หลี่เหมย - 1
* ไรต์ขออนุญาตแจ้งว่านิยายเรื่องนี้ไรต์เน้นเรื่องความสัมพันธ์ของแม่ลูกเป็นหลัก ถึงช่วงท้ายจะมีคู่ครองของหลี่เหมยเข้ามาเติมเต็ม แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ล้วนเป็นเนื้อหาของหลี่เหมยกับลูกหลานของเธอเป็นส่วนใหญ่ ฝากนักอ่านทุกท่านติดตามให้กำลังใจด้วยนะคะ
ท่ามกลางความเงียบสงบของวิลล่าหรูย่านชานเมือง หลี่เหมยในวัยสามสิบแปดปีกำลังใช้เวลาช่วงบ่ายอย่างผ่อนคลายในห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความสง่างามตามรสนิยมของเธอ
แสงแดดยามบ่ายสายส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาต้องกับพื้นกระเบื้องเนื้อดี ทำให้เกิดเป็นเงาของต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านที่พริ้วไหวตามแรงลมเบา ๆ หลี่เหมยในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงผ้าเนื้อดี กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวโปรด
สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ MacBook รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดหน้าเว็บไซต์นิยายออนไลน์ค้างไว้ นิ้วเรียวสวยที่เพิ่งถูกบำรุงด้วยครีมราคาแพงกำลังกดเลื่อนหน้าจออย่างรวดเร็ว ส่วนมืออีกข้างก็ยกแก้วกาแฟเย็นขึ้นมาจิบอย่างเชื่องช้า
กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟชั้นดีอบอวลอยู่ในอากาศผสมผสานกับกลิ่นอายความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง นี่คือช่วงเวลาที่เธอชื่นชอบที่สุดในแต่ละวัน
ช่วงเวลาที่ได้ปลีกวิเวกจากความวุ่นวายของห้างค้าส่งขนาดใหญ่ที่เธอเป็นเจ้าของ ห้างที่ครั้งหนึ่งเธอเกือยบสูญเสียมันไปตอนที่พ่อแม่ตายจาก แต่ก่อร่างสร้างตัวจากความมุมานะและความเฉียบแหลมของเธอเอง เธอสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมืออีกครั้ง จนกลายเป็นอาณาจักรที่มั่นคง เสียดายที่พ่อแม่ตายายจากไปก่อน ยังไม่ทันได้เห็นความสำเร็จของเธอ
แต่แล้วสีหน้าของหลี่เหมยก็เปลี่ยนไปจากเดิมที่ผ่อนคลายกลายเป็นบึ้งตึง ดวงตาเรียวสวยหรี่ลงเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ นิ้วที่กำลังกดเลื่อนหน้าจออยู่ก็หยุดชะงักลงตรงบรรทัดหนึ่งของนิยายที่เธอกำลังอ่านอยู่พอดี
เนื้อหาในบรรทัดนั้นบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่มีชื่อเดียวกับเธอว่า หลี่เหมย ผู้ซึ่งมีความประพฤติแย่จนน่ารังเกียจเป็นที่สุด หญิงคนนี้คอยกดขี่ข่มเหงลูกชายคนโตและคนที่สามอย่างไม่ไยดี
ในขณะที่ตามใจลูกชายคนรองที่เอาแต่ได้และไม่เห็นใจพี่น้อง แถมนางยังมีนิสัยชอบขนของกินของใช้ที่ควรจะเป็นของลูก ๆ กลับไปให้บ้านเดิมของตนเอง จนลูก ๆ ต้องอดมื้อกินมื้อ
และเรื่องราวที่เธอกำลังอ่านอยู่นี้ก็มาถึงจุดที่ หลี่เหมยกำลังจะเอาลูกสาวคนเล็กกับหลานชายทั้งสองคนไปขาย เพื่อหาเงินให้หลานชายบ้านเดิมไปเรียนหนังสือ
"นี่มันเกินไปแล้วนะ! นางนี่มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว!"
หลี่เหมยในยุคปัจจุบันกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนแบบนี้ ยังดีที่เป็นแค่ตัวละครในนิยาย ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่ไร้ความเมตตาต่อลูกของตัวเอง แต่ยังเห็นแก่ตัวและไร้สามัญสำนึกเป็นที่สุด
ฉากต่อไปที่ปรากฏบนหน้าจอคือฉากที่กำลังจะเกิดโศกนาฏกรรม หลี่ซาน ลูกชายคนโตของหลี่เหมยในนิยายพยายามจะปกป้องน้องสาวและลูก ๆ ของตัวเองจากมารดาใจยักษ์
เขาอ้อนวอนขอร้องอย่างน่าเวทนา แต่หลี่เหมยในนิยายก็ไม่สนใจ นางพยายามจะฉุดกระชากหลี่หลิน ลูกสาวคนเล็กออกไปให้ได้ ในที่สุดจึงเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันขึ้นอย่างรุนแรง
"ปล่อยเถิดขอรับท่านแม่! ได้โปรดอย่าทำเช่นนี้เลย!"
เสียงของหลี่ซานร้องขอด้วยความเจ็บปวด
"แกนี่มันไร้ประโยชน์! ถอยไป!"
เสียงของหลี่เหมยในนิยายตอบกลับอย่างเย็นชา
ในขณะที่ยื้อยุดกันอยู่นั้น หลี่ซานก็เผลอผลักมารดาออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อป้องกันตัวเองและน้องสาว ร่างของหลี่เหมยเสียหลักเซถลาไปปะทะเข้ากับเหลี่ยมกำแพงหินของบ้านจนศีรษะกระแทกอย่างจัง เลือดสีแดงฉานค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากรอยแตกบนศีรษะ ร่างของนางล้มลงกองกับพื้นอย่างเงียบงัน
"ท่านแม่! ท่านแม่ขอรับ!"
"ท่านแม่!"
"ท่านย่า!"
เสียงร้องไห้ระงมของลูก ๆ และหลาน ๆ ดังขึ้นไปทั่วบริเวณ หลี่ซานทรุดตัวลงคุกเข่ากอดร่างมารดาที่แน่นิ่งไปแล้วเอาไว้ในอ้อมกอด เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าเวทนาโทษตัวเองที่ไม่ระมัดระวังจนทำให้มารดาต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อเช่นนี้
หลี่เหมยในปัจจุบันที่อ่านมาถึงฉากนี้ก็ทุบโต๊ะทำงานอย่างแรงด้วยความโมโหจนแก้วกาแฟเย็นที่วางอยู่ข้าง ๆ ถึงกับสั่นคลอน
"ปล่อยให้ตาย ๆ ไปเลย! คนแบบนี้จะไปเสียน้ำตาให้ทำไม!"
หญิงสาวสบถออกมาด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น เธอไม่เห็นใจตัวละครหลี่เหมยในนิยายเลยแม้แต่น้อย สมควรแล้วที่ต้องได้รับจุดจบเช่นนี้
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ป้าหลัว แม่บ้านวัยห้าสิบกว่าปีผู้ที่ทำงานกับหลี่เหมยมานานก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง พร้อมกับถือเหยือกน้ำและแก้วน้ำใบใหม่เข้ามาเติมให้
"วันนี้คุณหลี่ไม่ออกไปที่ห้างเหรอคะ"
ป้าหลัวเอ่ยถามขึ้นอย่างสุภาพและเป็นห่วงเป็นใย
"ฉันเพิ่งอ่านนิยายเรื่องใหม่ค่ะป้า วันนี้กะว่าจะไม่ออกไปไหน"
หลี่เหมยตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มเล็ก ๆ ให้กับแม่บ้านที่เธอรักเหมือนแม่แท้ ๆ อีกคนหนึ่ง
"ถ้าคุณหลี่หิวเมื่อไหร่ก็โทรเรียกป้านะคะ เดี๋ยวป้าจะยกอาหารขึ้นมาให้"
"ขอบคุณค่ะป้า"
