเก็บเกี่ยวครั้งนี้ก็แล้วกัน ค่อยออกไปขึ้นเขากับบ้านกัว ฉันเข้าใจว่านายไม่คุ้นชิน แต่สะใภ้รองคงจะไม่พอใจหากฉันอนุญาตนาย” กัวเหม่ยอิงอธิบาย

จริง ๆ อาการของน้องชายรองมันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เพียงแต่เขาจะขัด ๆ ไม่คุ้นชินกับอาการต่าง ๆ ก็เท่านั้น อีกอย่างเธอก็คิดไว้แล้วว่าการเก็บเกี่ยวเสร็จจะให้พี่ใหญ่เข้าไปล่าสัตว์ เพราะหากพี่ชายได้แต่งงานกับแม่ม่ายลู่จริง ๆ จะได้มีเนื้อสัตว์ในงาน หากไปซื้อคงจะได้มาน้อยมากเพราะเนื้อหมูมีจำกัด และบางทีก็ไม่ทันคนอื่น

“ก็ได้ครับ” น้องชายรองพยักหน้า

“อืม นายพอจะรู้จักที่ทำงานใกล้ ๆ บ้านเราไหม น้องชายสามคงอยากออกไปทำงานข้างนอก แต่เขาต้องกลับมาพักที่บ้าน”

ที่กัวเหม่ยอิงถามน้องชายรองเพราะเขามีเส้นสายกว่าเธอ ถึงเขาจะไม่ได้อยู่บ้านนานแต่ก็มีสหายหรือคนรู้จักที่อยู่ที่นี่ และกัวเหม่ยอิงก็มั่นใจว่าเขาย่อมรู้จักที่หางาน

น้องชายรองสงสัย “พี่จะให้เขาไปทำงาน?” อย่างที่รู้กันว่าไม่มีใครเลี้ยงเสี่ยวหนิง น้องชายสามจึงต้องมาเลี้ยงและไม่ได้ไปทำงาน

กัวเหม่ยอิงพยักหน้า “สะใภ้รองบอกว่าให้จ้างคุณแม่หรือไม่ก็พี่สาวของฉันสักคนให้มาดูแลเสี่ยวหนิงให้ ยังไงพวกเขาก็ต้องทำงานในแปลงนาอยู่แล้ว ถ้าให้พักงานแล้วมาเลี้ยงเสี่ยวหนิงโดยที่เราจ้างก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

จริงอยู่ที่แม่กัวไม่ได้รักเสี่ยวหนิง แต่ถ้าจ้างเลี้ยงมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อีกอย่างแม่กัวก็ชอบเสี่ยวลู่อยู่แล้วจะให้มาเลี้ยงคู่กันได้ย่อมไม่มีปัญหา

“ผมไม่รู้ครับตั้งแต่มาผมก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่ถ้าอนุญาตให้ผมออกจากบ้านผมก็สามารถไปถามให้ได้” น้องชายรองต่อรองกัวเหม่ยอิง

สรุปก็คือถ้าอยากให้น้องชายสามมีงานทำ พวกเธอก็ต้องอนุญาตให้น้องชายรองออกไปหางานให้ แต่กัวเหม่ยอิงไม่ได้ตอบตกลง เพราะเธอต้องไปคุยกับสะใภ้รองเพื่อหาทางออกอีก

ช่วงบ่ายไหเกือบยี่สิบไหก็ถูกนำไปล้างที่แม่น้ำ แล้วนำมาคว่ำไว้ที่หลังบ้านด้วยฝีมือของน้องชายสามทำให้กัวเหม่ยอิงที่ล้างไหคนเดียวรอบก่อนแทบจะร้องไห้ วันนั้นเธอต้องเข็นรถไปกลับตั้งสี่รอบ แต่น้องชายสามกลับเข็นเพียงสองรอบและอีกอย่างเขาใช้เกวียนด้วย

“ได้จ่ายเงินค่ายืมเกวียนหรือเปล่า” กัวเหม่ยอิงถามสะใภ้รอง

สะใภ้รองพยักหน้า “ให้ค่ะ ตอนแรกฉันให้เขาไป 2 เหมา แต่เขาก็ปฎิเสธ ไป ๆ มา ๆ เขาจึงเอา 1 เหมาแทน” หล่อนตอบ

นอกจากไปซื้อไหแล้วสะใภ้รองยังซื้อของแห้ง ผลไม้และของกินอีกหลายชนิดกลับมาด้วย เนื่องจากที่บ้านมีชายฉกรรจ์เพิ่มขึ้นอีกสองคน ธัญพืชต่าง ๆ จึงต้องทำเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว ไหนจะกับข้าวของคนงานอีก แต่ของคนงานส่วนมากจะเป็นซาลาเปาและบางวันพวกเธอก็ไม่ได้เอากับข้าวไปให้คนงาน

สะใภ้รองล้างทำความสะอาดของที่ซื้อมา ส่วนกัวเหม่ยอิงก็แยกของช่วยสะใภ้รอง เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงพวกเธอก็ต้องทำกับข้าว ส่วนเด็ก ๆ ก็ถูกผู้เป็นลุงและอาเลี้ยงอยู่หน้าบ้าน

“ฉันอยากย้ายบ้านแล้ว” สะใภ้รองเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

เนื่องจากหล่อนยังไม่มีลูกจึงไม่แปลกที่จะถูกคนในหมู่บ้านนินทา แต่หล่อนได้ยินเพื่อนบ้านนินทาทุกวันจนเหนื่อยแล้ว บางทีเวลาไปซื้อของหรือออกไปข้างนอกหล่อนก็จะถูกนินทาตลอด บ้างก็ว่าแม่ไก่ไม่ออกไข่จะเลี้ยงไว้ทำไม บ้างก็ว่าหล่อนไม่สามารถมีลูกได้

“เป็นอะไร? อีกไม่นานเราก็คงได้ย้ายแล้ว” มีหรือที่กัวเหม่ยอิงจะไม่รู้

เธอกับสะใภ้รองช่วงนี้ตัวติดกันมาก เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันจึงได้ยินตลอด แต่สะใภ้รองไม่พูด เธอก็ไม่พูด

สะใภ้รองส่ายหัว “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ช่วงนี้ภายในหมู่บ้านเสียงดังมาก”

“ใช่ ทุกคนคงจะรออาหารกัน บางครอบครัวก็หาบ้านที่จะเกี่ยวดอง ไม่แปลกหรอกที่จะเสียงดังเป็นปกติ” เธอว่า

ผลผลิตจะถูกแจกจ่ายปีละ 2 ครั้ง หลังจากการเก็บผลผลิต บ้านไหนที่พอมีเงินแน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ห่วงเรื่องธัญพืช แต่บ้านในที่มีแม่สามีขี้งก หรือบ้านไหนที่จนพวกเขาก็ตั้งตารอคอยผลผลิต อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าผลผลิตคงจะได้แจกจ่ายแล้ว ยกเว้นบ้านหานของพวกเธอที่น่าจะได้ธัญพืชไม่กี่ชั่งเพราะก่อนหน้านี้สะใภ้รองก็ได้ลงแปลงนา

“จริงสิ ฉันถามเรื่องงานของน้องชายสามกับสามีของเธอแล้ว เขาบอกเขาไม่รู้ว่ามีที่ไหนรับทำงานบ้าง จึงมาขอออกไปข้างนอก” กัวเหม่ยอิงว่าเมื่อนึกขึ้นได้

“เขามาขอพี่เหรอคะ” สามีของหล่อนไม่ได้มาขอหล่อนจึงแปลกใจมาก ที่เขาไปขอพี่สะใภ้

“คงจะกลัวว่าเธอไม่อนุญาต ก็เลยมีข้อต่อรองกลับฉัน ถ้าน้องชายสามอยากได้งาน เขาก็จะหาให้แต่ต้องให้เขาออกจากบ้าน” กัวเหม่ยอิงอธิบายที่เธอได้คุยกับน้องชายรองไป

หลังจากนั้นทั้งสองไม่ได้คุยกันต่อ ไม่รู้ว่าสะใภ้รองจะว่ายังไงแต่ที่แน่ๆ กัวเหม่ยอิงคิดว่าน้องชายรองแย่แล้ว ที่เขามาต่อรองกับเธอก็คงจะคิดว่าเธอสามารถควบคุมสะใภ้รองได้ แต่เขาชั่งไม่รู้เอาเสียเลยว่ากัวเหม่ยอิงให้ท้ายสะใภ้รอง

กับข้าวมื้อเย็นทุกคนได้กินฟักทองผัดไข่ฉ่ำ ๆ คู่ซาลาเปาไส้เนื้อกระต่ายผัดผักกวางตุ้งที่พี่ใหญ่กัวเอามาให้เมื่อวาน และแม่สามียังได้น้ำซุปเนื้อกระต่ายตุ๋นสาหร่ายอีกด้วย โดยเมนูสุดท้ายพวกเธอได้แบ่งไปให้พ่อกัวแม่กัวด้วย

“เอาไว้สร้างบ้านเสร็จแม่จะหาผ้ามาให้หนูใหม่” กัวเหม่ยอิงจิ้มแก้มลูกสาวบนเตียงเตา

จริง ๆ ผ้าของลูกสาวมันก็สะอาดแต่มันเก่ามากแล้วเธอจึงอยากเปลี่ยน แต่ตอนนี้ทั้งวันพวกเธอยุ่งกันมาก จะให้สะใภ้รองตัดเสื้อหรือเย็บผ้าให้เด็ก ๆ หล่อนคงจะเหนื่อย และตอนนี้เธอก็ให้น้องชายสามหาจักรยานกับจักรเย็บผ้าให้อยู่ด้วย

เพราะตอนนี้เธอมีเงินและคูปองเยอะพอสมควรจึงไม่กลัวว่าเงินจะไม่พอสำหรับซื้อของ และทุกคนในบ้านก็เห็นด้วยที่จะซื้อมาใช้ในบ้าน

อีกอย่างถ้าน้องชายสามไปทำงานจริง ๆ เขาจะไม่ต้องเดินให้เหนื่อยอีกด้วย ไหนกัวเหม่ยอิงกับสะใภ้รองที่ต้องไปซื้อของบ่อย ๆ อีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel