ตอนที่7
ชั้นบนสุดของโรงแรมห้องระดับ VIP ที่ใหญ่ถึงขนาดกินพื้นที่ไปเกือบทั้งชั้น ห้องนี้มีไว้สำหรับแขกคนสำคัญหรือมหาเศรษฐีที่มีเงินเท่านั้น ระดับคนธรรมดาชนชั้นกลางไม่สามารถเข้าพักได้
“ไม่เคยได้ขึ้นมาชั้นนี้เลย” พนักงานทำความสะอาดชั่วคราวอย่างเธอไม่เคยถูกเรียกขึ้นมาชั้นนี้เพราะจะมีแม่บ้านประจำคอยดูแลความเรียบร้อยตามมาตรฐานของโรงแรม
หญิงสาวเดินช้าๆ ไปยังหน้าประตูห้องที่เขาส่งข้อความทิ้งไว้ให้ด้วยความประหม่ากล้าๆ กลัวๆ กว่าจะตัดสินใจเคาะประตูได้ก็กินเวลาไปหลายนาที แต่ยังไม่ทันจะยกมือขึ้นประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกเสียก่อน
“เข้ามาสิ” เสียงทุ้มเอ่ยราวกับเป็นเรื่องเคยชินที่มีผู้หญิงมาหาผิดกับคนตัวเล็กที่ทำตัวไม่ถูก
“หิวไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ” จันฉายตอบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ แต่ก็ยังสับสนมึนงงที่เขามีน้ำใจกับเธอ
“แน่ใจนะว่าจะไม่กินอะไรก่อน” คำถามพร้อมสีหน้าท่าทางที่ดูมีเลศนัยของเขาทำให้หญิงสาวใจกระตุกวูบ
“ไม่กินค่ะ ฉันไม่หิว”
“ก็แล้วแต่”
“เข้าเรื่องเถอะค่ะ คุณเป็นพวกปล่อยเงินกู้ใช่ไหมคะ” คนตัวเล็กเปิดประเด็นถามทำเอาคนตรงหน้าหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ฮ่าๆ”
“หัวเราอะไรคะ?”
“ฮ่าๆ เธอคิดได้ยังไงเนี่ย” อคิราหัวเราะเสียงดังไม่คิดว่าเธอจะคิดไปแบบนั้นได้หรือภาพลักษณ์ของเขาดูเหมือนพวกปล่อยเงินกู้งั้นหรือ
“แล้วไม่ใช่เหรอคะ” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างไร้เดียงสาคิ้วขมวดเป็นปมจนน่าเอ็นดู
“ฉันให้เงินเธอได้มากกว่าพวกนั้นอีก”
“ยังไงคะ” พอได้ยินคำว่าเงินจำนวนมากก็ยิ่งปลุกความอยากรู้ขึ้นมา
“เธอสนใจรับข้อเสนอไหมล่ะ”
“ข้อเสนออะไรคะ คุณไม่ได้มีงานอะไรให้ฉันทำเหรอคะ” จันฉายเริ่มอยากรู้ว่าข้อเสนอนั้นคืออะไรแล้วเงินที่จะได้มันมากแค่ไหนกัน
“งาน? ฉันบอกเหรอว่าจะให้เธอทำงาน”
“ไม่ได้บอกค่ะ แต่คุณพูดว่าสามารถให้ได้เท่าที่ฉันต้องการ”
“ใช่ ฉันให้เธอได้เท่าที่เธอต้องการ แต่เธอต้องทำตามที่ฉันต้องการด้วย”
“แล้วต้องทำยังไงคะ” ในตอนนี้เธอสนใจแค่เงินเท่านั้น ขอแค่ได้ช่วยครอบครัวปลดหนี้ก็เพียงพอแล้ว
“เธอต้องการเงินเท่าไหร่สาวน้อย” อคิราไม่ได้ตอบคำถามของเธอแต่กลับถามเธอเรื่องจำนวนเงินที่เธออยากได้
“สามล้านค่ะ!” จันฉายตอบเสียงดังฟังชัดแต่สีหน้าเป็นกังวลเพราะกลัวถูกเขาปฏิเสธ
“ไม่ใช่ปัญหา ฉันจะให้เธอห้าล้าน”
“ห๊ะ! จริงเหรอคะ ทำไมคุณใจดีจังล่ะคะ” คนตัวเล็กฉีกยิ้มกว้างเมื่อคนที่เพิ่งเจอกันใจดีมีน้ำใจกับเธอมากขนาดนี้ ทว่ารอยยิ้มนั้นก็ต้องหุบลงเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาเอ่ยออกมา
“ฉันจะให้เธอห้าล้าน แต่แลกกับการที่เธอต้องมีลูกให้ฉัน”
“คะ?” สีหน้าและแววตาของคนดีใจแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าหวาดหวั่น
“ฉันต้องการให้เธอมีลูกให้ฉัน ถ้าจำนวนเงินนั้นมันน้อยไปฉันให้เพิ่มอีกเท่าตัว”
“เพื่ออะไรคะ ทำไมคุณถึงทำแบบนี้” เสียงหวานเอ่ยถามเสียงสั่นเครืออย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ฉันต้องการทายาทสืบสกุลที่มาจากสายเลือดของฉัน แต่ฉันไม่อยากแต่งงาน” อคิราพูดความจริงออกมาอย่างไม่โกหก เขาโดนผู้เป็นแม่กดดันจนทนไม่ไหวีกแล้วจึงต้องใช้วิธีนี้และเขาก็รู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกเจอ
“ทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ ทำไมคุณถึงไม่หาคนอื่น”
“ฉันถูกชะตาเธอ และเธอเองก็ต้องการเงินไม่ใช่หรือไง ฉันขอแค่หกเดือน ถ้าเธอยังไม่ท้องก็แยกย้ายกันไป แต่ถ้าท้องเธอจะได้เพิ่มอีกสองเท่า” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอให้เธออย่างมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะไม่มีทางปฏิเสธ
หญิงสาวนั่งก้มหน้าบีบมือตัวเองด้วยความกดดัน ใจหนึ่งอยากปฏิเสธแต่จำนวนเงินขนาดนี้เธอไม่สามารถหาที่ไหนได้อีก แต่ถ้าตกลงก็อาจจะมีผลกระทบที่ตามมาในภายหลัง การมีลูกของผู้หญิงคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ทว่าระยะเวลาแค่หกเดือนเธอก็อาจจะไม่ท้องก็ได้
“ว่าไง จะปฏิเสธหรือตกลง”
“ฉันขอถามอีกทีนะคะ ถ้าฉันตอบตกลงฉันจะได้เงินเท่าไหร่”
“ห้าล้าน แต่ฉันจะให้อีกห้าล้านหลังจากครบหกเดือน” อคิรากอดอกตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ คนหัวนักธุรกิจแบบเขาไม่มีทางให้เธอทีเดียวทั้งหมด
“ฉะ...ฉันตกลงก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงแผ่วเบาไม่กล้าเงยหน้าสบตากับเขา เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่เป็นวิธีเดียวที่จะหาเงินใช้หนี้ได้เร็วที่สุด
“ว่าง่ายแบบนี้ก็ดี พรุ่งนี้ฉันจะให้คนพาเธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แล้วค่อยมาทำสัญญากัน”
“ตรวจร่างกายทำไมคะ”
“ฉันไม่อยากเสี่ยงกับคนที่เพิ่งเจอกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องถามเยอะแค่ทำตามที่สั่งก็พอ” มือหนายกขึ้นลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบาราวกับลูบขนสัตว์ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับเชื่อฟังอย่างง่ายดายเหมือนถูกมนต์สะกด
“ค่ะ”
“เชื่อฟังฉันแบบนี้แหละดีแล้ว” อคิรารู้สึกพอใจกับคนตรงหน้าอย่างมาก ใบหน้าสวยหวานแววตาดูไร้เดียงสา ผมสั้นเข้ากับโครงหน้ารูปไข่ดูเหมาะกับเธออย่างมาก
วันต่อมาจันฉายถูกพาตัวมาตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล คนที่พาเธอมาคือเลขาคนสนิทของเขาซึ่งเธอไม่กล้าถามไถ่อะไรจึงได้แต่ทำตามที่เขาบอกจนทุกอย่างเรียบร้อย
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ ผลตรวจของคุณจะถูกส่งไปให้คุณคินทันทีที่ผลออกครับ”
“ค่ะ แล้วฉันต้องทำยังไงต่อคะ”
“ถ้าผลตรวจไม่มีปัญหาอะไรคุณคินจะติดต่อคุณไปอีกทีครับ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ...”
“ผมอาทิตย์ครับ ถ้าคุณจันมีเรื่องด่วนสามารถแจ้งที่ผมได้ครับ เพราะบางครั้งคุณคินไม่ค่อยจับโทรศัพท์น่ะครับ” เลขาคนสนิทยื่นนามบัตรของตนเองส่งให้ตามหน้าที่
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณอาทิตย์ที่เป็นธุระให้วันนี้” หญิงสาวรับนามบัตรของคนตรงหน้ามาเก็บไว้อย่างดีเพราะวันหนึ่งอาจจะได้ติดต่อเขา
จันฉายทำได้แค่รอให้ผลตรวจร่างกายที่เพิ่งตรวจไปวันนี้ออกมาไม่มีข้อผิดพลาด เธออยากได้เงินจำนวนนั้นมาช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังลำบาก เธอกลัวเจ้าหนี้จะกลับมาตามทวงที่บ้านอีกและคราวนี้อาจจะมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น
“เฮ้อ! ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีด้วยเถอะ” ตอนนี้ขอแค่ได้เงินมาช่วยครอบครัวเป็นพอ ต่อจากนี้เธอจะต้องพบเจออะไรเธอก็ไม่กลัวทั้งนั้น จะถูกมองว่าเห็นแก่เงินก็ยอมเพื่อความปลอดภัยของครอบครัวเธอยอมได้ทุกอย่าง
