ตอนที่ 3 บ้านวรรณยุกต์ (4)
คนเจ็บพยักหน้า หากพยุงตัวลุกปุ้บก็พับลงไปปั้บ ทำเอาคนยืนสังเกตการณ์ส่ายหน้า พลางทรุดลงนั่งหันหลังให้
“เอ้า ถ้าไม่ไหวก็ขึ้นหลังมา จะพาไปส่ง” ฝ่ายนั้นเร่งอีก คนฟังบอกกับตัวเองในใจว่าไม่ได้เกรงคำขู่นั้นสักนิด หากอะไรบางอย่างในน้ำเสียงต่างหากทำให้คนเจ็บต้องตะกายเกาะหลังอีกฝ่ายที่กัดฟันบอก
“เกาะดีๆ ล่ะยัยแมวขโมย เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน” ศุภิสราเบะปากหมั่นไส้ หากแขนเรียวก็โอบรอบคอของอีกฝ่ายแน่น
“ต๊าย... นั่นแกไปคลุกขี้โคลนที่ไหนมาน่ะ ดู๊... ตัวเปียกมะล่อกมาเชียะ” คุณฝนทองเท้าสะเอวเอ็ดหลานชายคนเดียวเสียงเขียว เมื่อเห็นร่างเก้งก้างหัวหูเปียกซ่ก “อ้าว แล้วนั่นแบกใครมาด้วยน่ะ”
คนมากวัยต้องหรี่ตามอง หากเมื่อเห็นชัดว่าหลานชายตัวดีหอบอะไรมาด้วยนางก็แทบลมจับ
“ว้าย... คุณพระช่วย” คุณฝนทองตบอกอุทานลั่น “โอย... ฉันจะเป็นลม ไปทำอะไรกันมาเนี่ย ดู๊...”
“อย่าเพิ่งเป็นลมนะย่า ช่วยผมก่อนสิ” เด็กชายกัดฟันโวย เท่านั้นร่างอวบหนา หากคล่องแคล่วก็ปราดเข้ามาช่วยรับร่างบางจ้อยมาวางบนแคร่ไม้ พร้อมปากก็บงการใครต่อใครเสียงขรม ทำให้บุรุษทั้งสองที่นั่งบนชานเรือนต้องรีบชะโงกลงมามอง
“เอะอะ อะไรกันครับคุณแม่ เจ้าโทก็อีกคน อ้าวแล้วนั่นเด็กที่ไหนกันน่ะ”
“ยัยหนู!” คุณไกรภพร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นถนัดว่าต้นเหตุของความโกลาหลคืออะไรก็รีบวิ่งลงจากเรือนทันที “เจ็บตรงไหนบ้างลูก”
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ” เด็กหญิงฝืนตอบเสียงอ่อยเพื่อไม่ให้คนรอบข้างเป็นกังวล
“เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงจริ๊งแม่คุณ ตัวแค่นี้ เจ็บแล้วเจ็บอีก” คุณฝนทองบ่นพลางสาละวนทายาให้อย่างเบามือ ไม่มีใครสังเกตเจ้าตัวต้นเหตุที่ค่อยๆ ย่องกริบ เตรียมเผ่น
“แล้วนี่ไปเล่นซนท่าไหนถึงตกน้ำตกท่าแบบนี้ หา เจ้าโท อ้าว แล้วนั่นจะไปไหนอีก” เจ้าโท หรือนามกรเต็มๆ ว่า โทรินทร์ หนึ่งในเมมเบอร์ของบ้านวรรณยุกต์ สะดุ้งโหยง
“ผมเปล่าทำนะ ย่า”
“เอ้อ ก็ใครไปว่าเจ้าล่ะ เจ้าโท แล้วนั่นจะไปซนที่ไหนอีกล่ะ มานั่งนี่สิ” เจ้าตัวแสบพยายามไม่สนใจอาการกระอักกระไอของคนเจ็บที่ใครต่อใครกำลังประคบประหงมเอาใจกันยกใหญ่ ไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าตัวจ้อยกลั้นหัวเราะขันใคร
“พาน้องไปซนที่ไหน ทำไมถึงตัวเปียกซ่กมาแบบนี้ หา เจ้าโท”
“เปล่านะพ่อ ผมไม่ได้พาเขาไปซน” คนถูกกล่าวหาปฏิเสธพัลวัน
“แล้วทำไมเปียก”
“ก็ เอ่อ...” ขืนบอกไปสิ ยัยตัวเล็กตกสระเกือบตายเพราะใคร นั่นได้ลิ้มรสหวายอาญาสิทธิ์ของผู้เป็นย่าเป็นแน่ โทรินทร์กำลังเข้าตาจน ทันใดนั้นเองเสียงระฆังก็ดังขึ้น
“หนูผิดเองค่ะ” เด็กชายหันขวับมองคนรับผิดแทนอย่างงงงวย
“มัวแต่เก็บมะยมเพลินไปหน่อย เลยพลัดลื่นตกน้ำ ดีที่พี่คนนี้ผ่านมาเห็นเข้า เลยช่วยขึ้นมา” จำเลยอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง อยู่ดีๆ จากผู้ร้ายกลายร่างเป็นพลเมืองดีมีความชอบซะงั้น “ขอบคุณนะคะ พี่... เอ่อ”
“พี่โทรินทร์จ้ะ รู้จักกันไว้สิจ๊ะลูก หนูทราย” คุณฝนทองแนะนำ “รอดตัวไปทีนะเจ้าโท ทีหน้าทีหลังแกก็ซนให้มันน้อยๆ หน่อยสิยะ แหม ฉันล่ะอยากหัวใจวายวันละร้อยรอบ ไป๊ ไปเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนผ้าซะ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก อ้อ พาน้องไปด้วย ลองดูเสื้อผ้าแม่ตรีน่ะให้เปลี่ยนด้วย ดูสิหน้าซีดหมดแล้ว แม่คุณเอ๊ย น่าสงสารจริงจริ๊ง” แม้ไม่ค่อยชอบหน้า หากเมื่อมีความดีความชอบต่อกัน ก็ทำให้เด็กชายต้องยอมรับคำสั่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“มาสิ” ศุภิสรามองคุณไกรภพอย่างขอคำปรึกษา พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าอนุญาตจึงค่อยกระย่องกระแย่งตามลูกชายตัวแสบของเจ้าของบ้านไป ทิ้งผู้ใหญ่สามคนที่มองตามอยู่เบื้องหลัง
“เด็กคนนี้เองหรือครับที่คุณเล่าให้ฟัง”
“ครับ” คุณไกรภพมีสีหน้าหนักใจ “นี่แหละหนูทราย”
“ท่าทางน่าเอ็นดู อายุน่าจะพอๆ กับยัยตรีของผมนะครับ ถ้ารายนั้นกลับมาเจอคงเจี๊ยวจ๊าวน่าดู อ้อ พูดปุ้บก็มาปั้บเชียว” คุณพงศ์เอกเอ่ย พลางต้องรีบอ้าแขนรับร่างกลมปุ๊กลุกที่โผเข้าหา
