บท
ตั้งค่า

CHAPTER 4 ถ้ารักก็ต้องทำ

เสียงดนตรีคลอเบาๆ จากมุมเวทีหรูหราภายในห้อง เสียงพูดคุยของผู้ชายในชุดสูทเต็มไปหมด ทำให้พิมพ์แพรดาวรู้สึกแปลกใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา

เธอหันไปมองชายหนุ่มข้างกายที่วันนี้ใส่สูทสีดำเรียบหรู หล่อจนคนรอบข้างต้องเหลียวมอง แต่สายตาเย็นชา ของเขาทำให้เธอไม่กล้าเอ่ยถามอะไรมากนัก

“พี่ปริ้นท์พาพามาทำไมคะมีแต่ผู้ชาย” แพรเอ่ยเสียงเบา พลางจับชายกระโปรงเดรสของตัวเองแน่น

“งานประมูล” เขาหันมามองเพียงแวบเดียว ริมฝีปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ

“งานประมูลอะไรทำไมถึงแปลกๆ” เธอเลิกคิ้วถาม น้ำเสียงเริ่มสั่นนิดๆ

เขาไม่ตอบ แต่ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงหญิงสาวจึงจำใจต้องเดินเคียงข้างเขาเหมือนเงา กลางสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างสนใจและซุบซิบเบาๆ

“สวัสดีค่ะคุณปริ้นท์มีอะไรแองจี้รับใช้”

“ช่วยพาผู้หญิงคนนี้ไปแต่งตัวที”

“เอ่อ แน่ใจเหรอคะ” สาวสวยลังเลเพราะงานคืนนี้มีแต่เศรษฐีเข้าร่วม ไม่เข้าใจว่าเขาจะพาสาวสวยมาด้วยทำไม

“อืม ทำตามที่ฉันสั่ง”

“รับทราบค่ะ”

“เดี๋ยว แต่งตัวอะไรกัน” พิมพ์แพรดาวงุนงง ว่าทำไมถึงต้องแต่งตัวอีก

“ตามฉันมาอีกไม่นานงานจะเริ่มแล้ว”

หญิงสาวเดินตามอย่างว่าง่ายเพราะตอนนี้ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง บรรยากาศก็ดูแปลกๆ เห็นสาวสวยแต่งตัวน้อยชิ้นเดินผ่านไปผ่านมา

“ดื่มน้ำก่อนจะได้สบายใจ” แองจี้วางน้ำผลไม้ให้ และเดินออกไปสั่งงานคนที่อยู่หน้าห้อง ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมชุดที่อยู่ในมือ

“มองหาอะไร” ปรินวัชร์มองเพื่อน

“ไหนคุณแพร” อาเธอร์มองหาหญิงสาว

“เดี๋ยวก็เห็น” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ทำไมเขารู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำของตัวเอง

ไม่นาน เสียงไมโครโฟนของพิธีกรก็ดังก้องทั่วห้องจัดเลี้ยง

“ขอต้อนรับทุกท่านสู่พิธีประมูลค่ำคืนนี้!” เสียงใสๆ แต่ทรงพลัง ทำให้ทุกสายตาหันไปยังเวที แสงไฟสลัวฉายลงบนเวที ก่อนที่สาวสวยผู้หนึ่งจะเดินออกมา

เธอใส่ชุดที่ออกแบบมาให้เรียบหรูและเซ็กซี่เกินพอดี แสงไฟสะท้อนบนผิวของเธอจนดวงตาของแขกทุกคนติดตามทุกก้าวของเธอ ทุกคนในงานจับตามอง แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้น

“ราคาเริ่มต้นที่ 2 แสน” งานนี้คืองานประมูลสาวสวยให้กับคนที่ประมูลได้นั่นเอง แขกต่างพากันแย่งกันประมูลสาวสวยแข่งกัน

“เอาสักคนไหมฉันประมูลให้”

“ไม่ต้องการ!” เขาตอบแบบไม่แยแส เขานั่งดูแต่เวลาจนเพื่อนอดถามไม่ได้

“คุณแพรไปไหนวะ”

“นายจะห่วงผู้หญิงคนนั้นทำไม” เขาเริ่มหงุดหงิดเพราะเพื่อนถามหาแต่พิมพ์แพรดาว

“และนี่คือไฮไลต์ของคืนนี้ค่ะ” พิธีกรประกาศพร้อมยกไมค์ขึ้น สาวสวยในชุดคอสเพลย์ถูกพาตัวออกมา แววตาเหม่อลอยเหมือนไม่มีสติ ผู้คนในงานต่างพากันซุบซิบเสียงดังและพากันประมูลอย่างไม่ยอมแพ้

ปรินวัชร์มองเธอด้วยสายตาเฉียบคม แต่หัวใจกลับเต้นแรงไม่รู้ตัว อาเธอร์ข้างๆ แปลกใจว่าทำไมสาวสวยคนนั้นถึงเป็นพิมพ์แพรดาว

“นี่นายเอาคุณแพรไปประมูลเหรอ”

“ก็เห็นแล้วหนิ ถ้าสงสารก็ไปประมูลแข่งกับพวกเฒ่าหัวงูดิ” เขาทำเป็นไม่สนใจจ้องมองหญิงสาวที่อยู่บนเวที เธอสวยน่ารักกว่าทุกครั้งที่เขาเจอหน้า บางครั้งเขามองจนละสายตาไม่ได้

“5 ล้าน ครั้งที่1 มีใครให้มากกว่านี้ไหมคะ”

“ไอ้ปริ้นท์เขาจะปิดการประมูลแล้ว” อาเธอร์หมั่นใส่ในความนิ่งของเพื่อน ที่ทำเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“...”

“ไอ้ปริ้นท์มึงจะทำแบบนี้กับน้องเขาจริงๆ เหรอวะ” จนพิธีกรใกล้จะเคาะไม้ปิดการประมูล

“10 ล้าน!” เสียงอื้ออึงดังขึ้นมาอีกรอบเมื่อไม่มีใครกล้าประมูลต่อ ปรินวัชร์หันมองเพื่อนด้วยแววตาว่างเปล่า

“คุณอาเธอร์เป็นฝ่ายชนะไป”

เจ้าของชื่อหันมามองเพื่อนเหมือนถามว่าจะเอาอย่างไร แต่ปรินวัชร์กลับส่ายหน้าเหมือนว่าเขาไม่สนใจ ใครจะเอาพิมพ์แพรดาวไปก็เชิญ

“ถ้าอยากได้คืนก็เอาเงิน 10 ล้านมาแลกแล้วกัน”

บรรยากาศด้านนอกงานประมูลเงียบสงบกว่าภายในห้องจัดเลี้ยง แสงไฟสลัวจากทางเดินทอดยาวไปจนถึงโรงแรม ปรินวัชร์หยุดก้าวเล็กน้อย หันไปมองชาตรีลูกน้องที่เดินตามอยู่ข้างหลัง

“อาเธอร์ไปไหนแล้ว?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่แฝงความสนใจ

“เห็นว่ากลับโรงแรมไปแล้วครับ” ชาตรีเงยหน้าขึ้น

“ช่างมันเถอะ” ปรินวัชร์พยักหน้าเพียงเบาๆ เขาจะไปสนใจว่าพิมพ์แพรดาวจะเป็นยังไง

“แล้วคุณแพรไปไหนครับ?”

เขาไม่ตอบเดินตามทางเดินมาจนเห็นว่าอาเธอร์ยืนสูบบุหรี่ พร้อมกับหันหน้ามามองเขา

“มาทำไมวะ” เขาอยากจะถามว่าพาพิมพ์แพรดาวไปไว้ไหน

“โรงแรมฉันจะไม่ได้หรือไง มองหาอะไร?”

“เปล่า”

“คุณแพรฉันพาเขากลับบ้านไปแล้ว เลยมาทวงเงินกับนาย”

“นายประมูลเองทำไมฉันต้องจ่าย” เขาโล่งใจไม่น้อยที่ได้ยินแบบนั้น

“10 ล้านครั้งนี้เป็นบทเรียนนายได้เลยนะ” เขายิ้มแบบสยอง เกลียดความหยิ่งยโสของเพื่อนไม่น้อย กล้าทำแบบนั้นกับคู่หมั้นของตัวเองได้ลง

“ฉันไม่จ่าย”

“โอเคไม่เอาก็ได้แต่ฉันขอให้นายโชคดีนะ” เงินแค่นี้สำหรับเขามันไม่ได้มากมายอะไร เขาตบไหล่เพื่อนเบาๆ และเดินออกไป

ปรินวัชร์กดมือจับลูกบิดเบาๆ ก่อนผลักประตูห้องอย่างระมัดระวัง สายตาเขาตัดไปที่เตียง ร่างบางนอนนิ่งอยู่บนเตียง ดวงตาปิดสนิทใบหน้าซ่อนความอ่อนโยนไว้แม้ในยามหมดสติ เขาไม่ต้องมองนานก็จำได้ทันทีว่าเป็นพิมพ์แพรดาว

“ไอ้อาเธอร์อย่าให้กูเจอหน้ามึงอีกนะ” เสียงในใจเขาดังขึ้นพร้อมความโกรธปนโมโห เหมือนใครบางคนเพิ่งกวนใจเขามาตลอดคืน

“ของขวัญชิ้นนี้ฉันยกให้นาย ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่คุณแพรจะขอถอนหมั้น”

เขามองข้อความนั้นนิ่งมือขยับไปถือโทรศัพท์ แต่มองไปที่ร่างบางบนเตียงแทน ปรินวัชร์วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียง ค่อยๆ นั่งลงข้างเธอ ดวงตาคมกวาดไปที่ทุกสัดส่วนของร่างบาง ราวกับพยายามอ่านใจของเธอ

“คนใจร้าย”

“เธอพูดอะไรนะฉันไม่ได้ยิน” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ราวกับอยากได้ยินคำพูดนั้นชัดเจนทุกตัวอักษร

แต่พิมพ์แพรดาวไม่ได้ถอย เขายกคางขึ้นและเธอเอียงตัวเข้าหา ทำให้ใบหน้าของทั้งสองใกล้กันจนแทบสัมผัสหัวใจของเขาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะมือสั่นเล็กน้อย แต่กลับไม่กล้าขยับตัว

สายตาเขาหลุดไปจับริมฝีปากของเธอ อ่อนโยน ละมุน แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

“แพร…” เสียงเขาเรียบต่ำ แต่ร้อนแรงในเวลาเดียวกัน

“พี่ปริ้นท์” น้ำเสียงของเธอแหบพร่า เริ่มกระสับกระส่ายเมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์

ร่างบางขยับเข้าหาอีกนิด ริมฝีปากของทั้งคู่แทบชนกัน อากาศรอบตัวเหมือนหยุดหมุน ชั่วขณะโลกทั้งใบเหลือเพียงเขาและเธอ

ปรินวัชร์ก้มลงช้าๆ จนริมฝีปากทั้งสองแตะกันเบาๆ เป็นครั้งแรก ชั่ววินาทีที่เงียบงันนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด และทั้งความปรารถนา

ริมฝีปากของเขาบดคลึงริมฝีปากของเธอจนรู้สึกเจ็บ ทำให้เธอรู้สึกถึงความถึงความปรารถนา เขาบดเบียดริมฝีปากเธอด้วยความหิวกระหายและความหลงใหล

“อื้อออ”

เขาไม่เคยรู้สึกถึงความต้องการขนาดนี้มาก่อน ครั้งแรกที่เขาอยากจะขึ้นเตียงกับพิมพ์แพรดาว มือของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel