บทที่ 11 แผนการของอาสะใภ้รองช่างดียิ่งนัก
“รบกวนญาติผู้พี่เรียกข้าว่า อาเฟยอย่างที่พี่ใหญ่เรียกเถอะเจ้าค่ะ”
ด้วยความทั้งพี่ใหญ่และน้องสามอันมีสายเลือดมาจากตระกูลหยางเช่นกันต่างก็หน้าตาดี แน่นอนว่าญาติตระกูลหยางที่มาเยี่ยมเยียนนี้ก็หน้าตาดีไม่แพ้กัน เพียงแต่นางไม่ใช่สตรีที่มองคนเพียงหน้าตา อีกทั้งการจะจับนางแต่งกับคนที่ไม่รู้นิสัยกันมาก่อน ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่
บทสนทนาหลังจากนั้นทำให้เหยียนเฟยมั่นใจกับจุดประสงค์ของหยางเชาหลินมากเต็มสิบส่วน พวกผู้ใหญ่แยกไปคุยจิบชาที่ห้องรับรอง ส่วนเหล่าเด็กๆก็แยกตัวไปคุยเล่นตามประสา พี่ใหญ่นั้นเพียงมาต้อนรับเท่านั้นหลังจากทุกคนแยกย้ายก็กลับเข้าภายในเรือน พี่ใหญ่ก็แยกไปฝั่งของเรือนตนเองแล้ว
เหยียนเฟยนั้นไม่สนิทกับใครแม้กระทั่งน้องสามและน้องห้าที่อยู่ในจวนด้วยกันอยู่แล้ว นางจึงนั่งมองธรรมชาติอยู่คนเดียว พอเบื่อก็ลุกออกเดินเล่นใต้หลังคาทางเดิน เพราะข้างนอกหิมะเริ่มตกหนัก เดินมาสักพักก็รู้สึกได้ว่ามีคนตามมาจากด้านหลัง พอหันกลับไปแทบอยากหมุนตัววิ่งจากไปแทน
ทว่าทำอย่างนั้นได้เสียที่ไหนเล่า
“พี่ขอร่วมเดินด้วยได้หรือไม่ มากี่เทียวก็จำทางไม่ได้สักที ต้องขอรบกวนเจ้าพาชมสวนดอกไม้งามสักรอบ...”
“ตามจริงข้าก็ไม่ค่อยมาเดินสวนแห่งนี้เท่าใดนักเจ้าค่ะ เช่นนั้นเดี๋ยวข้าไปตามน้องสามมาพาท่านเดินดีกว่า”
เหยียนเฟยกำลังหมุนตัวกลับไปทางเดิมก็ถูกแขนของบุรุษที่ตามมาขวางไว้เสียก่อน อีกทั้งเหมือนว่าเขามองมาที่ผมของนางพร้อมยกมือเคลื่อนมาเหมือนจะสัมผัสผมก็ทำให้เหยียนเฟยยิ่งเดินถอยหลังทันใด
“อ้อ มีหิมะตกใส่ผมเจ้าน่ะ เพียงจะเอาออกให้ก่อนที่มันจะละลายไปเท่านั้น เดี๋ยวความเย็นของหิมะจะทำเอาอาเฟยป่วยได้นะ”
เหยียนเฟยรีบยกมือตนปัดที่ผมทันที ซึ่งนางสัมผัสได้ว่ามีความเย็นของหิมะจริงดังคนตรงหน้าว่า เพียงแต่หาได้จำเป็นที่เขาจะมาใช้สิ่งนี้ใกล้ชิดสตรีอื่นได้
“ขอบคุณในความหวังดีของญาติผู้พี่เจ้าค่ะ เมื่อครู่ข้าตกใจไปหน่อย พอดีข้าไม่ค่อยชอบให้ผู้ใดมาแตะต้องเนื้อตัวน่ะเจ้าค่ะ”
เสียงของนางแข็งขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดจนเกินไป แต่เหยียนเฟยจำเป็นต้องแสดงความไม่พอใจให้บุรุษตรงหน้ารู้เรื่องด้วยเช่นกัน
“อาเฟยอาศัยอยู่เรือนทางไหนหรือ? คงไม่ได้พักกับเรือนของท่านน้าเชาหลินกระมัง”
นางจะบอกที่พักของนางให้คนที่ตนยังไม่ไว้ใจได้อย่างไรกัน แต่กระนั้นหากเขาอยากรู้ย่อมหาคำตอบเองได้อยู่แล้วก็เถอะ ฉะนั้นหากเขาอยากรู้ก็ไปสืบเองแล้วกัน
“แถวๆนู้นเลยเจ้าค่ะ”
นางชี้ไปมั่วๆ แล้วก็พาเขาเดินย้อนกลับไปทางเดิมที่อย่างน้อยก็มีน้องสามและน้องห้าเล่นอยู่
“ข้าเสียใจกับการจากไปของบิดาและมารดาของอาเฟยด้วยนะ หากพี่เป็นเจ้าคงเคว้งคว้างน่าดู อาเฟยของพี่เก่งมากเลยนะ”
“เจ้าค่ะ”
ใครคืออาเฟยของเขากัน นางฟังแล้วรู้สึกแปลกประหลาดสิ้นดี นางขนลุกซู่จนเหมือนตอนปวดอยากเข้าห้องน้ำเลย
หากเป็นชาติก่อนเหยียนเฟยต้องเอ่ยชี้เจตนาอย่างชัดเจนและไล่เขาไปทันทีแล้ว แต่ในชาตินี้หากนางทำเช่นนั้นอาสะใภ้รองจะต้องไหวตัวทัน พออาสะใภ้รองรู้ว่าเหยียนเฟยไม่อยากออกเรือนไปกับคนตระกูลหยางย่อมหาทางอื่นที่อาจแย่กว่านี้เพื่อทำให้แผนตนสำเร็จแน่
ฉะนั้นนางจึงต้องทำเป็นคนไม่รู้ว่าอาสะใภ้กำลังจะทำสิ่งใด แสร้งเป็นเด็กใสซื่อไม่ทันแผนก่อน เมื่อเหยียนเฟยเตรียมทุกอย่างพร้อมค่อยลงมือทีเดียว
“อา ทางที่เดินผ่านมาเมื่อครู่หิมะตกหนาไม่สามารถเดินผ่านได้แล้ว พี่ว่าเราเดินอ้อมไปทางนู้นดีกว่า”
“เจ้าค่ะ”
นู่นอย่างไรรู้ทางดีกว่าเจ้าบ้านอีก...
เหยียนเฟยคิดว่านางต้องหาทางปลีกตัวไปเสียให้เร็ว ทว่ามีเหตุผลไหนที่ใช้แล้วไม่เหมือนดูว่าเป็นข้ออ้างกันนะ
เหมือนสวรรค์รับรู้ว่าเหยียนเฟยต้องการความช่วยเหลือ เบื้องหน้าของนางเห็นฉีอ๋องยืนนิ่งพิงเสาทางเดินอยู่พอดี ตามทางนี้แน่นอนว่าทั้งสองคนต้องผ่านเขาแน่
“โอ เจอคุณหนูรองเฉินพอดี ข้ากำลังหลงทางอยู่ในจวนเจ้าเลย รบกวนพาข้าไปหาเรือนพี่ใหญ่ของเจ้าหน่อยเถอะ”
เหยียนเฟยรีบเดินไปหาตัวช่วยของนางทันที ก่อนหันกลับมาเอ่ยลาญาติผู้พี่ที่ตอนนี้มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก และแอบเห็นว่าเขาไม่แม้จะสบตาของฉีอ๋องด้วยซ้ำ
“ขออภัยญาติผู้พี่ด้วยเจ้าค่ะ ข้าต้องพาฉีอ๋องไปส่งก่อน ท่านเดินตรงไปตามทะ...”
“พี่รู้ทางดี เชิญอาเฟยพาฉีอ๋องไปส่งเถอะ พี่ไม่รบกวนแล้ว คารวะท่านอ๋องขอรับ”
เพียงชั่วอึดใจเดียวญาติผู้พี่ที่ตามติดนางมาตลอดเช้าก็หายวับไปจากคลองสายตา เหยียนเฟยยังอึ้งค้างไม่หายที่เขาไปง่ายเพียงนั้นเป็นเพราะฉีอ๋องผู้นี้
เหยียนเฟยหันมองยังฉีอ๋องก็เห็นว่าเขาทำสีหน้าปกติ ไร้อารมณ์ใด มองไปก็เหมือนเห็นบุรุษที่แสดงอารมณ์ไม่เป็นเท่านั้น มีอันใดน่ากลัวกันเล่า...
“อ้าว ญาติผู้พี่เหตุใดท่านเดินมาคนเดียวเล่า พี่รองไปไหนแล้ว”
น้องห้าที่กินขนมกับน้องสามต่างก็แปลกใจทั้งสิ้น ที่เห็นพี่ชายเดินสีหน้าตระหนกตกใจเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้นมา เมื่อครู่ตอนพวกนางจะเดินตามเขาไปด้วยเขายังบอกว่าจะเดินไปตามพี่รองมาอยู่เลยไฉนกลับมาคนเดียวได้
“อาเฟยเดินไปส่งแขกของจิ้งหลินน่ะ พวกเราไม่ต้องรอนางหรอก”
หยางลี่จ้งส่ายหัวสลัดแววตาดุร้ายราวนักล่าจะจัดการเหยื่อของฉีอ๋องเมื่อครู่ให้หายไป เขานั้นไม่รู้ว่าตนทำอันใดล่วงเกินทรราชผู้นั้นมาถึงได้รับสายตาเช่นนั้นได้
ทว่าคิดไปคิดมาก็แปลกเช่นกัน ที่ฉีอ๋องมาหลงทางบริเวณเส้นทางที่มุ่งมาสวนดอกไม้ตรงนี้ได้ หากเขาไม่ได้คิดจะมาที่สวนแห่งนี้ก็ไม่น่าจะยืนอยู่แถวนั้นได้น่ะนะ...