บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 รักแรกที่เจ็บปวด (3)

จากวันที่ได้รู้เรื่องลูกสาว นายเมธีก็พยายามหาเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น ว่างก็มักจะชวนออกไปเที่ยว จึงเห็นได้ว่าต้องรักค่อย ๆ ดีขึ้น แม้ทุกครั้งที่เห็นเผด็จจะยังมีสายตาอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เศร้าซึมเหมือนเมื่อก่อน

จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งปี ในวันที่ต้องรักจะย้ายบ้าน เผด็จก็มีกำหนดการจะหมั้นกับแฟนสาวในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า แต่ถึงอย่างนั้น ในวันที่ขนย้ายของชายหนุ่มกับคนเป็นแม่ก็มาช่วย

“ต้องของให้พี่เผด็จกับพี่ปิ่นมีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้อยู่ร่วมงานหมั้น นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากต้องให้พี่กับพี่ปิ่นนะคะ” ต้องรักยื่นกล่องของขวัญสีแดงให้กับชายหนุ่มไปหนึ่งกล่อง

“ขอบใจนะ”

“ส่วนอันนี้ต้องคืนให้พี่เผด็จนะคะ” ต้องรักเลื่อนลังใบใหญ่ที่อยู่บนพื้นไปตรงหน้าของชายหนุ่ม

“อะ...อะไรน่ะ” เผด็จถามทั้งที่ในใจเขาเหมือนจะพอเดาได้และกำลังว่าจะเลื่อนมันกลับคืนให้อีกฝ่าย แต่ก็โดนนางรดานันท์เขามาขัดจังหวะพอดี

“เผด็จ นี่ของขวัญวันหมั้นจากน้าสองคนนะ อวยพรล่วงหน้าเลย ขอให้มีความสุขมาก ๆ ฝากดูแลบ้านให้น้าด้วยนะ” นางบอกเสียงกลั้วหัวเราะ ตอนแรกว่าจะปล่อยให้เช่า แต่คิดไปคิดมากลัวโดนคนเช่านิสัยไม่ดีเหมือนในข่าว เลยตัดสินใจปล่อยให้ว่างอย่างนี้ดีกว่า และจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง โดยที่นางพรสุนีติ์อาสาจะเป็นคนจัดการในส่วนนี้ให้ นางมีหน้าที่แค่จ่ายค่าจ้างเท่านั้น

“ได้ครับ” เผด็จยกมือไหว้ก่อนจะรับกล่องของขวัญขนาดที่ใหญ่กว่าของต้องรักเท่าตัวมาถือเอาไว้

“งั้นน้าไปนะ” นางรับไหว้เผด็จยิ้ม ๆ ก่อนจะหันมาพูดกับลูกสาวที่เหมือนจะยังคุยธุระไม่เสร็จ “รีบตามไปนะลูก”

“ค่ะ” ต้องรักรับคำคนเป็นแม่ที่เดินไปขึ้นรถรอ แล้วหันมายิ้มให้เผด็จอีกครั้ง

“ตั้งใจเรียนนะ ถ้ามีแฟนอย่าลืมบอกพี่บ้างล่ะ”

“ค่ะ ต้องไปนะคะ ดูแลตัวเองด้วยค่ะ” ต้องรักมองใบหน้าผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธอ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะถลาเข้าไปกอดร่างสูงนั้นเป็นครั้งสุดท้าย “ขอบคุณสำหรับความทรงจำดี ๆ นะคะ จากวันนี้ไป ต้องจะลืมพี่เผด็จให้ได้ ลาก่อนนะคะ” เธอยิ้มให้เขาทั้งน้ำตาแล้วเดินผละออกไปขึ้นรถ ไม่แม้แต่จะมองกลับหลัง

ลาก่อน...

คำว่าจะลืมให้ได้ของต้องรัก ไม่ได้แค่พูดแต่เธอทำมันจริง ๆ นับตั้งแต่ย้ายบ้านไป เธอไม่เคยติดต่อเผด็จเลย แม้จะคิดถึงแต่ก็ไม่เคยไปตามส่องตามช่องทางโซเชียล แม้แต่คนเป็นแม่ที่มีการติดต่อกับนางพรสุนีติ์บ้างก็ไม่เคยพูดถึงครอบครัวนั้นให้ได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้การมีอยู่ของเผด็จค่อย ๆ เลือนหาย แม้จะไม่ทั้งหมดแต่มันก็ทำให้ความเจ็บปวดนั้นเจือจางและถูกลบหายไปจนหมดสิ้น

ดังนั้นการที่ผ่านมาแล้วเก้าปี กับการกลับไปที่นั่นอีกครั้งมันจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับต้องรักที่วันนี้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว

หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงก้าวเท้าลงจากรถแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้าน ที่ยังคงสภาพเหมือนเดิมทุกอย่างแล้วถอนหายใจ

“กลับมาแล้วนะ” ต้องรักมองบ้านที่ไม่ว่ากี่ครั้งมันก็เป็นบ้านที่อบอุ่น แม้ในวันนี้คนเป็นพ่อจะจากไปแล้วด้วยอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน

“เข้าบ้านกันเถอะ” นางรดานันท์ที่ตอนนี้แม้จะอายุมากขึ้น แต่ด้วยความที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี จึงยังดูแข็งแรงราวกับคนสี่สิบต้น ๆ ทั้งที่อายุใกล้จะเข้าเลขหกแล้วก็ตาม

“ค่ะ” ต้องรักมองไปที่บ้านข้าง ๆ ก่อนหยิบกระเป๋าที่ท้ายรถขึ้นมาสะพายและถือเดินเข้าไปด้านในบ้านที่แสนจะคุ้นเคย เธอกับแม่จะมาอยู่ที่นี้ตั้งแต่วันนี้เลย ของจำเป็นขนใส่ท้ายรถมาหมดแล้ว ส่วนของอื่น ๆ รถจะขนตามมาพรุ่งนี้

“แม่ว่าเราต้องทำความสะอาดเพิ่มเติมนะ” นางรดานันท์บอกหลังจากเดินสำรวจภายในบ้าน แม้จะจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดแล้ว แต่นั่นมันก็เมื่อหลายวันก่อน ตอนนี้เลยมีฝุ่นจับเยอะทีเดียว

“ได้ค่ะ งั้นต้องเอากระเป๋าไปเก็บ แม่ก็นั่งเล่นรอไปแล้วกัน เดี๋ยวต้องทำเอง มันไม่ได้สกปรกมากทำนิดหน่อยก็โอเคแล้ว” ต้องรักบอกก่อนจะเดินเอากระเป๋าของตัวเองและแม่ไปไว้ที่ห้อง จากนั้นก็เริ่มทำความสะอาด

“สั่งอะไรมาไว้กินเลยดีไหม เหนื่อย ๆ จะได้ไม่ต้องรอ” นางรดานันท์บอกพลางปัดมือถือเลือกดูร้านในแอปสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่ว เพราะอยู่บ้านคนเดียวนางใช้บริการค่อนข้างบ่อย

“ก็ดีนะคะ”

“กินอะไรดี” นางถามไปกดสั่งที่ตัวเองอยากกินไปสองสามอย่าง เผื่อตอนเย็นด้วย เดินทางมาเหนื่อย ๆ ยังไม่อยากออกไปไหน

“อะไรก็ได้ค่ะ ต้องกินได้หมดแหละ” หญิงสาวบอกขณะหิ้วเครื่องดูดฝุ่นขึ้นไปข้างบน

“งั้นแม่เลือกให้เลยนะ”

“ค่า” ต้องรักตะโกนรับแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนของคนเป็นแม่ก่อนเป็นห้องแรก เพื่อที่ท่านอาจจะอยากขึ้นมาเก็บของก่อนจะได้ไม่ต้องรอนาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel