EP.6 แฟนจำเป็น
เหมันต์ทำหน้าเหวอเมื่อเห็นนิสสาโผล่พรวดออกมาจากห้องน้ำ นี่มันห้องส่วนตัวของคามินเลยนะ ขนาดเขาที่เป็นเพื่อนรัก เพื่อนตาย ยังไม่กล้าย่างกายเข้ามาถ้าไม่ได้รับอนุญาต
“ไหนเล่ามาซิ ไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย”
คำพูดสองแง่สองง่ามของเหมันต์ทำเอาคามินถลึงตาใส่เขาทันที เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะเขาเองก็ยังงงกับตัวเองเหมือนกันว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้เรื่องนี้คงคาวไปทั่วบริษัทแล้วเป็นแน่ มือหนายกขึ้นมากุมขมับตัวเอง พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นิสสาถ้าคุณอาบน้ำเสร็จแล้วก็รีบออกมา ผมจะใช้ห้องน้ำ”
“ส่วนแกไม่ต้องมาถาม ฉันไม่มีคำตอบอะไรให้แก”
คามินเอ่ยด้วยน้ำเสียงโทนเรียบ ตอนนี้เขาเหนื่อยที่จะพูดเอาเสียมากๆ เพราะพูดอะไรไปใครๆ เขาก็คงไม่เชื่อ คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามน้ำ
ไม่ถึงสิบห้านาทีนิสสาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอค่อยๆ เดินเรียบๆ เคียงๆ แทรกตัวผ่านคามินและเหมันต์มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา พลางก้มหน้าหลุบต่ำไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองใครเลยแม้แต่คนเดียว
“คุณนิสสาเมื่อคืน....”
“นิสสาไม่ได้มีอะไรกับท่านประธานนะคะคุณเหมันต์ ไม่เชื่อถามท่านประธานก็ได้ค่ะ”
เธอรีบเอ่ยปัดทันที เพราะรู้ว่าเหมันต์กำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้ แต่ดูเหมือนคามินจะนิ่งเงียบจนเธอแอบกลัว เขาเหลือบตาขึ้นมามองหน้านิสสาเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วหยิบผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาและเสื้อคลุมอาบน้ำเดินเข้าไปด้านในห้องน้ำ
“ออกไปรอข้างนอกทั้งสองคน”
คำสั่งประกาศิตเอ่ยขึ้นด้วยโทนเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความหนาวเหน็บ จนคนฟังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ นิสสาและเหมันต์ต่างพากันเดินออกจากห้องนอนของคามินทันที แล้วมาหยุดอยู่ที่โซฟาสีน้ำตาลเข้มตัวนิ่ม
“นั่งก่อนครับคุณนิสสา เล่ามาให้ผมฟังหน่อย”
นิสสานั่งลงบนพื้นผิวโซฟาตัวนุ่มก่อนที่จะสาธยายร่ายยาวเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้เหมันต์ฟังทั้งหมด พลางพ่นลมหายใจออกจากปากอย่างรู้สึกหนักอกหนักใจ
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะคุณเหมันต์”
“ซวยชะมัด”
คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ แต่สำหรับเหมันต์กับรู้สึกดีใจที่เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
“เดี๋ยวผมจะช่วยคุยกับมันให้ครับ ว่าไม่ให้ไล่คุณออก”
ถือว่าเธอยังโชคดีที่ได้รับความเอ็นดูจากเหมันต์ ทั้งๆ ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในวันแรก เหมันต์อยากเห็นนิสสาทำงานอยู่ที่นี่ทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเลขาฯ ของเขาก็ตามที
“ขอบคุณนะคะ”
มือเรียวจิกเล็บของตัวเองไว้แน่นจนเป็นรอยแดง ตอนนี้ในหัวเธอกลัวคามินจนลมแทบจับ ทั้งๆ ที่เรื่องเมื่อคืนมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยเสียด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไปสามสิบสามนาทีเท่าที่นิสสาจับเวลาได้ คามินเดินออกมาจากห้อง แล้วมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานตัวหรูของเขา เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วหมุนเก้าอี้หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างผ่านกระจกบานใส ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“นิสสามานี่ซิ”
สิ้นคำสั่งนิสสารีบลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเดินไปหาคามิน เธอเดินไปหยุดอยู่ข้างกายเขา แล้วเอามือผสานกันตรงบริเวณหน้าขาตัวเองอย่างเรียบร้อย
“คะท่านประธาน”
“ป่านนี้คนเขาคงลือกันให้แซดแล้วว่าคุณเป็นเมียผม”
คามินตวัดหางตาขึ้นมามองนิสสาที่ก้มหน้ามองพื้นกระเบื้อง ทำตัวสำนึกผิดอยู่อย่างเงียบๆ
“คงอย่างนั้นแหละค่ะ”
นิสสาก็คิดไม่ต่างจากเขา ป่านนี้คนเขาคงลือกันให้ทั่วทั้งบริษัทแล้วว่า ประธานกินเลขาฯ หน้าห้องของตัวเอง แล้วคนที่เสียหายที่สุดคือเธอ ไม่ใช่สิอาจจะเป็นเขาเสียมากกว่าเพราะว่านิสสาเพิ่งเข้ามาใหม่
“ในเมื่อเป็นอย่างที่คุณเล่ามา ผมจะรับผิดชอบเอง ถ้าคนอื่นถามบอกไปว่าคุณเป็นแฟนผม”
“อะไรนะคะ”
“หรือจะยอมโดนมองว่าใช้เต้าไต่...ไม่งั้นก็ลาออกไป”
คำพูดของคามินทำเอาเหมันต์ตาโต ไม่ได้นะถ้าเป็นแบบนั้นเขาที่หวังจะจีบนิสสาล่ะจะทำยังไง
“ไม่ได้นะแกจะไล่นิสสาออกไม่ได้นะ...อยู่ๆ แกจะมีแฟน ใครเขาจะไปเชื่อ”
เหมันต์เอ่ยขัดขึ้นมาทันที
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้...ถ้าแกไม่พูด นิสสาไม่พูด ใครจะไม่เชื่อ หรือมีใครกล้าหือ”
ประโยคคำถามที่เหมันต์ไม่กล้าปฏิเสธ เขานิ่งเงียบกับคำพูดของคามิน นิสสาก็เช่นกันตอนนี้เธอต้องตกกระไดพลอยโจนไปกับเขาด้วย เรื่องราวชักจะไปกันใหญ่แล้ว
ถ้าจะให้ออกจากงานนี้เธอก็คงไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ แต่ถ้าอยู่ก็จริงอย่างที่คามินพูดเธอจะถูกมองว่าใช้เต้าไต่ทันที ถ้าสถานะของเธอเป็นเพียงแค่เลขาฯ หน้าห้อง ถือว่าคามินยังเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้
“แล้วแฟนท่านประธานล่ะคะ”
“ผมไม่เคยมีแฟน”
คามินพูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ ทำเอานิสสาถึงกับแอบเบะปากคว่ำใส่เขา
“แต่อย่างหวังว่าอยู่ในสถานะแฟนปลอมๆ ของผม จะใช้อำนาจบาตรใหญ่กับใครก็ได้นะ หึๆ”
คามินตวัดหางตาขึ้นมามองคนตัวเล็กที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่ นิสสาเม้มปากเข้าหากันแน่น เธอไม่คิดจะทำเรื่องแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เขาคิดว่าเธอเป็นคนอย่างไรกันมันน่านัก นิสสาแอบคิดอยากจะจิกหัวคามินมาตบไปมาสักสองสามที
“งั้นแยกย้ายกันไปทำงาน”
“เออ” “ค่ะ”
เหมันต์และนิสสาต่างพากันเดินออกไปด้านนอกทันที คนตัวเล็กเข้ามาประจำที่โต๊ะทำงานของตัวเอง สายตาหลายคู่ต่างพากันจับจ้องมองมาทางนิสสาเป็นตาเดียว จนเธอทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่
“มองอะไรกันครับ ไม่มีงานทำกันรึยังไง เดี๋ยวจับไล่ออกให้หมดเลย”
เหมันต์เอ่ยปากปกป้องนิสสาขึ้นมาทันทีที่เห็นสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมองมาที่เธอ คนตัวสูงรูปร่างกำยำ ใช้มือข้างขวาขยี้หัวนิสสาจนฟูฟ่องอย่างลืมตัว
“ไม่เป็นไรนะ สู้ๆ”
เธอเม้มปากเข้าหากันพลางทำตาปริบๆ ให้กับเหมันต์ เขาช่างดูอบอุ่นและดีกับเธอเหลือเกิน ไม่เหมือนคามินที่คอยแต่จะแยกเคี้ยวใส่เธออยู่ตลอดเวลา
“ขอบคุณค่ะ คุณเหมันต์”
“งั้นผมไปทำงานก่อน เดี๋ยวเจ้านายคุณมันออกมากินหัวผมเอา”
พูดจบเขาก็สาวเท้าก้าวเดินออกไปจากโต๊ะนิสสาทันที
นิสสาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่พักใหญ่ จนเวลาเดินมาถึงเที่ยงวัน ได้เวลาทานข้าวแล้วเธอเตรียมตัวที่จะเก็บเอกสารวางให้เป็นระเบียบก่อนที่จะขยับเก้าอี้เพื่อลุกขึ้นยืน อยู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาจากทางด้านหลังจนเธอต้องหันกลับไปมอง คามินเดินออกมาจากห้องทำงาน เขาเดินตรงมาหาเธอแล้วคว้ามือเรียวเล็ก จูงเธอออกไปท่ามกลางสายตาของพนักงานหลายสิบคน
“ท่านประธานจะทำอะไรคะ”
นิสสากระซิบเบาๆ กับคามินให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ก็พาคุณไปกินข้าวไง วันนี้เราจะกินข้าวที่โรงอาหารของบริษัท”
ปกติคามินจะไม่กินข้าวที่โรงอาหารของบริษัท เพื่อเป็นการประกาศให้พนักงานคนอื่นได้รับรู้เป็นกลายๆ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นบุคคลสำคัญของเขา คามินจึงตัดสินใจพาเธอมาทานข้าวด้วย
“ปล่อยมือสิคะ คนมองกันใหญ่แล้ว”
“ก็คุณเป็นแฟนผม ทำไมผมจะจับมือคุณไม่ได้”
ประโยคบอกเล่าที่ประกาศกร้าวออกมาเสียงดังให้หลายคนได้ยิน ทำเอาพนักงานต่างพากันตาโต คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ที่เป็นข่าวเมื่อเช้า ที่แท้เป็นแฟนของท่านประธานนี่เอง นิสสาได้ยินแบบนั้นถึงกับไปไม่เป็น ไม่รู้จะเล่นละครต่ออย่างไรดี ทำได้เพียงเล่นตามน้ำทำตามที่เขาพูดก็พอ
“คะ...ค่ะ เป็นแฟนท่านประธาน”
“เลิกเรียกท่านประธาน ต่อหน้าคนอื่นให้เรียก พี่คามิน ”
“ห๊ะ”
เสียงอุทานดังลั่นทำเอาคามินถลึงตาใส่นิสสาทันที ก่อนที่คนตัวเล็กจะรีบก้มหน้าหลุบต่ำหลบสายตาคมเข้มคู่นั้น ทั้งสองก้าวเดินไปที่โรงอาหารทันที คามินให้นิสสานั่งรอที่โต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัวยาว ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปยืนต่อแถวซื้ออาหารเหมือนกับพนักงานทั่วไป การกระทำดังกล่าวทำเอาเหล่าบรรดาพนักงานตกตะลึงไปตามๆ กัน รวมถึงเหมันต์ที่แอบเดินตามมาห่างๆ ด้วย
“เอาข้าวผัดกะเพราหมูสับไข่ดาวสองจานครับ”
คามินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่คนฟังกับรู้สึกเกรง พนักงานในร้านอาหารรีบพยักหน้ารับออเดอร์ที่ประธานบริษัทสั่งทันที รอไม่นานกะเพราหมูสับไข่ดาวทั้งสองจานก็ถูกวางใส่ถาดส่งให้คามิน
“นี่ค่ะท่านประธาน”
คามินยื่นเงินให้แม่ค้าในร้านอาหาร แล้วรีบหันหลังเดินกลับไปหานิสสาที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางโรงอาหารบริษัททันที เป็นจุดเด่นให้ทุกสายตาจับจ้องมองมาที่เธอ
“อ่ะ กินได้ใช่ไหม”
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน”
“ผมบอกให้เรียกพี่คามิน”
คามินดุเธอทันทีที่ได้ยินเธอเรียกเขาว่าท่านประธาน นิสสารีบพยักหน้าแล้วยิ้มแหยๆ ให้เขา ทั้งสองนั่งทานข้าวอยู่ท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงานนับร้อย ที่จับจ้องมองอยู่ ตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานะของนิสสาจะไม่ใช่แค่เลขาฯ หน้าห้องในสายตาของคนอื่นแล้ว
