ตอนที่ 1 สมรสพระราชทาน
สามเดือนก่อนทางตะวันออกของแคว้นซีเหลียงได้เกิดศึกสงครามขึ้นกับแคว้นเป่ยเอี้ยน แคว้นนี้ประกอบด้วยคนต่างเผ่ากว่ายี่สิบชนเผ่า ซึ่งเผ่าที่มีประชากรมากที่สุดหัวหน้าเผ่าจะได้ขึ้นปกครองแคว้น เดิมทีแคว้นเป่ยเอี้ยนมีกองทัพเพียงไม่กี่หมื่นนาย แต่เพราะหัวหน้าแคว้นมีความเก่งกล้าสามารถจึงเข้ายึดครองเมืองของแคว้นซีเหลียงทางชายแดนเหนือได้อีกห้าเมือง แต่เพราะความไม่รู้จักพอของหัวหน้าแคว้นและกองกำลังที่มีมากขึ้น หัวหน้าเผ่าจึงปลุกระดมสร้างขวัญกล้าให้กับทหารในแคว้นบุกเข้าโจมตีทางทิศบูรพาของซีเหลียงอีก แต่เหิงเป่าหัวหน้าแคว้นเป่ยเอี้ยนหารู้ไม่ว่าแม่ทัพแดนบูรพานั้นเก่งกาจเพียงใด เขาได้รับสมญานามว่าแม่ทัพปีศาจแดนตะวันออก
แม่ทัพปีศาจผู้ที่คอยปกป้องรักษาแดนบูรพาได้เป็นอย่างดี ย่อมไม่ยอมให้ใครมาตีเมืองไปอย่างง่ายดาย เขานำกองทัพทหารกว่าสิบหมื่นนาย สู้รบกับกองทัพของเป่ยเอี้ยนที่มีกำลังทหารเจ็ดหมื่นนาย และได้รับชัยชนะกลับมาอย่างสวยงาม ซ้ำยังเข้ายึดเมืองของแคว้นเป่ยเอี้ยนไปได้มากกว่าครึ่ง เมื่อเข้าสู่สภาวะจนตรอกเหิงเป่าไม่อาจนิ่งดูดายเพราะกลัวจะสูญเสียดินแดนไปทั้งหมด เขาจึงขอเจรจากับฮ่องเต้หงเฟยอวี่แห่งแคว้นซีเหลียงเพื่อสงบศึก และยอมส่งเครื่องบรรณาการมาที่เมืองหลวงของแคว้นซีเหลียงทุกปี ปีนี้เป็นปีแรก และอีกไม่ถึงครึ่งเดือนเครื่องบรรณาการทั้งหมดจะถูกส่งมาที่เมืองหลวง รวมถึงหญิงงามจากเผ่าเจี๋ยด้วย
ขณะเดียวกันที่เมืองหลวงแคว้นซีเหลียงหลูกงกงกำลังปรนนิบัติฮ่องเต้ในห้องหนังสือ เขารวบรวมขวัญกล้ากล่าวออกแก่ฮ่องเต้ว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีความเห็นว่า แม่ทัพหานแห่งแดนบูรพามีความดีความชอบ ทำคุณแก่แผ่นดินอันใหญ่หลวง ฝ่าบาทควรมอบรางวัลใหญ่ให้เขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้หงเฟยอวี่ละสายตาจากหนังสือ มือข้างหนึ่งเคาะลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด เดิมทีขันทีชราก็เปรียบเสมือนที่ปรึกษาของฮ่องเต้อยู่แล้ว พระองค์จึงทำคล้ายกับไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับคำกล่าวของขันทีคนสนิท ซ้ำยังรู้สึกคล้อยตามกับคำกล่าวนั้น แต่ไหนแต่ไรมาหานตงหยางทำคุณงามความดีให้กับบ้านเมืองมากมายจริง ๆ เช่นนั้นนอกจากเพชรนิลจินดาและไร่นาที่ฮ่องเต้พระราชทานให้แล้ว เขาควรพิจารณาเพิ่มรางวัลให้กับแม่ทัพแดนบูรพาอีกสักหน่อย “เจ้าคิดว่าอย่างไร”
พอสบโอกาสขันทีชราจึงกล่าวออกอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “แม่ทัพหานก็เข้าสู่วัยที่ต้องมีครอบครัวแล้วแต่ยังไร้วี่แววว่าจะแต่งงาน เช่นนี้หากฝ่าบาทพระราชทานหญิงงามที่เหมาะสมให้แก่ท่านแม่ทัพสักคน จะเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ” เหล่าขุนนางในเมืองหลวงและในเมืองเฉิงตูต่างทราบดีว่า แม่ทัพแห่งแดนบูรพาที่ทำความดีความชอบให้กับบ้านเมืองกลับมีข่าวที่ไม่ดีทางด้านสตรี จนไม่มีขุนนางคนไหนยอมทาบทามยกบุตรสาวให้ แม้แต่จวนสกุลเซี่ยที่มีข่าวคราวว่าเคยหมายมาดกันไว้ กลับยืดเยื้อออกไปถึงห้าปี กระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าสกุลหานกับสกุลเซี่ยจะเกี่ยวดองกัน กระนั้นก็ใช่ว่าฮ่องเต้จะปล่อยผ่านได้ อย่างไรแม่ทัพหานซึ่งเป็นเพียงบุตรชายคนเดียวก็ต้องแต่งภรรยาและมีทายาทสืบสกุล ไม่เช่นนั้นแล้วความเก่งกาจของเขาก็คงสิ้นสุดลงที่เขาเท่านั้น ช่างน่าเสียดายคนเก่งเช่นนี้นัก
“เจ้าคิดว่าใครคู่ควรกับเขามากที่สุด”
“กระหม่อมเห็นว่าสตรีในแคว้นซีเหลียงคงหวาดกลัวแม่ทัพหานกันหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทจะทรงเมตตา เรื่องนี้คงลำบากหญิงงามจากเผ่าเจี๋ยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” อย่างไรเสียบรรดาสนมที่ถูกส่งเข้าวังก็ไม่ได้รับความสนใจจากฮ่องเต้อยู่แล้ว ถึงแม้ฮ่องเต้จะมีอายุเพียงสี่สิบเศษเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ให้สนมถวายงานพร่ำเพรื่อ ส่วนมากที่มีขุนนางมากมายส่งบุตรสาวของตนเข้าวัง ฮ่องเต้ก็เพียงเลี้ยงไว้ให้เปลืองข้าวสุกเท่านั้น เช่นนั้นถ้าเสียหญิงงามจากเผ่าเจี๋ยที่ส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการไปหนึ่งคนก็คงไม่นับเป็นอะไร
ดวงตาของฮ่องเต้กระตุกเล็กน้อย ก่อนใบหน้าจะเผยรอยยิ้มยินดีออกมา “เราเข้าใจแล้ว” หากปล่อยให้คนดีมีความสามารถอย่างหานตงหยางไม่มีทายาทต่อไปคงไม่เป็นการดีแล้ว
หลูกงกงทำหน้าที่ของตนเสร็จสิ้นแล้วจึงกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
สองวันต่อมารถม้าของหญิงงามจากแคว้นเป่ยเอี้ยนที่มีนามว่าหลิวหนิงเจียวที่เดินทางมากับสาวใช้เพิ่งเขตเมืองเฉิงตู ก็ได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้หงเฟยอวี่ให้เดินทางไปที่จวนสกุลหาน อีกทั้งฮ่องเต้ยังพระราชทานสมรสให้นางกับหานตงหยางแม่ทัพแห่งแดนบูรพาด้วย
หลังจากรับพระราชโองการหลิวหนิงเจียวก็หมดสติไปกว่าครึ่งชั่วยามพอตื่นขึ้นมาก็เอาแต่นั่งร้องไห้ในรถม้าอย่างเงียบ ๆ ตลอดทาง
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ เราใกล้จะถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วนะเจ้าคะ” สาวใช้ข้างกายพูดเตือนสติหญิงสาวที่เอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจปานจะขาดใจตายตรงนั้น