Chapter 5 พายุสวาท 3
“ขะ...ข้าจะเสร็จแล้วเจ้าค่ะ อาห์ อาห์ จะ...จะเสร็จแล้ว ซะ...ซี๊ด”
นางร่อนสะโพกไปมา ก่อนจะทิ้งเรือนร่างท่อนบนและใบหน้าแนบไปกับพื้นเกวียน ในขณะที่ถิงเว่ยยังคงซอยยิกถี่กระชั้นจากนั้นจึงปลดปล่อยสายน้ำแห่งชาติพันธุ์เข้าไปในกายของนาง
“อาห์”
ต่างรับรู้ได้ว่าภายในช่องสวาทแคบชื้นกำลังกระตุกเกร็งเป็นจังหวะ ตอดรัดเอ็นอุ่นราวกับจะดูดกลืนทุกหยาดหยดของสายน้ำขาวขุ่นเอาไว้
“อื้อ”
ความสุขสมกอดรัดแนบชิดก่อนที่ถิงเว่ยจะทิ้งกายลงแล้วดึงนางเข้ามากอดรัดเอาไว้แนบแน่น โดยไม่มีการพูดจา มีเพียงการนิ่งเงียบนอนฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของกันและกันเนิ่นนาน
กุบกับ กุบกับ....
เสียงฝีเท้าม้าและล้อเกวียนที่บดไปตามกรวดหินและดินที่แตกระแหงทำให้เจ้าของร่างเล็กค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แพขนตางามงอนกะพริบถี่
ข้ากลับมาอยู่ในอ้อมกอดของท่านพี่แล้ว...
เจ้าของใบหน้าหวานแย้มยิ้มกับอกกว้างเปลือยเปล่า ศีรษะของนางนั้นนอนหนุนแขนข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ ส่วนแขนแข็งแกร่งอีกข้างโอบกอดรัดรอบร่างของนางเอาไว้อย่างหวงแหน
เขากอดนางเช่นนี้เสมอ ตั้งแต่คืนวิวาห์ จวบจนวันที่นางสิ้นลมหายใจ ความรักที่เขามอบให้นางไม่เคยลดน้อยลงเลย สี่ปีที่ผ่านมานางพยายามเปลี่ยนแปลงตนเอง เฝ้าฝึกฝนศาสตร์ต่างๆ จนคล่องแคล่ว และให้บ่าวรับใช้คอยตามสืบเรื่องราวของสามีมาโดยตลอด
เหวินถิงเว่ยไม่เคยมีหญิงอื่น ยังรักมั่นเดินทางไปวางดอกไม้ที่หลุมศพของภรรยาด้วยความอาลัยแทบทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่เคยแตะต้องอนุภรรยาทั้งแปดเลยสักครั้ง อีกทั้งไม่ยกหญิงใดขึ้นเป็นภรรยาเอกแทนตน
ชายที่มีหัวใจมั่นคงเช่นเขาคงหาได้ยากยิ่งในแผ่นดินที่ชายเป็นใหญ่ ยิ่งมีอำนาจวาสนาก็ยิ่งเห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องบำเรอความใคร่ รั่วอิงโชคดีที่ได้รับความรักจากเขา แต่โชคร้ายที่อ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องตนเองจากความริษยาของเหล่าสตรีงูพิษ
หากจะย้อนไปหาต้นเหตุแห่งความรักต่างฐานะของนางและคุณชายหกแห่งตระกูลเหวินแล้วละก็ มันเริ่มต้นมาจาก...
ห้าปีที่แล้วนับจากวันนี้
ฮึก ฮึก ฮือ...
ร่างเล็กบอบบางร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไหล่สั่นเทิ้ม ตามร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากการถูกทุบตีทำร้ายอย่างทารุณ
นางหอบร่างกายที่เจ็บปวดราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงมาที่ลำธารพร้อมกับตะกร้าเสื้อผ้า ก่อนจะทรุดกายลงแล้วหยิบกระดานไม้ซักผ้าออกมาวางพาดกับโขดหิน จากนั้นจึงยื่นมือเล็กสั่นเทาที่เต็มไปด้วยบาดแผลหยิบเสื้อผ้าออกมาซักทีละชิ้น
หยดเลือดจากนิ้วมือผสานไปกับน้ำใสในลำธารหยดแล้วหยดเล่า อีกทั้งยังหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูลงมาเป็นสายไม่ขาด
เจิ้งรั่วอิง... เป็นหญิงสาวชาวบ้านที่มีใบหน้างดงามปานจะล่มเมือง ทั้งใบหน้า ทั้งผิวพรรณที่ผุดผาดนวลเนียนดั่งลูกผู้ดีมีตระกูล ราวกับว่าสวรรค์ไม่เห็นด้วยกับความงามที่มีมากจนเหนือหญิงใดในหล้า จึงได้ยัดเยียดความโชคร้ายและชีวิตอันแสนอาภัพมาให้นาง
