บท
ตั้งค่า

ตอนที่4.

หนูตาของพี่แน๊ตระบายลมหายใจเบาๆ อีกครั้งก่อนฝืนทำร่าเริง พลิกดูเอกสารที่เย็บเข้าชุดเสร็จแล้วซึ่งมีความหนาประมาณยี่สิบกว่าหน้ากระดาษเอสี่

“คราวนี้วิจัยอะไรคะ”

“น้ำมัน” พี่แน๊ตหันมายิ้มให้ดวงตาเป็นประกาย เฮ้อ…นี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่โยษิตาอยากหางานทำที่อื่นเหมือนกัน

“น้ำมันพืชหรือน้ำมันใส่ผมคะพี่แน๊ตคิก...คิก”

หญิงสาวตัวเล็กเหมือนเสียงเอ่ยถาม มินต์เป็นเพื่อนที่เข้าทำงานเดียวกับโยษิตา ถ้านับอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกันแต่ถ้าดูเรื่องการศึกษา เพื่อนสาวคนนี้เรียนที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่เดียวกับโยษิตา แต่ป่านนี้แล้วมินต์ยังเก็บหน่วยกิตได้เพียงครึ่งเดียวเอง แต่ดูเหมือนเพื่อนสาวอารมณ์ดีที่มักจะมีเสียงหัวเราะอยู่ตลอดเวลาไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นัก มินต์ก็เป็นคนหนึ่งทีต้องทำงานไปเรียนไปด้วยคล้ายๆ กับเธอ

“น้ำมันรถจ๊ะหนูมินต์” ไม่ว่ากับรุ่นน้องหญิงคนไหนพี่แน๊ต จะเรียกนำหน้าว่า ‘หนู’ เสมอ

“สำรวจความพอใจของผู้ใช้รถยนต์ โดยที่เราจะเข้าไปสอบถามผู้ที่เป็นผู้ขับขี่รถโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถยนต์คันนั้นๆ ก็ได้ แต่ต้องเน้นที่ยี่ห้อของรถยนต์ต้องเป็นรถใหม่อายุไม่ถึงปีหนึ่งพอจะเข้าใจไหม”

“ค่ะพี่แน๊ต” โยษิตาตอบพลางพลิกเอกสารในมือ เมื่อสองเดือนก่อนก็ทำเรื่องรถยนต์แต่เป็นความพึ่งพอใจของการใช้รถและแนวโน้มที่จะเปลี่ยนรถใหม่

“งานนี้ต้องทำแบบแรนดอมลงตามบ้านรึเปล่าค่ะพี่แน๊ต มินต์ไม่ค่อยชอบเลย สวยๆ อย่างมินต์มีแต่คนขอเบอร์มือถือถามอะไรไม่ค่อยจะได้ความเลย คิก...คิก”

มินต์หัวเราะคิกคักซึ่งเป็นท่าทางประจำของเธอ แต่เรื่องที่เล่ามาไม่รับประกันความจริงเท่าไหร่นัก เพราะสาวหมวยคนนี้มักจะมีเรื่องประมาณนี้มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังอยู่บ่อยๆ ทั้งหนุ่มๆ ตามจีบ ทั้งคนมาชวนไปทำงานที่บริษัทใหญ่โต แต่ก็เห็นเธอทำงานกรอกแบบสอบถามอย่างนี้ไม่ได้ไปไหนกับใครเสียที

แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือว่า งานประเภทแรนดอมสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายตามบ้าน แม้จะไม่ค่อยปลอดภัยนักสำหรับสาวๆ เวลาได้งานประเภทนี้ ถึงไม่มีกฎของบริษัทแต่ทุกคนจะรู้หน้าที่ดีว่าจะต้องจับคู่เป็นบัดดี๊ทำงานด้วยกันห้ามไปคนเดียวเด็ดขาด

แต่สิ่งที่ได้เปรียบสำหรับคนที่ยังเรียนอยู่ก็คือการใส่ชุดนักศึกษาไปทำงาน อย่างน้อยที่สุด เวลาที่พวกเธอเข้าไปเก็บข้อมูลจะไม่ถูกไล่ตะเพิดตั้งแต่ยังไม่ได้อ้าปากอธิบายอะไร เพราะคิดว่าพวกเธอมาขายสินค้า การสุ่มสำรวจเป้าหมายตามบ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

บริษัทอื่นเป็นอย่างไรโยษิตาไม่รู้แต่สำหรับบริษัท W.I.N.D แล้วมีกฎว่าถามหนึ่งหลังเว้นสี่หลัง ส่วนจะเป็นพื้นที่ไหนจังหวัดอะไรขึ้นอยู่กับพี่ซุปฯของแต่ละคนจับฉลากได้เขตไหนไปทำ แม้จะร้อนและอันตรายไปบ้าง แต่การทำวิจัยตลาดแบบนี้เป็นงานได้ค่าตอบแทนดีกว่าประเภทยืนตากแอร์เย็นๆ ในห้างสรรพสินค้า คอยสุ่มถามเอากับคนที่เดินผ่านไปมา แต่ไม่รู้ว่าเพราะพี่ซุปฯ ของโยษิตาเป็นพี่แน๊ตหรืออย่างไรไม่ทราบได้จึงมันได้แต่งานแรมดอมทุกที

“ถ้าเข้าใจแล้วแบ่งกันไปคนละสิบสองชุดนะ ใครได้เบ็นซ์,ซิวตรอง,ว่อลโล่,แล็กซัสหรือ บีเอ็มดับเบิลยู ก่อนให้โทรมาบอกพี่ด้วย ไอ้ยี่ห้อตลาดๆ นะเอาไว้ที่หลังก็ได้”

“สาธุขอให้เจอหนุ่มหล่อๆ รวยๆ ด้วยเถอะ!” สาวมินต์ทำท่ายกมือไหว้ท่วมหัว

“อะไรยะเธอ” เพื่อนร่วมกลุ่มคนอื่นแซวเล่นพร้อมเสียงหัวเราะฮาครืน

“อ้าว! ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้เข้าไปตีสนิทพวกคนรวยมีรถหรูขับไง เผื่อความสวยแบบหมวยๆ ของฉันจะเข้าตาไง คิก…คิก”

“พูดให้มันเบาๆ หน่อยหนูมินต์ พูดเล่นได้แค่ตรงนี้ เกิดคิวซีฯได้ยินจะเรื่องใหญ่ เดี๋ยวจะเสียภาพพจน์บริษัทฯหมด แล้วหนูตาละ…ไหวนะ” พี่แน๊ตหันมาถามแสดงความเป็นห่วงอย่างออกนอกหน้า

“ไม่มีปัญหานี่ค่ะ”

โยษิตายิ้มบางๆ ที่มุม พี่แน๊ตโยกหัวเธอเบาๆ ไปมา ปัญหาเรื่องงานนะไม่มีหรอก แต่ปัญหามันอยู่ที่สิ่งที่พี่แน๊ตแสดงออกแบบนี้แล้วทำให้คนอื่นพลอยไม่ค่อยพอใจเธอไปด้วยนะซิ! เธอไม่ได้รังเกียจพี่แน๊ตที่เป็นสาวหล่อแต่ไม่คิดอะไรกับพี่แน๊ตมากกว่ารุ่นพี่กับรุ่นน้องที่ทำงานที่เดียวกัน แถมเธอยังโดนคนอื่นเขม่นเอาอีก มีบ่อยครั้งที่มีบางคนคิดว่างานที่เธออาจไม่ใช่ฝีมือเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel