บทที่ 7 เนื้อแพะตุ๋นสมุนไพร
ฉินฮัวกลับมาถึงบ้านตระกูลเซี่ย ภายในใจของนางหม่นหมองเล็กน้อยผ้าปัก5 ผืน ปกติขายได้ราคาสูงถึง1 ตำลึง แต่วันนี้โดนร้านถังซินกดราคารับซื้อผ้าปักลายไปในราคาเพียง7ก้วนเท่านั้น ถึงแม้ 7 ก้วน จะเท่ากับ7,000อีแปะ
สำหรับครอบครัวชาวบ้านธรรมดาในหมู่บ้านติงเซียนสามารถใช้เงินจำนวนนี้ได้อย่างไม่ลำบากภายในเวลาหนึ่งเดือน เพราะค่าแรงของคนทั่วไปหากใครทำงานได้ค่าแรงวันล่ะ500อีแปะก็ถือว่าคนผู้นั้นมีรายได้ดีในหมู่บ้านแล้ว
แต่สำหรับฉินฮัวที่ทุ่มเทแรงกายและฝีมือในปักผ้าเช้าจรดค่ำเป็นเวลา7 วันปักผ้าได้เสร็จเพียงสามผืน ส่วนเซี่ยอวี่เจินก็ปักได้ผ้าปักที่งดงามได้สำเร็จถึงสองผืน ซึ่งถือว่าสองคนแม่ลูกปักผ้าได้รวดเร็วและใช้ความอดทนในการทำงานเป็นอย่างมาก งานฝีมือในการปักผ้าของพวกนางถือได้ว่าเป็นงานปักผ้าที่ยอดเยี่ยมนางย่อมจะคาดหวังเงินตอบแทนที่สูงค่ามากกว่านี้
ดังนั้นฉินฮัวจึงไม่อาจจะปิดบังแววตาที่หม่นหมองในดวงตาของนางได้ ทั้งเซี่ยอวี่เจินและเฉียนเว่ยซีต่างรับรู้ได้ถึงความหม่นหมองของฉินฮัว แต่ในเมื่อฉินฮัวฝืนยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งคู่ต่างก็แสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามความต้องการของฉินฮัว
"วันนี้แม่ซื้อเนื้อแพะมา พวกเรากินมื้อเย็นเป็นเนื้อแพะตุ๋นกันดีไหม"ฉินฮัวเอ่ยเสนอ
"ท่านป้าเซี่ยเจ้าคะ เนื้อแพะตุ๋นมอบให้ข้าทำได้ไหมเจ้าคะ ท่านลุงเซี่ยมีอาการกระเพาะเย็น ทำให้ปวดท้องบ่อยๆ กินเยอะมากเกินไปก็ปวดท้อง กินน้อยเกินไปก็ปวดท้อง เนื้อแพะมีฤทธิ์ร้อนหากนำมาตุ๋นรวมกับยาสมุนไพรพวกพริกไทยดำ อบเชย เก๋ากี่ รับรองว่าดีต่อสุขภาพของท่านลุงเซี่ยอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ อีกทั้งเก๋ากี่ยังบำรุงสมองบำรุงสายตาด้วยนะเจ้าค่ะ ท่านป้าเซี่ยและพี่สาวต่างก็ใช้สายตาในการทำงานหนักให้ข้าปรุงเนื้อแพะตุ๋นยาจีนเถิดเจ้าค่ะ" เฉียนซีเว่ยรีบอาสาทำเนื้อแพะตุ๋นยาจีนทันที เพราะเมื่อทำเสร็จหากทุกคนชื่นชอบเฉียนซีเว่ยจะได้เพิ่มทั้งคะแนนทักษะการปรุงอาหาร เพิ่มทักษะยารักษาโรคและเพิ่มค่าประสบการณ์ชีวิตอีกด้วย
"ได้สิ ในเมื่อเจ้าอยากทำให้พวกเรากินเช่นนั้นเจ้าก็จัดการได้เลย" ฉินฮัวเอ่ยอนุญาต
"ท่านแม่เนื้อแพะมีราคาจินล่ะ300 อีแปะเชียวนะเจ้าคะ ให้เว่ยเว่ยทำหากกินไม่ได้ขึ้นมาจะเสียดายของนะเจ้าคะ" เซี่ยอวี่เจินโวยวายโต้แย้งตามปกตินิสัยของนาง
แต่ฉินฮัวกลับสังเกตเห็นความแตกต่างของความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยอวี่เจินและเฉียนซีเว่ยได้ เพราะเมื่อครู่นี้เซี่ยอวี่เจินเผลอตัวเรียกเฉียนซีเว่ยอย่างสนิทสนมว่า"เว่ยเว่ย! " จึงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีลืมความหม่นหมองก่อนหน้านี้ไปทันที
"เอาเถิดหากเจ้ากลัวว่าเว่ยเว่ยจะทำเนื้อแพะเสียหาย เจ้าก็คอยช่วยเว่ยเว่ยทำเนื้อแพะตุ๋นก็แล้วกัน"
เซี่ยอวี่เจินส่งเสียงประท้วงทันที "ก็แค่ตุ๋นเนื้อแพะต้องใช้คนทำถึงสองคนเชียวหรือเจ้าคะ หากข้าต้องไปเฝ้าหม้อตุ๋นเนื้อแพะ มิสู้ข้าใช้เวลาว่างปักผ้าเพื่อหาเงินค่าซื้อเนื้อแพะมาใหม่ไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ"
เฉียนซีเว่ยจึงรีบพูดว่า"วางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้ามั่นใจว่าอาหารมื้อนี้ต้องอร่อยถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน" เฉียนซีเว่ยพูดรับรองอย่างร่าเริงก่อนจะขอตัวไปบ้านท่านหมอเสิ่นที่อยู่กลางหมู่บ้านเพื่อไปขอซื้อยาสมุนไพร
"รีบไปรีบกลับล่ะ อย่าชักช้าจนมืดค่ำ" เซี่ยอวี่เจินพูดว่าเฉียนซีเว่ยด้วยน้ำเสียงแหลมสูงแต่หากฟังให้ดีจะสังเกตว่าถ้อยคำเหล่านี้มีความเป็นห่วงแฝงอยู่
ฉินฮัวมองเฉียนซีเว่ยที่ย้ายมาอยู่บ้านตระกูลเซี่ยไม่กี่วันก็มีร่างกายแข็งแรงมีนิสัยร่าเริงไม่หวาดกลัวผู้คนและไม่มีท่าทางอมทุกข์เหมือนดังในอดีต ส่วนเซี่ยอวี่เจินในยามนี้เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวสามารถพูดคุยกับสตรีที่เด็กกว่าได้โดยไม่ทะเลาะกับอีกฝ่าย ฉินฮัวรู้สึกดีใจมาก นางตัดสินใจไม่ผิดที่ยินยอมเสียเงิน20 ตำลึงไปเพื่อแลกกับการนำเฉียนซีเว่ยกลับมาเป็นสะใภ้ของตระกูลเซี่ย
เฉียนซีเว่ยเดินทางมายังบ้านท่านหมอเสิ่นและขอซื้อสมุนไพรจากท่านหมอเสิ่นหลายอย่าง มีโป๊ยกั๊ก เก๋ากี่ หญ้าหอม ดอกจันทร์เทศ ฮ่วยซัว ใบกระวาน ผิวเปลือกส้ม อบเชยโดยเฉียนซีเว่ยขอซื้อสมุนไพรเหล่านี้อย่างล่ะหนึ่งหยิบมือเท่านั้น ดังนั้นท่านหมอเสิ่นจึงจะไม่คิดเงิน เพราะไม่รู้จะคิดราคาอย่างไรดี
เฉียนซีเว่ยจึงพูดกับท่านหมอเสิ่นว่า "ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปเก็บต้นหญ้าหอม และดอกจันทร์เทศมาให้ท่านหมอเยอะๆ ท่านหมอก็ห้ามจ่ายเงินข้านะเจ้าคะ"
เมื่อท่านหมอเสิ่นฟังจบจึงหัวเราะและพูดขึ้นว่า "ข้าขอเปลี่ยนเป็นเจ้าทำเนื้อแพะตุ๋นสูตรยาสมุนไพรนี้ของเจ้ามาให้ข้าจะดีกว่า ข้าอยากรู้ว่าอาหารที่มีฤทธิ์ทางยาเช่นนี้จะอร่อยหรือไม่ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าเมืองและซื้อเนื้อแพะกลับมาให้เจ้า"
"ได้เจ้าค่ะ แต่จะอร่อยมากถ้าเปลี่ยนจากเนื้อแพะเป็นซี่โครงแพะแทนเจ้าค่ะ" เฉียนซีเว่ยรีบรับปากท่านหมอเสิ่นทันที เพราะนอกจากจะได้ตอบแทนบุญคุณขอท่านหมอเสิ่นที่เขาคอยให้ความช่วยเหลือตนอยู่เสมอ อีกอย่างการทำอาหารตอบแทนท่านหมอเสิ่นยังจะทำเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะทางด้านอาหารและทักษะทางด้านการปรุงยาของตนอีกด้วย
ดังนั้นทั้งคู่จึงตกลงกันได้ตามนี้คือวันพรุ่งนี้ท่านหมอเสิ่นจะนำซี่โครงแพะไปให้เฉียนซีเว่ยทำแพะตุ๋นสมุนไพรให้เขา
เฉียนซีเว่ยเร่งเดินเท้ากลับจากบ้านท่านหมอเสิ่นระหว่างทางได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่ง เมื่อเขาเห็นเฉียนซีเว่ยก็แสดงสีหน้าดีใจทันที
"พี่สาว ท่านแม่บอกข้าว่าพี่ป่วยหนักยามนี้พี่สาวหายป่วยแล้วหรือขอรับ"
'อู๋ซือมิ่งเด็กชายผู้นี้คือใคร' เฉียนซีเว่ยแอบถามผู้ช่วยระบบอยู่ในใจ
'เขาคือเฉียนลู่ บุตรชายของเฉียนเอ้อร์และติงลี่' ผู้ช่วยระบบตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
"เฉียนลู่ พี่สาวหายป่วยแล้ว" เฉียนซีเว่ยพูดกับเฉียนลู่ด้วยสีหน้าสดชื่น เมื่อเฉียนลู่เห็นดังนี้จึงรู้สึกโล่งใจ
"ดีแล้วขอรับ ข้าจะได้ไม่ต้องแอบไปส่งข่าวให้พี่ชายใหญ่ที่บ้านตระกูลซ่ง"เฉียนลู่พูดถึงเฉียนซีหยวน
เฉียนซีเว่ยไม่มีภาพจำเกี่ยวกับพี่ชายใหญ่ตระกูลเฉียนอย่างเฉียนซีหยวน ดังนั้นจึงพูดห้ามเฉียนลู่ว่า "เจ้าไม่ต้องลำบากไปส่งข่าวให้พี่ใหญ่ พี่สาวอยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ยมีความสุขดีมาก พี่สาวมีธุระต้องรีบไปแล้ว" เฉียนซีเว่ยรีบพูดขอตัวลากับเฉียนลู่ ซึ่งเด็กชายก็ไม่ได้เอ่ยรั้งตัวพี่สาวไว้อีกต่อไป
เนื้อแพะตุ๋นยาสมุนไพรจีนของเฉียนซีเว่ยใช้เวลาตุ๋นนานเกือบสามชั่วยาม เนื้อแพะตุ๋นจึงเปื่อยยุ่ยกลิ่นหอมของเนื้อแพะตุ๋นลอยวนอยู่ในอากาศทำให้ผู้อื่นที่ได้กลิ่นรู้สึกหิว
เฉียนซีเว่ยตักน้ำแกงและเนื้อแพะไปให้เซี่ยเซิงชวนดื่มก่อนหนึ่งชามเพราะท่านพ่อเซี่ยผู้นี้กระเพาะและลำไส้ไม่ค่อยดี หากรอจนเนื้อเปื่อยมากกว่านี้เขาจะกินอาหารผิดเวลาจนอาการกำเริบได้
เซี่ยเซิงชวนดื่มน้ำแกงที่มีเครื่องสมุนไพรต้มเข้มข้นทำให้เขารู้สึกอุ่นกระเพาะรู้สึกสบายที่ท้องจนอดที่จะเอ่ยปากชมเฉียนซีเว่ยอย่างสุภาพไม่ได้ "น้ำแกงนี้รสชาติอร่อยมาก"
'ยินดีด้วยกับผู้เล่นเฉียนซีเว่ย ทำภารกิจย่อยสำเร็จได้รับคะแนนความชื่นชมจากว่าที่พ่อสามี ได้รับพลังชีวิตเพิ่ม 10แต้มได้รับคะแนนค่าประสบการณ์ชีวิตจากเซี่ยเซิงชวน 10 แต้ม ได้รับคะแนนทักษะทำอาหารเพิ่มขึ้นชั้นซี 25 เปอร์เซ็นต์ ได้รับคะแนนทักษะการปรุงยา35 เปอร์เซ็นต์ ได้รับการสุ่มรางวัล1 ครั้งเพิ่มช่องเก็บของในมิติหนึ่งช่อง'
เย็นวันนี้หลังอาหารเย็นของบ้านตระกูลเซี่ยถือได้ว่าหรูหราเป็นอย่างมาก เพราะการกินเนื้อแพะตุ๋นสำหรับคนในหมู่บ้านมักจะทำกินในวันปีใหม่หรือไม่ก็จะทำกินในวันที่มีงานเลี้ยงของบ้านเท่านั้น เนื้อแพะตุ๋นสมุนไพรของเฉียนซีเว่ยทำให้นางได้รับค่าประสบการณ์ชีวิตและค่าทักษะต่างๆ เพิ่มขึ้นมาก โดยวันนี้เป็นท่านพ่อเซี่ยให้คะแนนเฉียนซีเว่ยมากที่สุด และนางเพิ่งได้รับความชื่นชมจนได้พลังชีวิตจากท่านพ่อเซี่ยเพิ่มเป็นครั้งแรกด้วย การสุ่มของรางวัลคราวนี้ยังคงได้รับเป็นยารักษาโรคทั่วไปอีกหนึ่งขวด
ในยามนี้ร่างกายของเฉียนซีเว่ยแข็งแรงมากขึ้นแล้วจึงคิดจะใช้ยาขวดนี้รักษาอาการเจ็บป่วยของท่านพ่อเซี่ย ในขณะที่เฉียนซีเว่นนั่งเหม่อลอยครุ่นคิดหาวิธีการนำยาในขวดใสไปให้เซี่ยเซิงชวนดื่ม ฉินฮัวกลับพูดขึ้นว่า
"เว่ยเว่ยเจ้ามาอยู่ที่นี่มานานครบอาทิตย์แล้ว เดิมข้าเคยคิดว่าจะจัดงานแต่งงานให้เจ้าอย่างสมเกียรติแต่จนใจที่ในยามนี้ฐานะทางการเงินในบ้านไม่ค่อยจะดีนัก"
"ท่านป้าเจ้าคะ ข้าไม่ต้องการงานแต่งใหญ่โตขอเพียงทำตามพิธีครบถ้วนและมีพยานรู้เห็นก็พอเจ้าค่ะ งานเลี้ยงคนนั้นไม่ต้องจัดหรอกเจ้าค่ะ สิ้นเปลืองเงินเสียเปล่า"
"แต่ถึงอย่างไรก็ต้องจัดขอแค่มีอาหารมงคลในการจัดงานอย่างน้อยสามอย่าง ผลไม้อย่างน้อยสามอย่าง และขนมมงคลอย่างน้อยอีกสามอย่าง เชิญคนมาเป็นพยานอย่างน้อยสักสามถึงห้าคนข้ายังสามารถจัดงานขนาดเล็กนี้ไหว แต่จากเดิมข้าคิดจะทำพิธีให้เจ้ามีสิ่งมงคล8 อย่าง แต่ยามนี้คงจะจัดพิธีให้เจ้าได้แค่3 อย่างเท่านั้น" ฉินฮัวพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเพราะร้านถังซินจ่ายเงินให้นางน้อยกว่าที่นางคาดคิดไว้งานมงคลจึงต้องลดสิ่งของต่างๆ ลง
"งานมงคลจะมากจะน้อยก็ถือว่าเป็นงานมงคล ท่านแม่อย่าได้คิดมากเลยเจ้าค่ะ หากวันหน้าพี่ใหญ่กลับมาพวกเราค่อยจัดงานมงคลที่ดีชดเชยให้เว่ยเว่ยก็ได้แล้วเจ้าค่ะ" เซี่อวี่เจินพูดปลอบใจมารดาของนางเพื่อไม่ให้ฉินฮัวต้องคิดมาก
"พี่สาวเซี่ยพูดถูกแล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างข้าอยากแต่งงานเข้าบ้านตระกูลเซี่ยให้รวดเร็วขึ้นเจ้าค่ะ ต่อให้มีหนังสือสัญญาจากแม่เลี้ยงของข้าแล้ว แต่หากท่านพ่อหรือพี่ชายใหญ่ของข้ากลับมาเรื่องราวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ ข้าขอบอกตามตรงว่าข้าอยู่ที่นี่มีความสุขมากเจ้าค่ะไม่อยากกลับไปอยู่บ้านตระกูลเฉียนอีกแล้ว" เฉียนซีเว่ยรีบพูดหาข้ออ้างเพื่อฉินฮัวจะได้เร่งงานแต่งให้รวดเร็วขึ้น
"ได้เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะเร่งไปเตรียมของเพื่อรีบจัดงานมงคลให้เจ้าและเจ้าใหญ่" ฉินฮัวพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเริ่มกังวลใจว่าหากเฉียนต้ากลับมาที่หมู่บ้านและไม่ยินยอมให้เฉียนซีเว่ยแต่งงานกับบุตรชายของตนโดยการนำเงินมาคืนนั้นย่อมทำได้ นางจึงอยากเร่งรีบเปลี่ยนมันเทศให้เป็นแป้งหมี่เสียก่อนเรื่องราวทุกอย่างจะได้ไม่อาจหวนคืน
