ตอนที่6 กลัวเจอใครบางคน
“ต้องขอบคุณช่างคนเก่งคนนี้ค่ะ”
ปลายฝนอดเอ่ยชมฝีมือพรางพิ้งค์ไม่ได้นับว่าเพื่อนของเธอเก่งไปเสียทุกอย่างจริงๆ
“ฉวย..”
หนูน้อยตัวกลมแก้มย้วยในชุดเสื้อยืดเจ้าหญิงสีชมพูกับกระโปรงสีขาวฟูฟ่องมัดผมรวบโดนัสสองข้างเดินเข้ามาเกาะขาปลายฝันเงยหน้าเอ่ยชมคนเป็นน้าหน้าบาน
“รู้ดีจังเลยนะเรา”
เปรมสุดาอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมานั่งที่ตักพร้อมกดจูบกระหม่อมหนึ่งทีหากอยากจะให้หลานนั้นออกมาเหมือนกับยัยหนูพลอยขวัญเหลือเกินยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงวันที่ลูกสาวเธอคลอดเร็วๆ
“ฝัน..ขบวนแห่มาใกล้แล้วมาดูสิ”
ปลายฝันรีบลุกเดินมาที่หน้าต่างตามพราวพิ้งค์เพื่อดูขบวนแห่ที่เหล่าผู้คนกำลังพากันรำหน้ากลองยาวอย่างสนุกสนาน
“น่าตื่นเต้นจังเลย”
ตอนนี้ปลายฝันเริ่มทำตัวไม่ถูกทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับประหม่าเสียได้
“นั่น..คุณ..ภูริช..”
ชายวัยกลางคนที่พราวพิ้งค์เห็นว่ากำลังยืนอยู่ข้างๆคีรินทำเอาสาวเจ้ายืนตัวชาหน้าเสีย
“อ่อ..ใช่คุณภูริชเธอรู้จักด้วยเหรอเค้าเป็นพี่ชายของคุณแดนแต่คนละแม่”
“แล้ว..ทำไมนามสกุลไม่เหมือนกัน”
“คุณแดนบอกว่าคุณภูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วเพราะนามสกุลแม่คุณภูไม่มีใครสืบสกุลเลยส่วนคุณแดนก็ใช้นามสกุลพ่อคนถึงไม่ค่อยรู้จักว่าคุณแดนเป็นพี่น้องของคุณภูเท่าไรนักนอกจากคนสนิท”
“งั้นเหรอ”
“อืม..ฉันก็พึ่งรู้ไม่นานมานี้เอง”
ปลายฝันยังคงจับจ้องไปที่ขบวนแห่ด้วยท่าทีตื่นเต้นแต่เป็นพราวพิ้งค์ที่เห็นว่างานนี้เธอจะไม่ค่อยสนุกเสียแล้วเพราะกลัวว่าใครบางคนที่เธอไม่อยากเจอจะอยู่ที่งานนี้ด้วย
หลังจากขบวนแห่มาประชิดประตูบ้านทุกคนลงมาอยู่หน้าบ้านหลังเล็กของพราวพิ้งค์คนที่กั้นประตูเงินเป็นมิลินและแพรวาสองสาวไฮโซที่เดินทางกลับมาจากอังกฤษก็เพื่องานของปลายฝันโดยเฉพาะ
“ซองน้อยไม่ให้ผ่านนะคะพ่อเลี้ยง”
แพรวาสาวสวยร่างสูงราวกับนางแบบเอ่ยเรียกซองกับเจ้าบ่าวหน้าระรื่นเพราะรู้ว่าเจ้าบ่าวของเพื่อนกระเป๋าหนักไม่น้อยงานนี้เธอคงได้เงินซื้อขนมเยอะทีเดียว
“ใช่ค่ะพ่อเลี้ยง”
มิลินสาวสวยร่างสูงมาดเนี้ยบหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยเสริมแพรวา
“คนละห้าซองจะให้ผ่านหรือเปล่าครับ”
แดนไทยหันมาหยิบซองในมือของภูริชยื่นให้กับสาวๆคนละห้าซองเพื่อที่จะผ่านประตูเงินหวังว่าสองสาวจะให้เขาผ่านไปง่ายๆเพราะอยากจะเจอเจ้าสาวแย่แล้ว
“แค่สามซองก็ให้ผ่านแล้วล่ะค่ะ”
แพรวารีบปล่อยประตูกั้นแต่โดยดีเพราะเธอเห็นแต่ละซองมีแต่หนาๆทั้งนั้นหากเจ้าบ่าวใจป้ำเธอก็พร้อมปล่อยไปได้ง่ายๆ
ตอนนี้ด่านต่อไปของแดนไทยก็เป็นประตูทองหน้าห้องของเจ้าสาวที่มีพราวพิ้งค์หญิงสาวในชุดเดรสสีครีมรวบผมหางม้าแต่งหน้าอ่อนๆยืนกั้นประตูคู่อยู่กับฟองจันทร์หญิงสาวหน้าสวยหวานในชุดเดรสสีชมพูอ่อนลูกสาวของฟองเงิน
“เอ..พิ้งค์จะได้เท่าเมื่อกี้ไหมคะพ่อเลี้ยง”
พราวพิ้งค์ชะเง้อไปยังแพรวาและมิลิน
“แน่นอนครับ”
เจ้าบ่าวบุญทุ่มยื่นซองให้สองสาวที่กั้นประตูทองคนละห้าซองเช่นเดียวกับเมื่อครู่
“แบบนี้ค่อยน่าให้ผ่านหน่อยค่ะ”
ฟองจันทร์รีบเก็บซองเข้ากระเป๋าใบเล็กแต่เธอและพราวพิ้งค์ก็ยังไม่ยอมเปิดให้เจ้าบ่าวผ่านไปหาเจ้าสาวอยู่ดี
“เปิดให้ผมสิครับ”
แดนไทยหันไปพูดกับพราวพิ้งค์ด้วยสีหน้าฉงน
“ยังค่ะ”
พราวพิ้งค์ชี้ไปยังเจ้าตัวกลมที่กำลังวิ่งแจ้นมาหาเธอ
“ดีจ้า..”
หนูน้อยพลอยขวัญวิ่งมายกมือป้อมสวัสดีแดนไทยเสียงดังเจ้าก้อนกลมเป็นจุดสนใจให้กับภูริชและโนแอลไม่น้อยเพราะใบหน้าแบบนี้เหมือนกับคนในครอบครัวของตนไม่มีผิดต่างกันตรงที่เป็นเด็กผู้หญิงเท่านั้น
“ลุงต้องผ่านด่านเจ้าตัวกลมไปก่อนใช่หรือเปล่าครับ...จะเอาอะไรให้ดีล่ะ..หนูพลอยอยากได้อะไรครับ”
แดนไทยย่อตัวลงอุ้มยัยหนูพลอยขวัญทั้งหัวเราะร่าเมื่อประตูด่านสุดท้ายดูท่าจะยากที่สุด
“ยูก..อม..”
คำตอบของยัยหนูตัวกลมเรียกเสียงหัวเราะของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีจะมีอะไรที่ยัยหนูพลอยขวัญชื่นชอบไปกว่าลูกอมรสเปรี้ยวหวานที่คนเป็นแม่ซื้อให้ประจำ
“ลุงไม่มีด้วยสิ..เอาเป็นซองแดงหมดนี่ได้หรือเปล่า”
แดนไทยยื่นซองแดงหนาใส่มือป้อมของยัยหนูพลอยขวัญหวังว่านี่จะเป็นสิ่งที่แทนลูกอมที่เด็กหญิงอยากจะได้และเขาก็จะได้เข้าไปรับตัวเจ้าสาวเสียที
“เอา..จ่ะ”
เด็กหญิงยิ้มหน้าบานกอดซองหนาไว้ไม่วางดูท่าจะรู้ว่าของด้านในมีค่ามากกว่าลูกอมหลายเท่าสร้างความน่าเอ็นดูให้คนที่ร่วมขบวนมาไม่น้อย
“โอ้โห..ไม่ค่อยจะงกเลยนะเรา” ฟอดด
แดนไทยกดหอมแก้มย้วยของยัยหนูพลอยขวัญไปฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะส่งตัวคนในอ้อมอกไปให้พราวพิ้งค์และประตูห้องเจ้าสาวก็ได้เปิดออก
พราวพิ้งค์และทุกคนยืนดูเจ้าบ่าวที่กำลังจูงเจ้าสาวออกมาด้วยท่าทียินดีตอนนี้พราวพิ้งค์โล่งใจมากเมื่อคนที่เธอไม่อยากเจอไม่มาในงานนี้ค่อยรู้สึกคลายกังวลขึ้นมากพอสมควร
