ตอนที่5. คบกันนานแล้วเหรอ
เขาทำงานหนักนั้นเป็นเรื่องที่ใครก็มองไม่เห็น แน่นอนว่าการทำงานหนักไม่ใช่การแบกหาม แต่การใช้สมองกับการแบกรับความรับผิดชอบชีวิตคนอื่นมันยิ่งหนักหนากว่า
เขาอาจเกิดบนกองเงินกองทองก็จริง แต่ครอบครัวเขาเลี้ยงเขาให้รู้จักรับผิดชอบ ผิดกับปนัดดาที่เป็นลูกรักหัวแก้วหัวแหวน ตามอกตามใจเสียทุกเรื่อง งานในส่วนของคุณอาจึงเป็นความจำเป็นที่เขาต้องยื่นมือเข้ามาดูแลด้วย
ไม่นานนักศิวนาถก็ขับรถมาร้านไทยที่ตบแต่งโล่งโปร่งสบายราวกับอยู่ในสวน เขาออกจะแปลกใจเล็กน้อย เพราะทุกครั้งน้องสาวคนนี้เป็นสาวสังคม ชื่นชอบร้านอาหารหรูหรามากกว่าร้านสไตล์นี้ แต่...มันเข้าทางเขามากกว่า
“ร้านนี้บรรยกาศดีนะคะพี่คิง”
“ฮืม”
“ร้านนี้วิภพเป็นคนแนะนำครีมมาค่ะ ครีมว่าน่าจะเหมาะกับพี่คิงนะ”
หญิงสาวทำคะแนนให้คนรัก วิภพนั่งเงียบๆ แลดูเป็นคนพูดน้อยไม่เรื่องมาก เมื่อนั่งร่วมโต๊ะกันแล้ว วิภพก็สั่งอาหารให้ ศิวนาถคอยสังเกตทั้งคู่ ท่าทางของเขาเปิดเผยตรงไปตรงมา ผู้ชายหลายคนที่ปนัดดาพามาเจอหวาดกลัวเขาจนเผ่นหนีไปหลายราย ส่วนใหญ่ที่มาเกาะแกะก็เพราะปนัดดารวยนั้นแหละ
“คบกันนานแล้วเหรอ ไม่เห็นเคยเล่าให้พี่ฟังเลย” ศิวนาถเปิดฉากก่อน
“สามเดือนแล้วค่ะ” ปนัดดาตอบเสียงใสอย่างภูมิ
“สามเดือน?” ศิวนาถพยักหน้ารับ แหม!คบกันสองอาทิตย์เลิก ร้องห่มร้องไห้เป็นหมาตายก็เคยเห็นมาแล้ว แต่นี่ก็ถือว่านานไม่ใช่เล่น แสดงว่าอดทนกับนิสัยเอาแต่ใจของปนัดดาได้ในระดับหนึ่ง
“ทำงานอะไร”
“ตอนนี้เป็นรองผู้จัดการสาขาค่ะ” ปนัดดาตอบแทนให้
“บริษัทของคุณอานะเหรอ” เขาขมวดคิ้วเพราะยังไม่ได้เจอลูกน้องของบริษัทคุณอา ตั้งแต่กลับมาวิ่งวุ่นกับแผนฟื้นฟูฉบับใหม่อยู่
“ค่ะ พี่ภพคอยดูแลน้องครีมอย่างดีเลย”
“เจอกันที่ทำงาน?”
“ค่ะ”
“เค้าพูดเองไม่ได้หรือไง” ศิวนาถจ้องเขม็งไปยังชายคนรักของน้องสาว
“ได้ครับ แต่ผมไม่อยากพูดแทรกน้องครีม” วิภพพูดน้ำเสียงปกติไม่ได้มีแววประชดประชัน มีรอยยิ้มนิดๆ
ฮืม คนนี้มาแปลก เห็นทุกทีเจอในผับหรืองานสังสรรค์อื่นๆ แต่เขาก็งไม่วางใจนัก วิภพเพียงเงยหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ เหมือยคนพูดไม่เก่ง ไม่มีอาการเกรงกลัวเขาแต่อย่างใด แน่นอนว่าบุคลิกของเขาน่าเกรงขามทำให้หลายคนไม่กล้าสบตาด้วย ไอ้ที่คบกันมาได้นานคงเพราะเป็นช่วงที่เขาไม่อยู่เมืองไทยด้วย
ศิวนาถดูสถานการณ์แล้ว คาดเดาไปว่าทั้งสองคงยังไม่ผูกพันอะไรกันมากนัก ยังพอมีเวลาให้เขาได้สืบประวัติว่าผู้ชายคนนี้ มาดีหรือมาร้าย เขาไม่ใช่คนดูถูกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหนไม่ใช่ปัญหา อยู่ที่เป็นคนดี คนขยัน รักจริง แค่นี้ก็พอแล้ว
“กินมากแน่นท้อง พี่ไปย่อยเดี๋ยวมานะ”
“อย่าไปแอบสูบบุหรี่ล่ะ” ปนัดดาดักคอพี่ชายไว้ก่อน
ศิวนาถได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วลุกขึ้นเดินดูรอบๆ ร้านที่ตบแต่งได้สวยงาม ต้นไม้หลากชนิด เขาชอบต้นไม้ แต่ไม่มีเวลาดูแล เขามีแคคตัสอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ทำงาน มันเป็นพืชชนิดเดียวที่ทนคนอย่างเขาได้ ‘รักแต่ไม่มีเวลาให้’ อย่าว่าแต่ต้นไม้เลย คนรักเขาก็ยังไม่มี เพราะทุมเทเวลากับการงานมากไป
หญิงสาวร่างผอมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโรคจิตยังไงไม่รู้ เป็นบ้าอะไรหนอ ไหนบอกว่าจะตัดใจ แต่ทำได้ยากจัง ผีบ้าอะไรเข้าสิง เลิกรากันไปแล้วแต่เธอยังแอบ ‘ส่อง’ วิภพจากเฟซบุ๊กหรือไอจี อยากรู้ว่าเขากับผู้หญิงคนใหม่เป็นยังไง เธอบอกตัวเองว่า ได้เห็นกับตาจะได้ตัดใจง่ายขึ้น ไม่ต้องทำใจ ‘รอ’ กับคำว่า ‘ห่างกันสักพัก’
เธอแอบติดตามเขาและบังเอิญรู้ว่าเช็คอินในร้านอาหารแห่งนี้ ศลิษาลองนั่งแท็กซี่ตามมา ได้เห็นกับตา หัวใจมันก็รู้สึกแปลกๆ จะเจ็บก็ไม่ใช่ โกรธก็ไม่เชิง เกลียดหรือก็ไม่แน่ใจ
“ไอติมนี่อร่อยดีจัง”
ศลิษาพูดกับตัวเอง แอบตามเขามาแต่ไม่รู้จะสั่งอะไรกินเลยสั่งไอศกรีมมากิน เลือกนั่งในมุมที่คิดว่าเขามองไม่เห็น เธอรู้เพียงว่าทั้งหมดมา3คน วิภพนั่งข้างผู้หญิงสาวสวยดูโฉบเฉี่ยวจนเธอไม่กล้ามองสารรูปตัวเอง ส่วนผู้ชายอีกคนเธอเห็นเพียงด้านหลัง เมื่อเขาลุกไปแล้ว เธอจึงได้เห็นภาพคนทั้งสองชัดเจนยิ่งขึ้น
คิดว่าน้ำตาจะไหล แต่มันก็ไม่มีน้ำตา นี่เธอเป็นบ้าอะไรไปนะ ศลิษา..
หญิงสาวถอนหายใจหนัก ตัดสินใจเรียกพนักงานเก็บเงินค่าไอศกรีมแสนอร่อยแต่เธอกินได้ไม่กี่คำ ร้านอาหารดีๆ แบบนี้วิภพไม่เคยพาเธอมาเลย ส่วนใหญ่ร้านอาหารตามสั่งทั่วไป นานๆ ทีไปกินจิ้มจุ่มสักหม้อ หญิงสาวรับเงินทอนแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ อยู่นานไปยิ่งสมเพชตัวเอง ไม่ว่าว่าอย่างไรก็อดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ได้
