บทนำ
2 ปีก่อน
มหาวิทยาลัย BU
ในรั้วมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังย่านชานเมือง ที่อากาศโคตรจะดี สาบานเหอะว่าพูดจริง พื้นที่โดยรอบมีแต่ถนนรถเต็มไปหมด แถมนักศึกษาหลากหลายคณะก็เดินสวนสนามกันสุดจะวุ่นวายราวกับมดแดงวิ่งหนีพายุฝน
ทุกคนต่างหาที่นั่งเพื่อพักผ่อนคลายสมองจากเนื้อหาทั้งหมดที่เรียนมา เรียนไปก็เท่านั้น เรียนเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่องสักที จะจบพร้อมเพื่อนไหมถามไปก็ไม่รู้อีกต่างหาก
ไม่ต่างจากผมหนุ่มหล่อหน้าหวานที่กำลังก้มกดทัชสกรีนหน้าจอมือถือยิกๆ เพื่อถามไถ่อาการป่วยของใครสักคนที่ขอลาเรียนในวันนี้ ผ่านทางตัวอักษรบนแอปพลิเคชันสีเขียวที่คุ้นเคยด้วยสีหน้าสุดแสนจะตึงเครียด
"สรุปคือยังไง? มึงชอบอีกริ๊งถูกไหมไอ้ขุน?"
คำถามของไททันเอ่ยถามขึ้นแทรกกลางวงสนทนาที่มีเพื่อนๆ นั่งรายล้อมกันอยู่เต็มโต๊ะม้าหินอ่อนที่ไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่นัก ก่อนที่พวกมันจะยื่นหน้าเข้ามาสุมหัวกัน เอาแต่จ้องมองหน้าสุดหวานแหววอย่างกับใบหน้าผู้หญิงของผมที่มีนามว่า 'ขุนศึก'
ขุนศึกที่แปลว่าแม่ทัพผู้มีความสามารถ จนอยากจะถามป๊าจังเอาแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อผมมาจากไหน ตั้งชื่ออย่างเท่แต่หน้าอย่างสวย งงจัด!
"ถ้าบอกว่าใช่ พวกมึงคิดยังไง?"
"เฮ่ย!! จริงปะเนี่ย?"
มีนาหนึ่งในเพื่อนสาวของผมตะคอกสวนกลับมาราวกับพม่าจะบุกไทย ฮึกเหิมอะไรขนาดนั้น? สีหน้าและท่าทางแปรเปลี่ยนไปหลังจากที่ผมตอบพวกมันด้วยความสัจจริง ว่าผมกำลังจะเป็นเพื่อนสนิทที่คิดอยากจะปั้นไข่ กับแม่ไก่สาวสวย ผิวขาว ตากลมสุดแบ๊ว จนจึ้งใจป๋ามาตั้งแต่ปีหนึ่งอย่าง 'กรุ๊งกริ๊ง'
"ไม่จริง!!"
"กูไม่ยอมนะไอ้ขุน"
อะไรคือไม่ยอมผมเองก็งง เมื่อเสียงกรีดร้องของแตงกวา และลูกน้ำดังแทรกประสานเสียงยิ่งกว่ากลองวงดุริยางค์ของมหาลัยสนั่นหวั่นไหวไปทั่วลานกว้าง
"โอ๊ย!!"
เสียงกรีดร้องที่ดังลั่นเล่นเอาผมเองกับเพื่อนอีกสามคน ต้องรีบยกนิ้วขึ้นมาอุดหูเอาไว้ ก่อนที่แก้วหูจะทะลุออกมาเต้นเพลงนกมันริกที่เพื่อนโต๊ะข้างๆ เปิดกล่อมประสาทอยู่ใกล้ๆ ไอ้บ้าเปิดเพลงใหม่หน่อยได้มะมันหลอนหูกู!
"จริง!"
อะตอบให้ชัดเจนอีกรอบก็ได้วะ อะไรมันจะทำหน้าตกใจ ไม่อยากจะเชื่อกันขนาดนั้น จนมันเกิดคำถามและความสงสัยวิ่งเข้ามาชนกับสมองเหลวๆ ของผมดังจ๋อม! ใจผมเริ่มสั่นว่าจริงๆ แล้วผมตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่บอกพวกมันไป เพราะผมเองก็ไม่สามารถเก็บกลั้นความรู้สึกที่มีต่อไปได้อีกแล้วจริงๆ
"เย่ๆ ไอ้สัตว์เอ้ย พวกกูชนะ!"
"เห็นไหมอีชะนี พวกกูดูออกค่ะ อีดอก!"
ไททันและคีตะทำหน้าทำตาเยาะเย้ยสามสาวชะนีน้อยเพื่อนรัก ที่กำลังขย้ำผมตัวเองยุ่งเหยิงยิ่งกว่าธิดาวานร หน้าแดงจัดด้วยความโมโห
จนผมเริ่มงงงวยยิ่งกว่าเดิมว่าพวกมันทำไมถึงมี รีแอคชั่นกันดุเดือดขนาดนี้ แค่ผมชอบกรุ๊งกริ๊งเอง ทำอย่างกับว่าพวกมันจับได้ว่าผัวไปมีเมียน้อยกันขนาดนั้น
กรี๊ด!!
"ไอ้เหี้ยแบบนี้ไม่ได้นะเว่ย!!"
"อย่ามาค่ะอีน้ำ มึงเอาเงินมาเลย"
"เออมาเลย เงินที่ลงขันกันไว้วันนั้น คนละ 5 พันอะ"
พอมาถึงจังหวะนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนสาวทั้งสาม ถึงทำหน้าผิดหวังกันขนาดนี้ เพียงเพราะทั้งกลุ่มยกเว้นผมกับกรุ๊งกริ๊งวางเดิมพันกันเอาไว้เรื่องนี้ เรื่องนี้อะเรื่องไหน ถ้าไม่ใช่เรื่องว่าผมชอบกรุ๊งกริ๊งจริงๆ
"นี่พวกมึงเล่นเอาจริงเอาจังขนาดนั้นเลยเหรอวะ?"
"เออ!! จริงจังดิวะ เรื่องเงินเรื่องทองไม่เข้าใครออกใคร"
ปึก!!
"หวานปากแล้ว ไอ้สัตว์เอ้ย"
มือถือของลูกน้ำ ถูกโยนลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิดไม่สบอารมณ์อย่างหนัก ก่อนที่ตาคมของผมจะเหลือบไปมองบนหน้าจอที่โชว์หน้าบัญชีธนาคารสีม่วงไว้ให้เพื่อนสองคนกดใส่เลขบัญชีตามที่ได้เดิมพันกันเอาไว้
"ไอ้เหี้ยขุน!!"
"ทำไมไอ้เหี้ย 2 คนนี้มันถึงชนะพวกกูวะ?"
"เอ้า! กูจะไปรู้ไหมว่าพวกมึงพนันอะไรกันก่อน?"
ถึงว่าทำไมไอ้สองสหายสายแสบของผม ถึงระริกระรี้ถามผมจังเรื่องของกรุ๊งกริ๊ง แต่ก็นะ ก็มันชอบจริงๆ จะให้เก็บไว้คนเดียวก็อึดอัดแย่เลย
"ก็..."
"เฮ่ยๆ อีมีนา แพ้คือแพ้ค่ะชะนี อย่าค่ะ แพ้แล้วอย่าพาลมั่วค่ะ เดี๋ยวเจอกูตบคว่ำนะคะ"
"อีเหี้ยไท มึงนะ"
"เอาล่ะ เอาล่ะ อีมีนาหยุดๆ"
เสียงของแตงกวาลอยมา พร้อมกับยกมือห้ามเพื่อนสาว แม้สายตาและสีหน้ามันจะบ่งบอกได้ดีสุดว่ากำลังหงุดหงิดและหัวร้อนกับการแพ้เดิมพันในครั้งนี้ แต่เพื่อนทั้งสองคนยังยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าฆ้องใหญ่วัดดัง ใครมันจะไม่ยิ้ม มันได้ตังค์
"แพ้คือแพ้ สงครามยังไม่จบมึงอย่าพึ่งนับศพทหารน้อยผู้เคราะห์ร้าย"
"อะไรของมึงอีกแตง?"
"กูไม่ยอมเสียเงินฟรี"
แตงกวากำหมัดแน่น ทุบลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่ร่อแร่จะถล่มลงมาเต็มทน ก่อนที่มีนาจะหันมาถามเพื่อนอย่างจริงจังอีกที
"คือยังไงอีแตง? อย่าบอกนะว่ามึงเจ็บแล้วไม่จำ"
ตาคมคีตะเหล่ตามองเพื่อน พลางชี้นิ้วจิ้มลงรัวๆ ที่หน้าผากของแตงกวาที่กำลังยื่นหน้าเข้ามากลางโต๊ะ จ้องมองหน้าหนุ่มๆ ทั้งสอง รวมแม้กระทั่งผมด้วยอีกคน กูเกี่ยวอะไรด้วยก่อน!
"เดดไลน์วันรับปริญญา ถ้าอีเหี้ยขุนกับอีกริ๊งไม่ได้เป็นแฟนกัน ถือว่ากู 3 คนชนะพวกมึง 2 คน เคปะ?"
"อีนี่ มึงกล้ามาก กล้ามากค่ะ ถามกู 2 คนก่อนไหมอีเหี้ย”
"เอาน่า! มึงเชื่อกูอีน้ำ คราวนี้กูจะไม่มีทางยอมแพ้ไอ้เหี้ย 2 ตัวนี่แน่ๆ"
"ทำไมมึงดูมั่นใจจังวะ?"
คีตะเอ่ยถามไปด้วยท่าทางสุดจะเยาะเย้ยเพื่อนสาว ที่กำลังเดือดอยู่
"พวกมึงแม่งโคตรไร้สาระกันจริงๆ ว่ะ เรื่องเรียนเอาให้มันท็อปตลอดนะ ไอ้สัตว์!"
ท็อปหางแถวน่ะสิไม่ว่า ประชดมันไปงั้นให้สำนึกบ้าง ฉลาดน้อยกันทั้งกลุ่มเลย สมแล้วที่มันมาอยู่ด้วยกันได้ เรื่องไม่สนใจเรียนพอๆ กันนัมเบอร์วัน ไม่มีนัมเบอร์ทูสักคน อีกนิดเดียวมหาวิทยาลัยจะรีไทร์พวกมันหลุดออกจากการเป็นนักศึกษาแล้วมั้ง ถ้าผมคนหล่อด้วยสวยด้วยคนนี้ไม่ให้มันแอบลอกข้อสอบต่อกันเป็นทอดๆ เกือบทุกภาค
"เฮอะ! เดี๋ยวมึง 2 คนเจอกู คราวนี้กูไม่ยอมจริงๆ ด้วย"
"ได้! มึงเจอกูเลย"
"เออ กูเอาด้วยไอ้คี"
ไททันที่เห็นสีหน้าและท่าทางสุดฮึกเหิมของเพื่อนสาว รีบสมทบทันที มันก็เก่งเกินเรื่องเดิมพัน สงสัยมันจะเก่งกันอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ ชีวิตนี้ทั้งชีวิตชอบกันจังเรื่องเสี่ยงดวง
"แต่กฎเหล็กมีอยู่ว่า..."
"มึงว่ามาเลยไอ้สัตว์ ไม่ต้องเงียบแล้วให้กูลุ้น"
"ห้ามทำอะไรที่แหกกฎธรรมชาติ"
"คืออะไร? ยังไงก่อน?"
ยิ่งแตงกวาทิ้งปมให้ แต่ดูเหมือนไอ้เพื่อนไม่ค่อยจะฉลาดของผมสองคน จะไม่ทันคำพูดของเพื่อนสาว ถึงได้ทำหน้างงยิ่งกว่าตัวสล็อตง่วงนอนอีกต่างหาก กลับไปนอนแล้วให้สมองได้พักผ่อนรีแล็กซ์ได้เต็มที่ก่อนเถอะเพื่อน
Talk
ก็แค่เพื่อนอยากปั้นไข่ เพื่อนก็ขยันหาเรื่องเอาไปปั๊มเงินอีก เสี่ยงเข้าไปอะดวง เดี๋ยวได้เสี่ยงโดนรีไทร์อีกไม่นาน555
