บท
ตั้งค่า

บทที่หนึ่ง ภรรยาที่มิมีใครต้อนรับ (ต่อ)

ดวงตาสีดำสนิทดั่งรัตติกาลจ้องมองมายังดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่กำลังเบิกกว้างเพราะตกใจ

ซูเมิ่งจะชักมือออกก็มิสามารถทำได้ดังนั้นริมฝีปากกลีบกุหลาบจึงขบเข้าหากันอย่างขัดใจที่ตนเองในชาตินี้แรงน้อยจนเกินไป

หญิงสาวผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อต้องการตั้งสติมิให้ตื่นตระหนกกับเพียงแค่เห็นดวงตาดุร้ายของคนเมากำลังจ้องมองมาที่นางเขม็ง

“ท่านหยางเหวิน นี่ข้าเองเจ้าค่ะ ภรรยาของท่าน....” นางพยายามส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้อีกฝ่าย ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่นางมักใช้ยามกำลังเจรจาข้อตกลงกับคู่ค้าในชาติที่แล้ว

ซูเมิ่งขอตั้งชื่อให้กับรอยยิ้มนี้ว่า รอยยิ้มการค้าก็แล้วกัน

“....ข้านามซูเมิ่งเจ้าค่ะ”

“....”

ทว่าดูท่าคู่ค้านางผู้นี้จะมิใช่คนที่มีนิสัยเป็นมิตรเสียแล้ว

ดูเขาสิ จ้องมองนางเขม็ง ด้วยใบหน้าดุดันราวกับปิศาจเช่นนั้น หากเป็นเมื่อก่อนนางคงทำทุกวิถีทางที่จะเลี่ยงคบค้ากับคนประเภทนี้

ไม่ทักทายกลับแถมยังไม่ส่งยิ้มให้สักครั้งทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกัน

เฮ้อ สงสัยนางต้องศึกษานิสัยของผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้โดยละเอียดเสียหน่อยแล้ว มิเช่นนั้นสตรีบ้านนอกควบด้วยสตรีต่างมิติเช่นนางเกรงว่าจะอยู่รอดได้ยาก

“ท่านเมามาก ข้าเพียงต้องการจัดแจงให้ท่านนอนได้สะดวกขึ้นเท่านั้นเจ้าค่ะ”

“....”

ซูเมิ่งรู้สึกตนเองราวกับตนเองพูดกับกำแพง ไร้การตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น ในที่สุดนางก็คิดได้เองว่านางควรปล่อยให้คนเมาได้พักผ่อนบนเตียงนอนนุ่มๆ ส่วนนางก็หาที่นอนสักที่ในห้องแห่งนี้ได้แล้ว

ทว่าพอนางหันหลังกำลังจะเดินจากไปแรงฉุดรั้งร่างนางให้หงายหลังมหาศาลทำให้ซูเมิ่งเสียหลักล้มลงไปนอนบนเตียง

เนื่องจากนางมิทันได้ตั้งตัวดังนั้นในหัวคิดแล้วว่าศีรษะตนเองไม่แคล้วกระแทกเตียงไม้บาดเจ็บเป็นแน่ ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายกลับมิเป็นเช่นนั้น...

ศีรษะซูเมิ่งกระแทกกับแผ่นอกแกร่งของสามีขี้เมาของนางเองผู้เป็นคนดึงฉุดให้นางล้มลงมานั่นเอง

ซูเมิ่งไม่พอใจอย่างยิ่งจึงชักสีหน้าใส่อีกฝ่าย

“ว้าย”

ก่อนที่หญิงสาวจะหวั่นวิตกใจอีกรอบเมื่อนางโดนจับพลิกให้มานอนหงายหน้าอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“ทะ ท่านจะทำอันใด”

ซูเมิ่งเพ่งมองแววตาคมกริบคมวาวราวกับเหยี่ยวที่กำลังหมายตาเหยื่ออันโอชะบนพื้นดินด้านล่างเบื้องหน้าอย่างแตกตื่นลนลาน

“เจ้าลืมไปแล้วรึว่าเจ้าเข้ามาที่ตระกูลข้าในฐานะอันใด”

“ขะ ข้า....”

แม้ว่าวาจาตะกุกตะกักทว่าประสาทสัมผัสซูเมิ่งตื่นตัวระวังภัยเต็มที่

“เช่นนั้นข้าจะทบทวนสถานะของเจ้า แล้วจงจดจำให้ขึ้นใจ”

โพล๊ะ

ราวกับมีฟองสบู่แตกในหัวของซูเมิ่ง หญิงสาวตะลึงพรึงเพริดจนสมองว่างเปล่าไปแล้วสิ้น เมื่อสามีที่นางคิดว่าอีกฝ่ายเมามายไร้สติมาโดยตลอดกำลังก้มหน้าลงมาป้อนจุมพิตร้อนแรงให้แก่นาง

มิรู้ว่าเพราะอีกฝ่ายดื่มสุราจนเมาเกินไปหรือไม่ รสจูบที่ชายหนุ่มยัดเยียดให้นางจึงเต็มไปด้วยความกระหายราวกับนักล่าจำศีลที่มิได้กินเนื้อนุ่มมานานหลายปี พอได้มีโอกาสลิ้มรสจึงตะกละตะกลามเช่นนี้

ครั้งนี้ถือเป็นจุมพิตแรกของนางทั้งในมิตินี้และมิติที่แล้ว

ซูเมิ่งรู้สึกเหมือนตนเองกำลังโดนเขมือบกินปาก

นางไม่คิดเลยว่าฉากหวานแหววของพระนางที่เคยเห็นในละครหลังข่าวแท้จริงแล้วจะน่ากลัวถึงเพียงนี้

ซูเมิ่งหวาดกลัวยิ่งนัก

“แค่กๆๆ”

ท้ายที่สุดคนไม่เคยจูบมาก่อนยิ่งมิต้องพูดถึงการหายใจให้ถูกต้องนางล้วนไม่สามารถทำได้ ดังนั้นนางจึงไอโขลกๆ ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ข้า ข้าหายใจมิทันเจ้าค่ะ”

เสียงของซูเมิ่งทำให้หยางเหวินที่กำลังคลุ้มคลั่งกระหายความหวานหยดหยุดชะงัก ชายหนุ่มค่อยๆ ผละใบหน้าออกมาสบตามองสตรีที่ได้ชื่อเป็นภรรยาของตนเอง

ใบหน้าเย็นชานั้นทำให้ซูเมิ่งหวาดหวั่นใจยิ่ง

นางย่อมรู้ว่าอย่างไรเสียวันนี้นางจะต้องเข้าหอกับเขาเป็นแน่แท้ ซูเมิ่งไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ทว่าหญิงสาวก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะกระทำรุนแรงเกินร่างกายนางจะรับไหวหรือไม่

ซูเมิ่งไม่เคย แล้วยิ่งเป็นครั้งแรกของนางที่เขาบอกกันว่าเจ็บยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

หยาดน้ำตาไม่รู้ว่ามันเอ่อล้นออกมาเต็มดวงตานางตั้งแต่เมื่อไหร่ ยามใช้แววตาสองคู่นี้มองไปที่บุรุษเหนือร่างนางจึงดูเว้าวอน น่าสงสารยิ่งนัก

“เหอะ!ข้าหาได้ต้องการบังคับใครไม่ ออกไป!ข้าบอกให้เจ้าออกไปจากห้องของข้าเดี๋ยวนี้”

ซูเมิ่งเผลอตัวสั่นตามแรงอารมณ์ของอีกฝ่าย เสียงตะคอกดังก้องในโสตประสาทหูของนางยิ่งนัก

ราวกับกริยาหวาดกลัวของนางทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจจึงไล่ตะเพิดนางราวกับหมูกับหมาเช่นนี้

“ตะ แต่ นี่เป็นห้องหอ”

ให้นางออกไปจากที่ห้องนี้แล้วนางควรไปที่ใดต่อ....

ในเมื่อที่นี่มิใช่จวนของนาง และซูเมิ่งเพิ่งเคยมาเหยียบสถานที่แห่งนี้คราแรกด้วยซ้ำ

ดังนั้นซูเมิ่งจึงได้แต่ยืนเคว้งคว้างมิเดินออกจากห้องไปตามที่อีกฝ่ายตะโกนไล่

“หึ....”

สุดท้ายแล้วฝ่ายที่ต้องเดินจากไปจึงคือสามีผู้สร่างเมาของนาง เสียงกระแทกปิดประตูดังโครมทำให้ซูเมิ่งสะดุ้งตกใจ

“เฮ้อ รอดไปแล้วหนึ่งวัน”

ซูเมิ่งเดินเข้าไปนั่งบนเตียงนอนที่เคยเป็นสถานที่ที่ทำให้นางเกือบหลั่งน้ำตาด้วยความกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิตนี้

“ดูท่าชีวิตในจวนแห่งนี้จะมิง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel