บทย่อ
"ฮัลโหล เดมี่พูดค่ะ" เสียงหวานกรอกใส่ปลายสาย ไม่รู้ว่ามีสิ่งใดทำให้เธอตัดสินใจกดรับสายปริศนา (...) "ฮัลโหลฮัลโหล" (...) "ทำไมถึงไม่พูดคะ" เรียวคิ้วสวยขมวดปมเข้าหากัน หลังจากที่ไม่ได้ยินปลายสายตอบกลับมา ในใจได้แต่ภาวนาขอให้ไม่เป็นแบบที่คิด (...) "มี่รู้ว่าเป็นแด๊ดดี้" (ฮ่า) ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแหบพร่าของปลายสาย คนที่สามารถทำเรื่องแบบนี้มีแค่บุรินทร์เพียงคนเดียว "แด๊ดดี้ต้องการอะไร" (ไม่คิดว่าเด็กดียังจะจำเสียงผัวคนนี้ได้) "มี่ถามว่าแด๊ดดี้ต้องการอะไร" (จะเล่นซนอีกนานไหม ทำไมถึงไม่ยอมกลับบ้านเราสักที) "..." (คิดถึงคิดถึง แด๊ดดี้คิดถึงเด็กดี ได้ยินมั้ยว่าคิดถึง) "เราสองอย่าเพิ่งมาเจอกันเลยได้มั้ยคะ" ลมหายใจของหญิงสาวหยุดชะงักไปชั่วครู่ เมื่อคำพูดและน้ำเสียงสั่นเครือของบุรินทร์ยังคงวนเวียนซ้ำๆ อยู่แบบนั้น (ถ้าเด็กดีกลับมา แด๊ดดี้จะให้ทุกอย่าง จะยอมตามใจ) ติ๊ดเดมี่รีบกดตัดสายทิ้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงเว้าวอนขอร้อง กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวยอมใจอ่อนให้เขาอย่างง่ายดาย เพล้ง! สมาร์ตโฟนราคาแพงร่วงหล่นจากมือจนแต่ก็กระจัดกระจายหลังจากเห็นภาพนิ่งที่บุรินทร์ส่งมาหลังจากนั้น Burin : ถ้าไม่กลับมา จะตายให้ดู!
บทที่ 1 เด็กหญิงวุ่นวายกับพี่ชายเย็นชา
แอด…
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ‘บุรินทร์’ ละสายตาจากหนังสือกองโตตรงหน้า ถอนหายใจลากยาวเมื่อมองเห็นเด็กน้อยตัวอ้วนกลมผมหน้าม้าแหว่ง สวมชุดเจ้าหญิงฟูฟ่องสีชมพูเดินเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
‘เดมี่’ คือเด็กหญิงลูกครึ่งไทยรัสเซียวัยสิบขวบ ดวงตาของเธอกลมโตเป็นประกายไร้เดียงสา ปากได้รูปเป็นกระจับ มีผิวพรรณนุ่มนิ่มขาวผ่องอมชมพู รูปร่างอวบอ้วนชอบถักผมเปียสองข้าง
เธอเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อ ครอบครัวทั้งสองมักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ
“เข้ามาทำไม”
“มี่เอาของขวัญมาให้” เด็กน้อยบอกผ่านเสียงเจื้อยแจ้ว ค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียงนอนของชายหนุ่มด้วยความทุลักทุเล “ตุ๊กตาน้องไข่เน่าของมี่เอง”
บุรินทร์ในวัยสิบเก้าปี เขาสวมแว่นสายตากรอบหนา ทรงผมถูกเซตเสยขึ้นโชว์ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนที่เธอเคยเห็นอยู่บ่อยๆ เฟยเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ เขามีหัวสมองอันหลักแหลม เป็นถึงนักเรียนทุนอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
“เหม็นแต่น้ำลาย เอามาให้ฉันทำไม”
“เดี๋ยวมี่ต้องไปอยู่ไกลแล้ว เวลาเฮียคิดถึงมี่ จะได้กอดตุ๊กตาน้องไข่เน่าตัวนี้ไง” อีกไม่กี่เดือนเดมี่และครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ และไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกเมื่อไหร่
“แล้วทำไมต้องคิดถึงเธอด้วย”
“เพราะเฮียรักมี่ แล้วมี่ก็รักเฮีย คุณอาบอกเป็นพี่น้องต้องรักกัน”
“ฉันเป็นลูกคนเดียว และฉันก็ไม่เคยเห็นเธอเป็นน้อง!” ไม่พูดเปล่าแต่เขายังโยนตุ๊กตาตัวโปรดสุดหวงของเธอทิ้งลงขยะ
เด็กน้อยเบะปากเมื่อถูกดุ เฮียเฟยไม่ค่อยชอบเธอ มิหนำซ้ำยังออกแนวว่ารำคาญ
“วันนี้ขอเล่นด้วยได้ไหม มี่เหงา ไม่มีเพื่อนเลย” ไปโรงเรียนก็มักจะถูกเพื่อนรุมแกล้งเพราะตัวอ้วน ทำให้เดมี่ไม่มีเพื่อนและมักจะต้องเล่นอยู่คนเดียว
“อ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่”
“มี่อยากเล่นกับเฮีย”
เดมี่พูดอย่างไร้เดียงสา จ้องมองชายหนุ่มตาแป๋ว เฮียเฟยของเธอรูปหล่อแต่ดุมาก ส่วนเฮียนินทร์ก็หล่อมากแถมยังใจดี ชอบซื้อของเล่นและขนมมาฝากอยู่เป็นประจำ
“ไม่ว่าง ไปเล่นกับคนอื่นก่อน”
“มี่อยากเล่นกับเฮีย”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ว่าง อ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่”
“แง้ง…” เด็กน้อยทำหน้างอ เบะปากร้องไห้เมื่อถูกดุ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวเลยมักจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวและถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ
“อย่าร้องไห้ เสียงดังหนวกหู”
“เล่นกับมี่หน่อยนะ”
“…..” ใบหน้าคมคายเหลือบสายตามองมืออ้วนป้อมของเด็กน้อยที่จับอยู่บนต้นขาพลางทำตาใสออดอ้อน “จะเล่นอะไร”
“เล่นซ่อนหา มี่จะแอบส่วนเฮียเป็นคนหานะ” เดมี่พูดด้วยท่าทางตื่นเต้นที่คนเป็นพี่ยอมใจดีมาเล่นกับเธอ แค่อยากให้เฮียเฟยรักและเอ็นดูเธอบ้าง
“งั้นก็รีบไปแอบสิ”
“เฮียหลับตาก่อนนะ เดี๋ยวมี่จะไปแอบ”
รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา เฟยหรี่สายตามองเด็กน้อยตัวอ้วนที่รีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า
แกร๊ก…
“แง้ง…” เสียงร้องไห้กรีดร้องดังลั่นไปทั่วบริเวณห้องนอนหลังจากตู้เสื้อผ้าถูกล็อกจากทางด้านนอก “กลัวนะ ปล่อยมี่ออกไป”
“วุ่นวายดีนัก ก็อยู่ในนั้นนั่นแหละ”
“แง้ง…เฮียเฟย ช่วยด้วย มองอะไรไม่เห็นเลย ช่วยมี่ด้วย”
“เวรฉิบ!” เฟยสบถในลำคอ มองของเหลวสีใสกลิ่นฉุนที่ไหลออกจากตู้เสื้อผ้าเป็นจำนวนมาก
ยัยเด็กอ้วนคนนั้น กลัวจนฉี่ราดใส่เสื้อผ้าราคาแพงของเขา
-หลายวันผ่านไป-
“เฮียเฟย…”
เฟยหันมองตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย มองเด็กหญิงตัวอ้วนสวมใส่ชุดนักเรียนวิ่งมาหา
“หยุดวิ่ง! เดี๋ยวล้ม”
“มี่มีขนมมาจากโรงเรียนเพียบเลย กินขนมกันไหม” เด็กหญิงยิ้มกว้างพลางยื่นขนมให้อย่างกล้าๆ กลัวๆ
เดมี่เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่ายเพราะอยากให้เฮียเฟยรักและใจดีกับเธอบ้าง
“เลิกทำตัววุ่นวาย อย่าเข้ามาใกล้” บอกปัดอย่างนึกรำคาญ รีบโยนมวนบุหรี่ที่เพิ่งจุดสูบทิ้งลงบนพื้นก่อนจะใช้ส้นเท้าขยี้มันจนดับ
“หม่ามี้เคยบอกว่าสูบบุหรี่ไม่ดีนะ”
“มันเรื่องของฉัน”
“…..”
“มองอะไร?” นอกจากไล่ไม่ไป เด็กอ้วนคนนี้ยังทำหน้าตาออดอ้อนน่าสงสาร
“ถ้ามี่ไม่อยู่แล้ว เฮียเฟยจะคิดถึงมี่ไหม”
“ทำไมต้องคิดถึง”
“แต่มี่คงคิดถึงเฮียนะ เพราะมี่รักเฮีย” เด็กหญิงพูดอย่างไม่รู้ภาษา ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าคำว่ารักมันคืออะไร
“…..”
“เฮียรอก่อนนะ ถ้ามี่โตเป็นสาวเมื่อไหร่จะมาขอเฮียเป็นแฟน”
“เด็กแก่แดด!”
“แก่แดดคืออะไร”
“…..”
“ช่วยสอนการบ้านมี่หน่อยได้ไหม”
“จะไปไหนก็ไป รำคาญ”
“แง้ง…เฮียเฟยดุมี่อีกแล้ว”
“ยัยเด็กวุ่นวาย!”

