บทที่ 3 หยามหน้า (2)
“ไม่ดีกว่าค่ะ ดิฉันต้องขอบคุณมากที่อยากฟังข้อเสนอจากทางเรา แต่ในเมื่อทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็คงต้องขอตัวก่อนดีกว่า หวังว่าเราจะได้มีโอกาสร่วมงานกันนะคะ” ปลายฝนกัดฟันฉีกยิ้มได้อย่างมืออาชีพ เธอโกรธจนตัวสั่น อยากร้องไห้โวยวาย แต่ก็ต้องกักเก็บและปั้นหน้าให้ดูเรียบเฉยมากที่สุด
เธอไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นที่อะไร ใครกลั่นแกล้ง ใครเป็นคนส่งบัตรเชิญ หรือทางนี้ตั้งใจหักหน้าและหยามไร่พันทิพย์ต่อหน้าคนอื่น
คำถามมากมายล้วนอยู่ในหัวของปลายฝนจนแทบระเบิด แต่สิ่งเดียวที่เธอควรทำในตอนนี้ก็คือการออกไปจากที่แห่งนี้ให้เร็สที่สุด
มือใหญ่ของขุนเขาจับเบา ๆ ที่แขนเล็กของน้องสาว จับจูงกันเดินออกมาด้านนอกห้องโดยไม่มีคำใดเอ่ยเอื้อน พอพ้นสายตาของคนอื่นก็เปลี่ยนมาเป็นลูบเบา ๆ ที่เรือนผมนุ่ม เขาส่งยิ้มบาง ๆ ที่หญิงสาวมองแล้วว่ามันอบอุ่นหัวใจเป็นที่สุด
“เก่งมากเลยยายฝน” ขุนเขายิ้มน้อย ๆ พลางยกนิ้วโป้งยกยอน้องสาวคนนี้
“เก่งอะไรพี่ขุน ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ปลายฝนทำหน้าง้ำงอก่อนจะก้มหน้าลง หยาดน้ำตาที่พยายามกลัดกลั้นเริ่มคุมไม่อยู่ แต่เธอก็ไม่อยากร้องไห้ให้พี่ชายคนนี้เห็น
“แค่นี้ก็เก่งแล้วน้องพี่ ป้ะ...ไปกินข้าวกันเถอะ หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว” ขุนเขากระตุกแขนของปลายฝนเบา ๆ และเดินนำออกไปด้านนอกโรงแรม
เขาไม่อยากพูดเรื่องเมื่อครู่ในตอนนี้ รู้ดีว่าหากเปิดประโยคออกไปน้องสาวของเขาได้ร้องไห้งอแงเป็นแน่
แต่ก็ไม่ทัน...
“ฮึก...พี่ขุน เราผิดอะไรเหรอ ฮึก...ไร่ของเราผิดอะไร”
เกินกว่าจะอดกลั้นไหว หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมาพร้อมด้วยแรงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
ใบหน้าหวานก้มลงมองพื้น แม้ว่าตอนนี้จะร้องไห้ออกมาแล้วแต่เธอก็ไม่กล้าสู้หน้าพี่ชายอยู่ดี
“ไม่เลย เราไม่ได้ผิดอะไรเลย” ขุนเขาหมุนตัวเดินกลับมาและกอดน้องสาวคนนี้เอาไว้แน่น
เขาเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่พอมาเห็นน้ำตาของเธอกลับยิ่งทำให้คั่งแค้นมากเป็นทุนเดิม
ไร่พันทิพย์ของเราไม่ได้ผิดอะไร ผิดก็ที่คนพวกนั้นที่มันกล้ามาเหยียดหยามในสิ่งที่เพียรพยายาม
“ฮึก...ฝนพยายามอย่างหนัก ฝนทำทุกอย่างแล้วฮือ...ฝนไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วพี่ขุน”
“ไม่ได้รอบนี้ก็ต้องได้สักรอบนั่นแหละ ลูกค้าไม่ได้มีคนเดียวนี่ยายฝน อย่าร้องไห้ดิวะ ถ้าพี่ร้องตามจะทำยังไงหืม” ขุนเขาหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ เขาทั้งลูบเรือนผมปลอบ ทั้งยิ้มแย้มอ่อนโยน แต่แท้จริงแล้วภายในใจกลับแตกสลายเป็นผุยผง
“ฮึก...พี่ขุนอะ ห้ามร้องนะ ร้องแล้วไม่หล่อเดี๋ยวสาวไม่กรี๊ดพอดี”
“ยายน้องบ้า! อย่างไอ้ขุนมันหล่อตลอดนั่นแหละ มีแต่แกน่ะที่ร้องไห้แล้วน่าเกลียด เช็ดน้ำตาซะ!” มือใหญ่ยีเรือนผมนุ่มของน้องสาวด้วยความเอ็นดู ตบท้ายด้วยคำบ่นคำว่าที่กลับทำให้หญิงสาวขี้แยหัวเราะจนตาหยี
“ฮึก...ไอ้พี่บ้า! ฝนออกจะสวย ใคร ๆ ก็บอกว่าฝนสวย น่าเกลียดตรงไหนกัน!”
“ใครเขาบอกมาวะ อยากเห็นหน้าจริง แล้วแกมันก็เชื่อคนง่ายตั้งแต่ตอนไหน ใครบอกอะไรก็เชื่อเขาหมดเลยเรอะ เหอะ! ที่เขาบอกสวยน่ะเขาแกล้งชมเปล่า ทีหน้าทีหลังอย่าไปเชื่อใครเขาง่าย ๆ ล่ะ”
“อะ...ไอ้พี่ขุน! ไอ้พี่บ้า!” ปลายฝนถลึงตาโตพร้อมกับฟาดมือใส่ร่างกายพี่ชายจอมกวน แต่หาไม่แล้วเธอกลับได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจจากเขา แถมยังเดินหนีทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวแต่อย่างใด
และคนที่ถูกหลอกด่าอย่างปลายฝนก็ทำได้เพียงถอนหายใจฟึดฟัดเป็นวัวกระทิง ทั้งยังต้องกระทืบเท้าตึง ๆ เดินตามขุนเขาไปที่รถอีก!
เสียงเพลงเคล้าคลอภายในร้านคลับบาร์หรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของตัวจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงเสียงพูดคุยเฮฮาที่ดังมาถึงบาร์ค็อกเทลจนคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าถึงกับหมดความอดทน
คลับบาร์ในคืนวันอังคารคนบางตามากกว่าวันหยุด แต่มันกลับเป็นวันโปรดปรานสำหรับปลายฝนเพราะเธอไม่ชอบสถานที่ที่คนเยอะ ทั้งอารมณ์ในตอนนี้ก็ยังอยากดื่มด่ำรสเหล้าเพียงลำพังโดยที่ไม่ต้องกังวลถึงสิ่งใด แต่ทว่าสิ่งที่เธอกำลังพบเจอก็คือเสียงดังเจื้อยแจ้วไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นเสียวหัวเราะหรือเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นมาตลอดจากลูกค้าโต๊ะอื่นที่เธอยังไม่เห็นตัวแต่กลับได้ยินเสียงมาแทน
วันเซ็ง ๆ ที่แม้แต่จะตั้งใจมานั่งปลดทุกข์ก็ยังไม่วายมีลูกค้าไร้มารยาทมารบกวน!
“นี่น้อง ลูกค้าโต๊ะนั้นคุยกันเสียงดังมากเลยอะ ช่วยไปบอกหน่อยได้ไหมว่ามันรบกวนลูกค้าคนอื่น”
ความอดทนอดกลั้นหมดลง ตั้งแต่ย่างกรายเข้ามาในร้านจวบจนตอนนี้ก็กินเวลาไปชั่วโมงกว่าแล้ว แต่เธอยังคงได้ยินเสียงพูดคุยและการสนทนาของลูกค้าโต๊ะนั้นมาตั้งแต่ต้น และระดับน้ำเสียงมันก็ดังรบกวนเธอมากจริง ๆ
“เอ่อ...ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีคุณลูกค้ากลุ่มนั้นเขาปิดโซนเลี้ยงเฉพาะเลยน่ะครับ”
“ปิดโซนนั้นแต่โซนนี้ยังได้ยินเสียงของเขาอยู่นะ ใจคอจะคุยกันดังลั่นร้านเลยหรือไง” หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนจะเอี้ยวตัวพยายามชะเง้อมองลูกค้าเสียงดังเพราะอยากเห็นหน้าให้ชัด ๆ
ทว่าใบหน้าของบุคคลที่เธอไม่ทันคาดคิดก็เด่นชัดจนเธอต้องรีบขยับตัวกลับมาดังเดิม
“อัศวิน...”
เสียงเล็กพึมพำเบา ๆ เมื่อเห็นหน้าของอัศวินที่อยู่ร่วมวงสนทนาในนั้นด้วย
อัศวินที่เป็นนายใหญ่ของไร่กมล ไร่กมลที่เป็นไร่ศัตรูคู่แข่งกับไร่พันทิพย์ของครอบครัวเธอ!
