บท
ตั้งค่า

ตอนที่7 เข้าป่ากับสามี

มิคิดว่าจะมีสตรีชาวบ้านที่มีความสามารถในการปรุงอาหารได้น่าทึ่งเพียงนี้ กระทั่งใช้เครื่องเทศบางชนิดที่มีอยู่ในครัวได้ด้วย เขาประเมินนางต่ำไปแล้วจริงๆ ด้วยสินะ

เห็นว่านางจะลุกเดินออกไป เขามิเข้าใจว่าเหตุใดนางถึงไม่อยากร่วมโต๊ะกับเขาที่เป็นสามี

"แล้วนั่นเจ้าจะไปไหน"

"ข้าจะเข้าป่าไปหาสมุนไพรเจ้าค่ะ ถึงข้าแต่งกับท่านก็จริง หากแต่อย่างไรข้าก็ต้องการเงินเหมือนกัน"

"มิใช่ว่าข้าจะห้ามเจ้า แต่อาหารมากมายถึงขนาดนี้ เจ้าเองก็ควรที่จะกินอะไรก่อนที่จะออกไป ร่างกายเจ้าเพียงลมพัดมา ก็คล้ายจะปลิวไปตามแรงลมแล้ว"

เฟิงอวี้มองดูแขนขาที่ผอมกว่าผู้คนทั่วไปมาก ถึงได้เข้าใจว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมา เพราะความเป็นกังวลจริงๆ ร่างนี้อ่อนแอมากเกินไป หากไม่ดูแลดีๆ คิดว่าคงจะล้มป่วยลงได้ง่ายๆ หากมิใช่ร่างกายที่อ่อนแอ คิดว่าเจ้าของร่างเดิมจะจากร่างนี้ไปหรือ 

"เช่นนั้น ข้าจะไปตักข้าวมา ท่านกินก่อนได้เลย"

นางหายเข้าไปในครัวไม่นานก่อนที่จะออกมาพร้อมกับข้าวสวยชามใหญ่ และตะเกียบคู่หนึ่ง ในเมื่อเขาเป็นคนเอ่ยชวนนางกินอาหารเอง นางเองก็ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องเกรงใจเขาอีกต่อไป

"เช่นนั้น ท่านก็กินเถอะเจ้าค่ะ หมูหวาน กับหมูป่าผัดน้ำมันพริก ข้าเห็นว่าในครัวมีผักกาดส่วนหนึ่งเหลืออยู่ เลยเอามาผัดกับน้ำมันหมู"

ไป๋เฟยหลงมองอาหารสามอย่างบนโต๊ะ ก่อนที่พยักหน้าเบาๆ และเริ่มกินอาหารในส่วนของตนเองต่อไป อาหารทุกอย่างผสมผสานกันอย่างลงตัว หากสตรีตรงหน้านี้ เขามิรู้ประวัติมาก่อน คงคิดว่านาง คงเป็นสาวรับใช้ในตระกูลใหญ่สักตระกูล

"ฝีมือการทำอาหารของเจ้ามิเลวเลย ไม่อยากรู้มาก่อนว่าหญิงสาวชาวบ้านเช่นเจ้า จะมีทักษะการทำอาหารที่น่าตื่นตาเพียงนี้"

"มิใช่ว่าท่านกินอาหารเลิศรสบ่อยจนคุ้นชินไปแล้วหรือเจ้าคะ อาหารของข้าจะไปเปรียบเทียบกับอาหารชั้นดีเหล่านั้นได้อย่างไร"

"อันที่จริงข้าก็อยากจะถามเจ้าพอดี เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นใคร"

เขามิได้ระแวดระวัง เพราะความรู้สึกบอกว่าสตรีผู้นี้มิได้มีพิษภัยอะไรต่อเขาเลยแม้เพียงนิด เพราะหากจะฆ่านางก็ทำได้เพียงง่ายดาย

"เรื่องนั้น ข้าก็บอกท่านไม่ได้เหมือนกัน แต่สายตาของข้ามองทะลุได้ทุกอย่าง ท่านมิต้องกลัวว่าข้าจะเป็นคนไม่ดีหรอกนะ อย่างไรข้าก็แต่งให้ท่านแล้ว คนอย่างข้าซื่อสัตย์มากพอ ขอแค่ท่านมิทอดทิ้งข้าก็เพียงพอ ว่ากันตามตรงข้าเองก็พึงใจจะเป็นนายหญิงของท่าน"

คิดว่าสตรีคนนี้น่าสงสารในตอนแรก และต้องการที่จะใช้นางเป็นเครื่องมือ สำหรับการใช้ชีวิตที่สงบสุขในหมู่บ้านห่างไกลแห่งนี้ แต่มิรู้ว่าทำไมไป๋เฟยหลง ถึงคิดว่าเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบนางเอาเสียอย่างนั้น

"เอาเถอะ เจ้าจะทำอันใดก็ล้วนแต่เจ้า หากขออย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปให้คนนอกรู้ ผักในสวนที่ข้าปลูกเจ้าสามารถนำไปขายและเก็บเงินทั้งหมดเอาไว้ได้เลย ถ้าข้าว่างจะช่วยเจ้าเก็บเกี่ยวมันเอง"

จากที่ระบบคำนวณแล้ว ผักงามทั้งหมด ขายได้ไม่ต่ำกว่าสิบตำลึงทอง แบบนี้แล้วทำไมจะไม่คุ้มค่า ริมฝีปากบางยิ้มเหยียดออกมาอย่างยินดี

"ขอบคุณเจ้าค่ะ "

หลังจากที่จัดการอาหารทั้งสามจานจนหมดเกลี้ยง สองสามีภรรยาก็แยกกันเข้าป่า ตามเส้นทางที่ระบบบอก คาดว่าน่าจะต้องเดินไปตามทิศทางป่าของเมื่อวานนี้ เพราะว่าเมื่อวานนี้นางไปหาสมุนไพรช้าเกินไป ทำให้กว่าจะถึงในเมืองกว่าจะถึงบ้านก็มืดค่ำ แต่ครานี้มิต้องเร่งรีบขนาดนั้น อย่างไรแล้วนี่ก็ยังเป็นหัววันอยู่

"แล้วเจ้าจะเข้าป่าทิศใดหรือ"

ไป๋เฟยหลงที่อยู่ในชุดทะมัดทะแมงกว่าก่อนหน้านี้ เอ่ยถามนางด้วยความสงสัยเล็กน้อย หากนางมีความคิดจะไปทางป่าทิศเหนือจะได้เดินทางไปพร้อมกัน

"ทิศเหนือเจ้าค่ะ" 

"ดีล่ะ อย่างนั้นก็ไปด้วยกันสิ ข้าก็จะเข้าไปหาสมุนไพรทางทิศเหนือเหมือนกัน ป่าที่นั่นรกทึบและมีสัตว์ร้าย เจ้าไม่หวั่นกลัวบ้างหรืออย่างไร"

เฟิงอวี้มีท่าทีลังเลเล็กน้อย จริงอยู่ที่เธอมีระบบจอมปราชญ์ติดตัว แต่ทว่าหากมีอันตรายเยี่ยงนั้นเกิดขึ้นจริง ระบบที่มีอยู่ก็มิอาจช่วยเหลืออันใดนางได้เลย

"เป็นเช่นนั้นข้าก็รบกวนสามีแล้ว"

แม้รู้ว่าแต่งนางเข้ามาเป็นภรรยา หากแต่การมีผู้ใดมาเรียกตนเองว่าสามีแบบนี้ มันก็พาลรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาเหมือนกัน แววตาที่คมเข้มมองภรรยาก่อนที่จะกระแอมแก้เก้อขึ้นมา

"เช่นนั้นก็ออกเดินทางกันเถิด"

"หากข้าหาสมุนไพรหายากได้ ท่านยินดีที่จะรับซื้อจากข้าหรือไม่ ข้าแค่อยากเสนอให้ท่านที่เป็นสามีของข้าก่อน ก่อนจะคิดถึงคนอื่นก็ควรจะคิดถึงครอบครัวตนเองก่อนสิ ถึงจะถูกต้อง"

สตรีผู้นี้ฉลาดแกมโกงเกินไปแล้วจริงๆ แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ไป๋เฟยหลงก็พยักหน้ารับนางอย่างเรียบง่าย อย่างไรแล้วถ้านางมีสมุนไพรหายากมาขายเขาจริงๆ ก็เป็นเรื่องดีเสียอีก

แม้ว่าร่างกายของนางจะผอมบางไปมาก แต่ทว่าการเดินทางมิได้เป็นอุปสรรคเลยสักนิด ระหว่างทางระบบฉายชื่อพืชชนิดต่างๆ ขึ้นมา ก่อนที่จะแพ่งไปที่พืชเลื้อยคลาน ชนิดหนึ่ง

"พืชชนิดนี้ มีฤทธิ์ถอนพิษร้อนจากธาตุไฟได้ หากนายท่านได้ไป ต้องได้ราคาอย่างต่ำหนึ่งตำลึงทอง มันค่อนข้างที่จะเป็นพืชหายากชนิดหนึ่ง แต่ก็ยังหาได้ไม่ยากเท่ากับโสมคนก่อนหน้านี้"

ได้ยินแบบนี้ เฟิงอวี้ก็คิดไปถึงโสมคนที่ได้มาเมื่อไม่นานนี้ นางทำรายได้จากโสมคนสามต้น ได้ถึงหกร้อยตำลึงทองทีเดียว หากแต่เมื่อต้องการให้ชีวิตรุ่งเรือง ก็ต้องหาเงินให้มากขึ้นกว่านี้

แม้ว่าอยากเป็นนายหญิงแห่งเจ้าหุบเขาพิษ แต่ทว่านางต้องการที่จะมีทรัพย์สินเป็นของตนเองบ้างก็เท่านั้น อย่างน้อยๆ การเป็นสตรีที่ทรงคุณค่า ก็คือสตรีที่มีทรัพย์เป็นของตนเอง มิใช่หวังพึ่งทรัพย์สินสามีแต่เพียงอย่างเดียว

ไป๋เฟยหลงหันมองดูภรรยาที่ก้มขุดสมุนไพรชนิดหนึ่ง พืชชนิดนี้นับว่าเป็นพืชที่ค่อนข้างหาเจอได้ยาก ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเฟิงอวี้ภรรยาหมาดๆ ของตนจะรู้จักมันด้วย

"ข้าจะเดินเข้าไปลึกกว่านี้เสียหน่อย หากเจ้าต้องการเข้าไปกับข้าก็รีบเอาเสียสักหน่อย"

เฟิงอวี้เหลือบสายตาสองสามีเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะตอบรับเขาอย่างกระตือรือร้น

"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว"

หลังจากมั่นใจว่าได้สมุนไพรมาแล้วหนึ่งชนิด  เฟิงอวี้พยายามรักษาทั้งลำต้นและรากเอาไว้ตามที่ระบบแนะนำมาเป็นอย่างดี หากสามีมิต้องการซื้อจากนาง ก็แค่นำเข้าไปเสนอขายที่หอค้ายาเท่านั้นเอง

ขาเรียวยาวเดินนำเส้นทางไปก่อนแล้ว สามีของนางเขามีรูปร่างที่แข็งแรง ถึงตอนนี้แล้วนางเชื่อมั่นว่า หลังจากที่เขาโกนหนวดเครา และดึงผ้าปิดตา ที่ขวางหูขวางตานางออก เขาจะต้องเป็นบุรุษที่งดงามผู้หนึ่ง

หากได้แต่เพ้อฝันเพียงเท่านั้น เขามิเคยเปิดผ้าปิดตาด้านนั้นออกมาเลยสักหน แต่เอาเถอะนางเพิ่งจะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาเพียงวันแรกเท่านั้น รอดูต่อไปว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนาง จะมีโอกาสพัฒนาไปมากกว่านี้หรือไม่

เดินไปเพียงไม่นานก็เห็นเขาสนใจอยู่กับขอนไม้ ระบบช้ากว่าที่จะรายงานผลว่าบนขอนไม้นั่นเป็นเห็ดพิษชนิดหนึ่ง ที่ใช้ในการมอมเมาบุรุษให้มีความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง

บางครั้งการใช้สมุนไพรก็น่าหวั่นจริงๆ หากใช้ถูกทางมันก็จะเป็นสิ่งที่ดี หากใช้ในทางที่ไม่ดีมันก็จะให้โทษ เฟิงอวี้ไม่แปลกใจ ที่เห็นเขาเก็บเห็ดพิษนั่นห่อใบไม้อย่างพิถีพิถัน อย่าลืมสิว่าเบื้องหลังแล้วบุคคลผู้นี้เป็นใคร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel