บุคคลสำคัญปรากฎตัว 1-2
1
บุคคลสำคัญล้วนปรากฎตัว
“นั่นเป็นเรื่องของพวกคุณ ฉันให้โอกาสพวกคุณเท่านี้ แต่พวกคุณควรรู้ไว้ว่าผู้บัญชาการมณฑลซูเป่ยจางอวี้เจินนั้นโหดเหี้ยมมาก หากเขาตั้งใจไม่ปล่อยไม่ว่าอยู่ที่ไหนเขาก็จะตามหาคุณจนเจอ”
คนร้ายเมื่อได้ฟังก็ขนลุกชันขึ้นทั่วร่าง พวกโจร ขโมยไม่มีใครไม่รู้จักกิตติศัพท์ของผู้บัญชาการมณฑลจางอวี้เจิน เพราะพวกเขามาจากที่อื่นจึงไม่รู้ว่าที่นี่คือเขตพื้นที่ของจางอวี้เจินผู้นั้น
ปืนในมือที่ใช้ข่มขู่เธอก่อนหน้านี้เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย ไม่คิดว่าเธอจะโกหกเพียงเพื่อเอาตัวรอดเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
“พวกเราควรทำอย่างไรต่อ”
“ถ้าเชื่อฉันก็แค่จอดรถ จอดรออยู่ตรงนี้รอให้ผู้บัญชาการมณฑลมาถึง”
“หากผู้บัญชาการมาถึงพวกเราจะรอดได้ยังไง”
“เมื่อตัดสินใจจะเชื่อฉัน พวกคุณก็ไม่ควรถามแล้วไม่ใช่หรือคะ”
รถที่ขับออกมาหยุดลงเมื่อเธอพูดจบ ถึงอย่างไรขับต่อก็ไม่รอดไม่สู้ยอมเสี่ยงอยู่ที่นี่กับเธอยังดีเสียกว่า ทั้งหมดจึงนั่งรออยู่ในรถ เกือบห้านาทีก็มีรถทหารสองคันวิ่งมาจอดฝั่งตรงข้ามของถนนนอกตัวเมือง ทหารผู้น้อยทุกคนลงจากรถแล้วจ่อปืนมายังรถที่คนร้ายขับ
เกาม่านอี้เปิดประตูลงจากรถยืนนิ่งอยู่ตรงประตู รอจนคนที่ตั้งใจมาพบลงจากรถตอนเห็นเธอ ชายหนุ่มรูปร่างสูงสมส่วนสมเป็นชายชาติทหาร ใบหน้าหล่อคม ดวงตาดุร้ายราวกับเหยี่ยวมองเหยื่อ เขาขมวดคิ้วเพ่งมองร่างอวบอีกฝั่งถนน
ทำไมเป็นเธอ เขาได้ยินว่ามีคนถูกจับป็นตัวประกันแต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเธอ แต่ที่คิดไม่ถึงมากที่สุดคงจะเป็นเธอไม่ร้องไห้เพราะความกลัว ทั้งยังยืนยิ้มอยู่ตรงนั้นตามลำพัง
จางอวี้เจินรีบเดินเข้าไปหาเธอด้วยความเป็นห่วง ไม่ระวังว่าจะถูกลอบทำร้ายเลยสักนิด พระรองของเธอคนนี้มั่นใจในฝีมือตนเองมากทำให้ไม่กลัวว่าจะถูกลอบทำร้าย พอเห็นคนที่รอกำลังเดินมาเกาม่านอี้ฉีกยิ้มกว้างตั้งใจวิ่งข้ามถนนไปหาชายหนุ่มอีกฝั่งหนึ่ง
“ม่านม่าน ทำไมอยู่ที่นี่”
“พี่อวี้เจิน ฉันถูกคนร้ายจับมาและกำลังรอพี่อยู่”
“รอพี่? ถูกคนร้ายจับแต่รอพี่แบบนี้มันยังไงกันม่านม่าน จะอย่างไรก็ช่างเถอะบาดเจ็บหรือเปล่า พวกมันไปไหนกันหมดพี่จะได้ส่งมันไปลงนรกเสีย”
ทีแรกก็อยากถามเรื่องที่เธอบอก พอนึกได้ว่าเธอถูกคนร้ายทั้งสี่จับตัวมาก็นึกโมโห หากเธอเป็นอะไรไปต่อให้ตามฆ่าพวกมันทั้งหมดก็ไม่คุ้มค่าเลย ผู้บัญชาการทหารรีบล้วงเอาปีนที่เหน็บอยู่ข้างเอวออกมา ดึงเธอให้หลบอยู่ด้านหลัง ก้าวไปข้างหน้าไม่มีท่าทางเกรงกลัวเลย เดินได้แค่ก้าวเดียวก็ถูกหญิงสาวฉุดข้อมือแข็งแกร่งไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวค่ะ พี่อวี้เจิน ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บคนพวกนั้นแค่ได้ยินชื่อพี่ก็พากันกลัวจนตัวสั่นหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะยืนอยู่ตรงนี้ได้หรือคะ”
“ถึงม่านม่านจะไม่บาดเจ็บแต่พวกนั้นจับเธอมา อีกทั้งยังขโมยของย่อมต้องถูกลงโทษ ในฐานะผู้บัญชาการอย่างไรพี่ก็ปล่อยไปไม่ได้”
“แต่ฉันสัญญากับพวกเขาไว้ว่าถ้าหากยอมปล่อยฉัน ฉันจะให้พี่ไว้ชีวิตพวกเขา หากพี่อวี้เจินเอาเรื่องพวกเขาฉันก็กลายเป็นคนเสียสัจจะไม่ใช่หรือคะ”
จางอวี้เจินมองหน้าลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อที่โตมาด้วยกัน สงสัยท่าทีของเธอไม่น้อย เขาย่อมต้องสงสัยในเมื่อก่อนหน้านี้ม่านม่านของเขาเป็นคนยอมคน มีเขาคอยปกป้องเสมอ ปฏิเสธหรือดื้อรั้นก็ไม่เป็น เขาถึงได้อยากอยู่ข้าง ๆ คอยดูแลเธอไปตลอด แต่ตอนนี้กลับแย้งคำพูดของเขาเพื่อขอชีวิตคนร้าย
“นะคะพี่อวี้เจิน”
“พี่เห็นแก่ม่านม่าน จะปล่อยไปสักครั้งแต่เรื่องที่ขโมยก็ยังต้องลงโทษอยู่ดี”
“คนพวกนั้นแค่มาขโมยของตัวเองกลับไปเพราะถูกขโมยก่อน ไม่ใช่พวกหัวขโมยมืออาชีพ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่กล้าเข้ามาในเขตซูเป่ยที่มีผู้บัญชาการมณฑลจางอวี้เจินดูแลอยู่หรอกค่ะ และถ้าพวกเขาเป็นคนไม่ดีฉันจะยอมขอร้องพี่เพื่อพวกเขาหรือคะ”
จางอวี้เจินยืนฟังนิ่ง ๆ คิดตามก็เห็นด้วยกับเธอทุกสิ่ง แม้เธอจะโกหกเขาก็เลือกจะเชื่ออยู่ดี ขอเพียงเธอร้องขอต่อให้ต้องช่วยคนชั่วแค่ไหนเขาก็ทำได้ เขายิ้มออกมาทันทีเมื่อเกาม่านอี้เกาะแขนเงยหน้าส่งสายตาออดอ้อนราวเด็กน้อยมาให้เขา
ทหารชั้นผู้น้อยเหล่านั้นรู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัว เพราะตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ไม่เคยเห็นผู้บัญชาโหดเหี้ยมยิ้มแบบนี้แม้แต่ครั้งเดียว
“พี่อวี้เจินไม่เชื่อฉันหรือคะ”
“พี่ต้องเชื่อม่านม่านอยู่แล้ว ถ้าไม่เป็นอะไรก็กลับกันเถอะพี่จะไปส่ง”
เพราะเขาเป็นคนแสนดีสำหรับเกาม่านอี้เสมอไม่ว่าเมื่อไร เขาจึงกลายเป็นตัวละครในนิยายที่เธอรักที่สุด ไม่รู้เพราะรักที่สุดหรือเปล่าเธอจึงไม่ยอมให้เขามีความรักจนจบเรื่อง คราวนี้ได้ย้อนกลับมาแก้ไขเธอถึงอยากให้เขาเป็นพระเอก หากได้ย้อนกลับมาก่อนตกลงแต่งงานเธอจะไม่แต่งกับเย่หมิงเสวียนอย่างแน่นอน
เกาม่านอี้ในนิยายไม่เคยรู้ตัวเลยว่าจางอวี้เจินหลงรักเธอมาตลอด เขาก็ไม่ได้บอกเพราะอยากรอให้ถึงวันที่ตนเองมีหน้าที่มั่นคง เมื่อสองปีก่อนเขาได้รับภารกิจให้ไปทำจึงไม่ได้พบเธอเป็นเวลาเกือบสองปี พอกลับมาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชามณฑลแห่งซูเป่ย และรู้ว่าเกาม่านอี้มีคนรักเสียแล้ว ทั้งยังจะแต่งงานกันอีกไม่กี่เดือนจึงเก็บทุกอย่างไว้ในใจตนเองเงียบ ๆ
