บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ทะลุมิติ

ท่ามกลางแสงไฟอันมืดมิด เสียงฝีเท้าที่ไล่ตามติดและเสียงหอบหายใจอันหนักหน่วงของตนเองทำให้เจียงซูหลันแทบจะขอยอมแพ้ แต่เมื่อคิดถึงความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามาขาของเธอก็ยังคงก้าวต่ออย่างไม่คิดจะหยุดพัก ด้วยรู้ดีว่าหากเธอหยุดก้าวเท้าเมื่อไหร่ชีวิตน้อยๆ ของเธอก็คงจะปลิดปลิวไปเป็นแน่

เธอยังคงก้าวเท้าต่อไปแม้ว่าแทบจะสิ้นไร้เรี่ยวแรงและปอดของเธอก็แทบจะระเบิดออกมาแล้ว แต่เมื่อพ้นตัวตึกด้านหน้าฝีเท้าของเธอก็พลันต้องชะลอความเร็วลงเมื่อเห็นว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังรอเธออยู่

“ซูหลันส่งยาที่ทีมเธอวิจัยได้มาให้ฉันเถอะ แล้วชีวิตของเธอจะปลอดภัย” เสียงพูดอันนุ่มนวลแต่ความหมายกลับเต็มไปด้วยถ้อยคำข่มขู่ของคนตรงหน้าทำให้เจียวซูหลันแทบอยากจะกระโดดไปข่วนหน้าเขา แต่เมื่อคิดว่าในยามนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่ใช่คนรักที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่องอีกต่อไปแล้ว เจียวซูหลันก็แทบจะหลั่งน้ำตาออกมา

“งานวิจัยนี้ไม่ใช่ของฉันคนเดียว พวกเขาปกป้องมันด้วยชีวิต แล้วนายคิดว่าฉันจะมีสิทธิ์อะไรที่จะเอางานชิ้นนี้มอบให้นายเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง” คำพูดของเจียงซูหลันทำให้ลู่หยางหมิงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็ก้าวเท้าเดินตรงมาหาเธอ

“ซูหลัน ต่อให้เธอไม่มอบให้ฉันก็มีวิธีเอามันไปจากเธออยู่ดี ตัวยาที่ทีมวิจัยของเธอคิดค้นได้จะช่วยผู้คนได้อีกมาก แล้วทำไมพวกเธอจึงได้ปกปิดความลับของมันและไม่ยอมมอบมันให้กับองค์กรของพวกเราเล่า” คำพูดของเขาทำให้เจียงซูหลันส่ายหน้า

“ยานี้ช่วยเหลือคนได้ก็จริง แต่องค์กรของพวกเราไม่ได้คิดจะช่วยคนหยางหมิงก่อนหน้านี้ที่ฉันติดตามนายเข้าองค์กรมาก็เพราะคิดว่านายมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือผู้คน แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่านายมันก็แค่โจรร้ายที่แฝงตัวอยู่ในคราบของนักบุญเท่านั้น”

เจียงซูหลันพูดพลางขยับตัวถอยหนีจากเขา แต่ลู่หยางหมิงกลับเร็วกว่าเขารีบยื่นมือมาจับตัวเธอเอาไว้เธอจึงได้ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าที่ศาสตราจารย์ของเธอเพิ่งจะมอบให้ช็อตไปที่ตัวของเขาเพียงแต่จุดที่เธอยืนอยู่มีน้ำขังอีกทั้งชุดที่เธอสวมใส่ออกจากห้องทดลองยังสามารถเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าได้ดียามนี้ร่างกายของเธอจึงถูกช็อตไปด้วย ลู่หยางหมิงที่ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตจนร่างกายเกร็งกระตุกจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เขาตั้งใจจะดันเธอออกแต่เธอกลับไม่ขยับเลยสักนิดก็แน่ละกระแสไฟฟ้าที่ได้รับทำให้เนื้อตัวของเธอกำลังกระตุกอย่างรุนแรงและแข็งเกร็งจนถึงขั้นนี้แล้วเขาจะดันเธอออกได้อย่างไร

“ปัง!” เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดความรุนแรงของลูกกระสุนทำให้ตัวของเธอกระเด็นล้มลงไปจากจุดที่ยืนอยู่ เครื่องช็อตไฟฟ้าหลุดหายจากมือของเธอไปแล้ว แต่ตอนนี้ที่เนื้อตัวของเธอกลับมีลูกกระสุนฝังอยู่แทน

“ซูหลัน!” เสียงร้องเรียกด้วยความร้อนใจของลู่หยางหมิงดังเข้ามาในสติที่กำลังจะมืดดับของเธอ เจียงซูหลินได้แต่ยิ้มออกมาเมื่อคิดว่าหากเธอตายความลับของยาก็คงจะตายตามเธอไปด้วย เพียงแต่ยาสามเม็ดที่เธอลักลอบนำออกมาด้วยเธอไม่อาจจะปล่อยให้พวกเขานำไปแยกตัวยาแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ได้ เธอจึงได้ตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายล้วงเอายาที่ซุกซ่อนในหน้าอกยัดใส่ปากของตนเองแล้วพยายามกลืนลงคอไปในทันที

“อย่านะ!” เสียงห้ามพร้อมกับมือของลู่หยางหมิงที่ยื่นมาดึงมือของเธอออกจากปาก แต่เมื่อเห็นว่ายาหายไปจากมือของเธอแล้ว เขาก็พยายามจะบีบกรามของเธอเพื่อไม่ให้เธอกลืนยาลงท้อง แต่ก็ไม่ทันแล้วทันทีที่ตัวยาถูกน้ำลายของเธอมันก็ละลายและซึมซับเข้าสู่ร่างกายของเธอไปแล้ว

เจียงซูหลันได้แต่หลับตาลงเพื่อรอรับความเจ็บปวดจากการงอกเงยของกระดูกตามฤทธิ์ของยาที่เธอและทีมงานช่วยกันสร้างขึ้น ในใจก็ได้แต่คิดว่าจะตายทั้งทีศพก็ยังไม่สวยอีก ตัวยาที่เธอคิดค้นตัวนี้จะช่วยผสานกระดูกซ่อมแซมส่วนที่แตกหักได้อย่างรวดเร็ว แต่หากคนปกติกินยานี้เข้าไปจนเกินขนาดเช่นเธอนอกจากจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอแล้ว ก็อาจจะมีกระดูกส่วนเกินงอกเงยออกมาจนเนื้อตัวผิดรูป แม้ว่าจะไม่เคยทดลองกับตนเองแต่เธอรู้ดีว่าการงอกของกระดูกส่วนเกินจะสร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้ได้รับยานี้เข้าไปมากเพียงใด แต่บาดแผลจากกระสุนคงจะมากจนเกินไปยังไม่ทันได้รับความเจ็บปวดจากฤทธิ์ยา สติของเธอก็พลันดับวูบไปเพราะความเจ็บปวดของบาดแผลเสียแล้ว

“ติ๊ง! ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบฟื้นฟู ขอเพียงคุณสามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จสิ้นระบบฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายของคุณก็จะสำเร็จ” หลังจากที่จมอยู่ในความมืดมิดอยู่เนิ่นนานอยู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นในหัว เจียงซูหลันได้แต่ขมวดคิ้วแล้วก็เอ่ยถามออกไปเพียงแต่คำถามเหล่านี้กลับดังก้องอยู่แค่เพียงในหัวของเธอเพียงเท่านั้น ริมฝีปากของเธอไม่ได้ขยับเลยสักนิด เรื่องนี้เธอแน่ใจเพราะว่าเธอพยายามขยับทุกส่วนของร่างกายอยู่หลายครั้งแต่ร่างกายของเธอกลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย

“ระบบฟื้นฟูงั้นหรือ”

“ระบบของเราจะส่งดวงจิตของคุณเข้าไปอยู่ในโลกต่างมิติ มิติที่คุณจะถูกส่งเข้าไปล้วนสุ่มจากระบบความคิดของคุณเอง คุณชอบอ่านหนังสือเรื่องอะไร หรือว่าชอบดูหนังเรื่องไหนมากที่สุดระบบจะสุ่มเลือกจากความชื่นชอบของคุณแล้วก็จะทำการส่งคุณเข้าไปในนิยายหรือไม่ก็หนังเรื่องนั้น” เมื่อเสียงนี้พูดจบเจียวซูหลันก็พลันรู้สึกปวดหัวจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายก็พลันปวดแปลบไปทั้งร่าง เธอร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่เหมือนกับว่ามีความอบอุ่นบางอย่างกำลังโอบอุ้มร่างกายของเอาไว้

“ซูหลัน คุณอดทนหน่อยนะ ผมจะช่วยคุณเอง” เสียงนี้ดังขึ้นผ่านม่านหมอกแห่งความเจ็บปวดเข้ามา แต่เจียงซูหลันกลับส่ายหน้าด้วยรู้ดีว่าเจ้าของเสียงนี้คือต้นเหตุที่ทำให้เธอกำลังจะตายเช่นนี้

แต่แล้วก็พลันมีหนังสือเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ อันที่จริงเธอไม่ได้ประทับใจนิยายเรื่องนี้เท่าไหร่แต่เพราะว่ามันคือหนังสือนิยายที่เธออ่านในตอนที่เธอกำลังอยู่ในช่วงที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิต เธอจึงสามารถจดจำนิยายเรื่องนี้ได้ในทันทีที่คิดถึงหนังสือนิยายที่เคยอ่าน

“นางร้ายคนนี้ทำไมถึงได้โง่อย่างนี้ล่ะ ผู้ชายเขาไม่ได้รักเสียหน่อยก็ยังคิดไปแย่งชิง แถมยังโผงผางลงมือเปิดเผยแบบนี้ไม่น่าแปลกใจเลยที่สุดท้ายก็ต้องตายไปโดยที่ไม่มีใครเสียใจให้เธอเลยสักนิด” ถ้อยคำประโยคนี้ของตนเองดังขึ้นมาในหัว แล้วก็มีเสียงของคนคนหนึ่งหัวเราะออกมาเบาๆ

“ก็แค่ตัวร้ายในนิยายคุณจะบ่นเธอไปทำไม”

“ฉันก็แค่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่จริงๆ หรือ ปากร้ายใจดำ แถมยังขี้อิจฉาอย่างออกนอกหน้าอย่างนี้ แล้วยังจะมีคนชอบเธออีกหรือไม่น่าแปลกใจเลยที่ในตอนท้ายเธอจะต้องตายอย่างอนาถถึงขั้นนั้นแถมไม่มีใครสงสารเธอเลยสักนิด” เมื่อถ้อยคำประโยคนี้ของเธอจบลงก็พลันมีแสงสว่างวาบเข้ามา

“ด้ายแดงลิขิตรัก”

“ติ๊ง! ยินดีด้วยภารกิจของคุณได้เริ่มต้นแล้ว ขอแค่คุณสามารถรอดตายในนิยายเรื่องนี้ได้จนถึงตอนจบภารกิจของคุณก็จะสามารถลุล่วง” เมื่อสิ้นเสียงประกาศจากระบบ สติของเจียงซูหลันก็พลันมืดดับลงไปอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอก็กำลังนอนอยู่ในสภาพแวดล้อมอันแปลกตาไปเสียแล้ว

“คุณแม่!” เสียงเรียกสองเสียงที่ดังขึ้นทำให้เธอหันไปมองด้านข้างแล้วก็พบว่ามีเด็กสองคนที่เนื้อตัวมอมแมมกำลังจ้องมองเธอที่กำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่เรียกได้ว่าอเนจอนาถเป็นอย่างยิ่ง

“พี่ชายคุณแม่จะตายไหม” เด็กผู้หญิงผมยาวรุ่ยร่ายปัดเส้นผมอันยุ่งเหยิงของเธอไปทางด้านหลังพลางเอ่ยถามเด็กผู้ชายที่โตกว่าเธอเพียงนิดเดียวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ไม่ตายหรอก คนใจร้ายเช่นนี้สวรรค์คงจะไม่ต้องการตัวหรอก” เด็กผู้ชายพูดพลางใช้ผ้าที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกยื่นมาตรงหน้าของเธอ เจียวซูหลันกะพริบตาแล้วจึงยกมืออันหนักอึ้งของเธอขึ้นมาจับมือของเด็กคนนั้นเอาไว้

“จะทำอะไร” เธอเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงอันแหบเครือ

“ผมจะเช็ดคราบเลือดให้” เสียงตอบของเด็กชายเต็มไปด้วยความเย็นชาแต่กลับสุภาพเป็นอย่างยิ่ง เจียงซูหลันได้แต่ทอดถอนใจออกมาแล้วพยายามขยับตัวเพื่อลุกขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก ภารกิจที่ได้รับก็คือให้เอาชีวิตรอดในโลกต่างมิติแห่งนี้ให้ได้ เพราะฉะนั้นอันดับแรกที่เธอควรจะระมัดระวังก็คือเรื่องการติดเชื้อ หากผ้าสกปรกผืนนั้นสัมผัสถูกใบหน้าของเธอ เธอมีความมั่นใจว่าอัตราการเอาชีวิตรอดของเธอในตอนนี้คงจะต้องลดลงไปอีกมาก

“พวกเธอคือใคร ไม่ใช่สิฉันคือใครหรือ” คำถามของเธอทำให้เด็กน้อยทั้งสองพลันนิ่งงันไปในทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel