ผลกรรมที่ได้รับ 1.1
บทที่ 4 ผลกรรมที่ได้รับ
“ฉันดีขึ้นแล้ว…ค่ะ” หญิงสาวนึกถึงบุคลิกของร่างเดิม หลังเสียครอบครัวไปที่ดูอึมครึมเรื่องนี้ทำให้สามารถแสดงออกได้ง่าย เพราะแค่ทำตัวให้เงียบและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเท่านั้นก็เพียงพอที่จะหลอกตาคนอื่นต่อไปได้
ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยมีญาติผู้ใหญ่มาก่อน จึงอดรู้สึกเกร็งไม่ได้
“ดีแล้ว ยังไงวันนี้ก็พักอีกสักวันก่อน หายดีแล้วค่อยกลับไปทำงาน” หลี่หงมีท่าทีลังเล ไม่กล้าอยู่ต่อ เพียงแค่วางถาดอาหารสลับให้กับถาดเก่า ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้อง
“ถ้าอย่างนั้นป้าไปทำงานก่อน อาเหมยพักผ่อนเยอะ ๆ หายดีแล้วค่อยออกไปทำงานก็ได้ ป้าจะขออนุญาตนายท่านให้”
“ค่ะ” โซเฟียตอบรับไปส่ง ๆ แต่หลี่หงก็ยังเบาใจและยอมออกจากห้องไปอย่างง่ายดาย นี่ทำให้เธอรู้สึกผิดนิดหน่อย
หญิงสาวเดินกลับไปที่เตียงและนั่งกินข้าวจนอิ่มก่อนจะกินยาเพื่อให้ร่างกายหายดีเร็ว ๆ ขณะเดียวกันก็นั่งพิงหัวเตียงเพื่อครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดีกับสิ่งที่กำลังพบเจอ
“หากนี่คือการข้ามมิติและย้ายมาเฉพาะวิญญาณ มาอยู่ในร่างของหญิงสาวคนนี้ ก็ไม่แปลกใจเลยที่สมองของฉันจะช้าลง แล้วยังได้รับผลกระทบจากการทำสิ่งที่คุ้นเคยของร่างกายนี้อีก”
พูดจบก็เหลือบมองผ้าห่มอย่างเย็นชา แต่หญิงสาวก็รู้สึกราวกับว่ามันกำลังส่งยิ้มให้ พร้อมกับกวักมือเรียกให้เธอรีบกลับไปนอนกอดมันอีกครั้งเร็ว ๆ ทำให้มาเฟียสาวผู้เย็นชาเสียอาการทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
“บ้าเอ๊ย ฉันโดนร่างกายเด็กสาวเล่นงานเสียแล้วเหรอเนี่ย” โซเฟียสบถออกมาก่อนจะดึงสายตากลับไปมองสำรวจรอบห้องอีกครั้ง
“อีกกว่าหนึ่งปีถึงจะสามารถค้าขายเสรีได้ ฉันต้องรีบสะสมเงินเพื่อออกไปจากที่นี่ และสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง”
แม้จะคิดแบบนั้นแต่เมื่อมองเข้าไปในความทรงจำก็พบว่า หลี่ซีเหมยคนก่อนเรียนจบแค่มัธยมต้นเท่านั้น เนื่องจากเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้นเสียก่อน ทำให้ต้องย้ายมาเป็นสาวใช้อยู่ในคฤหาสน์นี้ แม้ป้าจะสนับสนุนให้ไปเรียนได้ แต่เจ้าของร่างเดิมกลับหมดอาลัยตายอยากจนไม่ยอมทำอะไรเลย จะมีความอยากไปเรียนต่อได้อย่างไร
โซเฟียต้องการเรียนต่อ อีกไม่นานจะมีการเปิดสอบเกาเข่าอีกครั้ง เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับประเทศ และก่อนอื่นเธอต้องได้ใบประกาศระดับมัธยมปลายมาไว้เสียก่อน
“ดูเหมือนยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ โดยใช้สมองของร่างนี้… ฉันจะไปได้ไกลแค่ไหนกันนะ” ความกังวลหนึ่งเดียวของเธอในตอนนี้เห็นจะเป็นเรื่องสมองที่ช้า และโง่กว่าร่างเดิมนี่เอง
ถึงอย่างนั้นโซเฟียก็ไม่ถอดใจ ประสบการณ์ทำธุรกิจสร้างอำนาจมีอยู่เต็มเปี่ยม คงไม่ยากไปกว่าในชาติก่อนหรอกนะ
ช่วงเวลาเดียวกัน ในโลกใบเดิมของโซเฟีย
หลังจากมาเฟียสาวเสียชีวิตไป ไม่มีใครสงสัยต้นเหตุของการเสียชีวิตของโซเฟียจะเป็นคุณหนูซูซานพร้อมทั้งสามีของเจ้านายอย่างโรเบิร์ตเลยแม้แต่น้อย
เนื่องจากในสถานที่เกิดเหตุ ยังมีแพะรับบาป ผู้ร้ายที่ฆ่านายหญิงโซเฟียลงด้วยตัวเองอย่างคนสนิท แม้เรื่องที่ฌอนทรยศจะทำให้ทุกคนตกตะลึง คาดไม่ถึงสักเท่าไร ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเขาเป็นคนฆ่าโซเฟีย ก่อนเขาจะต้องตายจากการโจมตีตอบโต้ของนายหญิง
นั่นทำให้ไม่มีพยานคนอื่นอีกนอกจากซูซานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุพอดี แล้วยังบีบน้ำตาร้องไห้เสียใจจนเป็นลมเป็นแล้งไปอีกคน
เมื่อนายหญิงล้มลง มีการแบ่งอำนาจขึ้นในหมู่ลูกน้องทันที ส่วนหนึ่งซึ่งนำโดยกลุ่มคนที่หลงรักคุณหนูซูซานผู้อ่อนแอบอบบางราวกับเจ้าหญิงน้อย และต้องการปกป้องเธอต่อไป โดยอ้างว่าหากนายหญิงโซเฟียยังอยู่ก็คงต้องการเช่นนี้ ซึ่งใคร ๆ ต่างรู้ดีว่าโซเฟียรักและหวังดีต่อซูซานมากเพียงใด
คงมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่กล้าทรยศทุกสิ่งที่โซเฟียมอบให้ เพียงเพื่อแก้แค้นให้ครอบครัวที่ตายไปตั้งแต่อายุห้าขวบปี
บางส่วนมองว่าโรเบิร์ตควรได้สืบทอดอำนาจต่อในฐานะนายท่านเพราะเจ้านายมีครอบครัวอยู่แค่สองคน ขณะที่ส่วนสุดท้ายเป็นกลุ่มกบฏที่ต้องการแยกตัวออกไปเพื่อยึดอำนาจ ส่วนนี้จะเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่สุดซึ่งโซเฟียเลี้ยงเอาไว้เป็นอาวุธเท่านั้น
เมื่อมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น พินัยกรรมก็ถูกนำออกมาสามฉบับด้วยกัน
“ผมขอประกาศพินัยกรรมฉบับแรก”
