บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เกือบเอาชีวิตมาทิ้ง

เมื่อไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ก็ทำเอาหัวใจของเธอสั่นระรัวด้วยความกลัวและกังวล

หากสิ่งที่ศาสตราจารย์จางพูดถึงเป็นจริงว่า ต้องรอให้เวลาที่ย้อนมาดำเนินไปจนถึงปัจจุบันจึงจะกลับคืนสู่ปัจจุบันได้ นั่นหมายความว่าเธอต้องติดอยู่ที่นี่อีกหลายสิบปีเลยอย่างนั้นหรือ

“เราควรกลับไปบ้านตัวเองที่ปักกิ่งแล้วไปอยู่กับพ่อแม่ให้พวกท่านช่วยเหลือ ใช่แล้ว” เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็ยิ้มออกมา

วางแผนว่าหากบุพการีทั้งสองไม่เชื่อว่าเธอคือลูกสาว ก็จะเล่าเรื่องที่คุณปู่เคยเล่าเรื่องวีรกรรมของคุณพ่อ เท่านั้นก็น่าจะเพียงพอให้เขาเชื่อเธอแล้ว หรือไม่ก็ช่วงตั้งครรภ์ที่มารดาฝันเห็นพระพุทธองค์ส่งเทพธิดามาจุติในครรภ์ ซึ่งมารดาไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ท่านก็น่าจะเชื่อเธอแล้ว

เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เร่งฝีเท้าเพื่อที่จะไปที่ป้ายรถประจำทางที่อยู่หน้าโรงพยาบาล ขณะที่รอรถก็ลืมไปว่าตนไม่มีเงินติดตัวมาสักหยวน อีกอย่างเงินในยุคปัจจุบันก็คงใช้ไม่ได้กับที่นี่

ขณะนั้นก็มีคนมานั่งข้าง ๆ มองหญิงสาวในชุดเสื้อคลุมยาวสีขาวก็เข้าใจว่าเธอทำงานที่โรงพยาบาลก็ยิ้มให้ ก่อนจะคลี่หนังสือพิมพ์ออกแล้วอ่านรอรถประจำทางมาถึง จ้าวหลันเฟยเห็นอย่างนั้นก็ขอยืมหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นทันที

“เอ่อ คุณน้าคะ ฉันขอยืมหนังสือพิมพ์หน่อยได้หรือเปล่า” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ได้ค่ะคุณหมอ” หญิงวัยกลางคนยื่นหนังสือพิมพ์ของเธอให้ จ้าวหลันเฟยรับเอาไว้ แล้วอ่านดูวันที่ในหน้าแรกด้วยหัวใจที่เต้นรัว

“20 ตุลาคม 1984” เธออ่านช่วงเวลาที่ปรากฏด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ ความคิดที่ว่าจะกลับไปบ้านเกิดยังปักกิ่งเพื่อขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของตน พลันหายไปจากความคิด

อย่าว่าแต่เธอยังไม่เกิดเลย สี่สิบปีที่แล้วพ่อแม่เธอยังไม่เจอกันเสียด้วยซ้ำไป บ้านเดิมของคุณปู่คุณย่าหรือว่าบ้านคุณตาคุณยายเธอก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เธอโตมาทั้งสองครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ที่ปักกิ่งกันหมดแล้ว

“มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีค่ะคุณน้า นี่คะหนังสือพิมพ์ ขอบคุณนะคะ” เธอกล่าวด้วยความสุภาพแล้วส่งหนังสือพิมพ์คืนไปให้เจ้าของ เมื่อรถประจำทางมาถึงก็ได้แต่มองคนอื่นทยอยขึ้นรถไป ในขณะที่เธอตอนนี้ไม่มีจุดหมายว่าจะไปที่ไหนและขอความช่วยเหลือจากใครได้

“ศาสตราจารย์โจวก็คงเพิ่งสามขวบ ส่วนศาสตราจารย์จางก็คงกำลังเรียนประถม หึ ต้องติดที่นี่อีก 40 ปี แล้วตอนฉันกลับไปถึงจะแก่หงำเหงือกแล้วเปล่า หรือต้องตายอยู่ที่นี่ก่อนจะได้กลับไปนะ” หญิงสาวพึมพำอย่างสิ้นหวัง

จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วตัดสินใจที่จะเดินกลับไปยังบ้านร้างหลังนั้น อย่างน้อยก็สามารถใช้ที่นั่นเป็นที่ซุกหัวนอนชั่วคราวได้ในคืนนี้

ขณะที่กำลังเดินไปตามเส้นทางเดิมที่จากมา ฟ้าก็เริ่มมืดขึ้นเรื่อย ๆ กว่าเวลาจะกลับไปบรรจบกันกับช่วงเวลาที่เธอจากมาก็อีกตั้ง 40 ปี กว่าจะถึงตอนนั้นเธอต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ หรือไม่ก็...

“หรือไม่ก็ต้องสร้างไทม์แมชชีนอีกเครื่องเพื่อที่จะกลับไป” ความคิดที่เป็นหนทางสว่างนั้นทำให้เธอดีใจเพียงครู่ก็ทำหน้าสลดลงอีกครั้ง เธอจะหาทุนพันล้านมาจากที่ไหน แล้วในยุคสมัยนี้นักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยเก่ง ๆ ก็มีแต่ต่างประเทศเท่านั้น

ขณะที่กำลังจมอยู่กับวิธีที่จะกลับไป เธอก็เดินมาถึงสะพานข้ามคลองที่มีความยาวกว่าสิบเมตร เห็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กหญิงวัยประมาณสี่ขวบวิ่งมาหน้าตาตื่น จากนั้นก็ชนเข้ากับเธอจนล้มลงไป ทั้งหญิงคนนั้นและเด็กหญิงก็ล้มลง

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” จ้าวหลันเฟยรีบเข้าไปถาม แล้วช่วยประคองเด็กหญิงให้ยืนขึ้น หญิงสาวคนนั้นลุกขึ้นได้ เธอมองเด็กหญิงที่ร้องไห้จ้า แล้วมองหันหลังกลับไปด้วยความลังเล จากนั้นก็ตัดสินใจทิ้งเด็กเอาไว้แล้ววิ่งหนีไป

“อ้าว คุณ! คุณ! คุณลืมเด็กไว้” จ้าวหลันเฟยร้องตาม แต่หญิงคนนั้นก็ไม่สนใจแม้แต่จะหันกลับมามอง

“ช่วยหนูด้วย ฮือ ๆ ช่วยหนูด้วย หนูจะหาหม่าม้า” เด็กหญิงร้องไห้สะอึกสะอื้น

“โอเค เดี๋ยวน้าจะพาไปหาแม่นะ อย่างร้องนะคนดี” จ้าวหลันเฟยอุ้มเด็กน้อยขึ้นแล้วตั้งใจจะเดินพาไปส่งผู้หญิงคนนั้น พลางนึกตำหนิว่าแม่ประสาอะไรทำไมทิ้งลูกไว้แบบนี้ แล้วเธอหนีอะไรมากันแน่

“นั่นไง คุณหนูอยู่นั่น” เสียงของผู้ชายที่ตะโกนโหวกเหวกอยู่ด้านหลัง ตามมาด้วยรถคลาสสิกรุ่นเก่าที่น่าจะนิยมใช้ในสมัยนั้นก็มาจอดเทียบข้าง ๆ เธอ

“ส่งเด็กมา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” คนที่วิ่งมาถึงก็พูดขู่เสียงดัง หายใจหอบและมองด้วยสายตาที่เอาเรื่อง

“นี่พวกลักพาเด็กหรือ ให้ตายสิ ถอยออกไปเลยนะ” จ้าวหลันเฟยกอดเด็กหญิงไว้แน่น จะถอยก็มีคนขวาง จะเดินหน้าก็มีคนวิ่งมาขวาง ข้าง ๆ คือราวสะพาน อีกข้างคือรถที่จอดขวางเอาไว้

ตอนนั้นเองก็มีรถอีกคันที่รุ่นและยี่ห้อเดียวกันมาจอดหน้ารถคันแรก ชายที่ลงมาท่าทางเหมือนพวกหัวหน้า ใส่สูทที่ดูมีราคา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เดินเข้ามาหาเธอแล้วอุ้มเอาตัวเด็กหญิงไปในจังหวะที่เธอกำลังลังเลมองหาทางหนี

“เอาเด็กคืนมานะ” เธอร้องโวยวาย กลัวว่าคนเหล่านี้จะทำร้ายเด็กหญิง

ประธานหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีส่งเด็กให้กับผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งรถคันแรกมาถึงก่อน จากนั้นก็เดินตรงมาที่เธอพร้อมกับใช้ฝ่ามือที่ใหญ่และกำยำคว้าเข้าที่คอของเธอแล้วบีบจนหญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ออก ดิ้นขลุกขลักพยายามแกะมือของเขา

“กินดีหมีหัวใจเสือมาหรือถึงกล้าลักพาตัวลูกสาวฉัน” เขาพูดเสียงลอดไรฟัน สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความโกรธและอาฆาต ฆ่าเธอได้เขาก็คงลงมือฆ่าไปแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้เขากำลังฆ่าเธออยู่หรือ

“ฉัน..ไม่ ได้..ทำ...” เธอพยายามจะพูดแก้ตัว เข้าใจสถานการณ์แล้วว่าเธอเข้าใจผิด คนที่ลักพาตัวเด็กคือผู้หญิงที่วิ่งหนีไปก่อนหน้านี้ต่างหาก และตอนนี้เธอกำลังรับเคราะห์แทน

“ไม่ใช่เธอ เธอช่วยหนูไว้ ไม่ใช่เธอ”

เด็กหญิงพูดไปพลางสะอื้นไป เมื่อแม่บ้านได้ยินอย่างนั้นก็รีบออกมาบอกกับเจ้านายของตนทันที

“คุณเฉินคะ คุณหนูเล็กบอกว่าไม่ใช่เธอที่ลักพาตัว ผู้หญิงคนนี้ช่วยคุณหนูเอาไว้” เมื่อได้ยินเขาก็รีบปล่อยมือออกจากเธอ ทว่าจ้าวหลันเฟยที่ทั้งกลัวและตกใจทั้งเรื่องที่เธออยู่ในที่ที่ไม่ใช่ยุคสมัยของตน ทั้งเรื่องที่กำลังถูกเขาเข้าใจผิดและลงมือทำร้าย ทำให้หญิงสาวหมดสติไปในตอนนั้น

“เอาอย่างไรดีครับคุณเฉิน” ลูกน้องที่วิ่งหอบตามคนร้ายมาถามด้วยความร้อนใจ จะพาไปโรงพยาบาลก็เกรงว่าเจ้านายจะถูกข้อหาทำร้ายร่างกาย หากจะปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ก็คงไร้คุณธรรมกับผู้มีพระคุณที่ช่วยคุณหนูเอาไว้ พลเมืองดีคนอื่น ๆ ที่ตามมาช่วยเมื่อเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายก็เริ่มทยอยกันกลับออกไป หลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องของพวกเขาแล้ว

“พาเธอกลับไปที่บ้านก่อน ฟื้นแล้วก็ค่อยเจรจาชดเชยให้เธอ เงินซื้อได้ทุกอย่างนั่นแหละ แม้กระทั่งหัวใจคน” พูดจบเขาก็ให้คนช่วยพาเธอขึ้นรถอีกคันแล้วให้แม่บ้านเก่าแก่นั่งไปนั่งเป็นเพื่อนเธอ ส่วนเขาก็นั่งรถอีกคันแล้วกอดเฉินจินเจินที่ตอนนี้หลับไปแล้ว

เฉินอี้เซียวถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ตามมาช่วยเหลือลูกสาวคนเล็กได้ทันเวลา โน้มใบหน้าลงไปจุมพิตที่หน้าผากของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน หัวใจผู้เป็นพ่อแทบจะแหลกสลายตอนที่คนโทรมาบอกว่าเธอถูกลักพาตัว

************************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel