บทที่ 2 นัดบอดของแม่สื่อคุณแม่โอลิเวีย อีกแล้ว!
โรงแรมโทมัสพาเลซตั้งอยู่ใจกลางเมืองลาสเวกัส เป็นโรงแรมเก่าแก่สมัยก่อตั้งเมือง สถาปัตยกรรมเป็นทรงสเปนผสมผสานร่วมสมัยซึ่งมีการออกแบบปรับปรุงครั้งใหญ่มาหลายรอบ
ภายในโรงแรมมีร้านอาหารขึ้นชื่อได้รับรางวัลมิชลินอยู่หลายร้าน ทางโรงแรมมีมาตรฐานสูงในการให้บริการ ได้รับการยอมรับจากสมาคมโรงแรมนานาชาติระดับโลก
“ขอให้เป็นคืนที่สนุกครับมิสแมกซ์เวลล์” จอร์จกล่าวก่อนที่เธอจะก้าวลงจากรถหรูสีดำ
สนุก! ไรลีย์ไม่เคยคิดเลยว่าการมาที่โรงแรมแห่งนี้จะเป็นเรื่องสนุกไปได้ บันไดขนาดใหญ่หน้ากว้างดูสูงลิบลับขณะที่รองเท้าส้นสูงสามนิ้วก้าวย่างขึ้นไป
“ยินดีต้อนรับครับมิส”
พนักงานเปิดประตูค้อมตัวกล่าวต้อนรับ มิสสาวเหลือบเห็นผู้จัดการโรงแรม โจนาธาน เดินเข้ามาหา และเธอแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น พยายามเลี่ยงออกไปทางลิฟต์ตัวในสุดของโถงต้อนรับขนาดใหญ่ แต่นั่นเป็นไปไม่ได้เพราะแสงไฟจากโคมแชนเดอเลียร์สุดหรูสว่างอย่างกับที่นี่เป็นเวลากลางวัน
“สวัสดีครับมิสแมกซ์เวลล์ โรงแรมโทมัสพาเลซยินดีต้อนรับและเป็นเกียรติอย่างสูงที่มิสแวะมาใช้บริการครับ”
ความพยายามของไรลีย์ไม่เป็นผล โจนาธานสาวเท้าอันยาวเหยียดตามเธอทันจนได้
“สวัสดีค่ะโจนาธาน”
ดวงหน้างามกัดฟันฝืนยิ้มตอบออกไป ตามปกติไรลีย์ไม่จำเป็นต้องรู้จักพนักงานโรงแรมทุกคน ยกเว้นระดับผู้จัดการอย่างโจนาธานที่หญิงสาวมักพบเป็นประจำเวลามีประชุมสมาคมโรงแรม
“ไม่ทราบว่า..มิสมาใช้บริการด้านใดครับ ผมจะให้พนักงานของที่นี่เป็นคนพามิสไปครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะโจนาธานเรื่องเล็กน้อย ฉันคิดว่าไปเองได้ค่ะ ฉันเคยมาแล้วสองสามครั้ง”
“ไม่เป็นไรครับมิส ให้ผมรับใช้จะดีกว่าครับ การได้บริการมิสถือว่าเป็นเกียรติแก่ผมและเด็ก ๆ พนักงานของเราครับ”
จะบ้าตาย! ไรลีย์เผลอสบถในใจออกมาอีกหลังจากได้ยินประโยคของผู้จัดการหนุ่ม หากแต่ใบหน้าของเธอยังคงราบเรียบนิ่งเฉย
“ค่ะ ถ้าอย่างงั้นรบกวนไปห้องอาหารเม็กซิกันค่ะ”
“ห้องอาหารดิลิซซิโอโซของเราจัดเป็นอาหารเม็กซิกันที่เลื่องชื่อ มิสจะต้องอร่อยกับอาหารของที่นั่นอย่างแน่นอนครับ”
แล้วผู้จัดการหนุ่มจึงเรียกพนักงานต้อนรับคนหนึ่งซึ่งยืนประจำอยู่ภายในเคาน์เตอร์ออกมา
“พามิสแมกซ์เวลล์ไปห้องอาหารดิลิซซิโอโซ คริสโตเฟอร์จะเป็นผู้ให้บริการแก่มิสครับ ทานให้อร่อยนะครับ”
โจนาธานโค้งคำนับก่อนเดินจากไปทางหน้าประตูเพื่อดูแลแขกคนอื่น ๆ และไรลีย์ทันได้เห็นรอยยิ้มของเขา ความหงุดหงิดพรุ่งปรี๊ดขึ้นทันทีจนเกือบรักษาสีหน้าไว้ไม่อยู่
“เชิญทางนี้ครับมิสแมกซ์เวลล์” พนักงานหนุ่มคริสโตเฟอร์ผายมือออก และไรลีย์เห็นรอยยิ้มบนหน้าหนุ่มน้อยคนนี้ด้วย
“ไม่ทราบว่าที่โรงแรมแห่งนี้ให้พนักงานยิ้มกับแขกทุกคนหรือเปล่าคะ หรือว่าจะยิ้มเฉพาะกับฉันคนเดียว” เสียงอารมณ์บูดผิดกับใบหน้าเฉยเมยดังขึ้นอย่างอดไม่ไหว คริสโตเฟอร์หุบยิ้มทันที
“ขอประทานโทษครับมิส” หนุ่มน้อยกล่าวขอโทษอย่างนุ่มนวล เดินนำไปทางลิฟต์โรงแรมกดชั้นหมายเลขหก
ไรลีย์รู้ตัวว่าไม่ควรจะอารมณ์เสียใส่พนักงาน เขาเป็นเพียงลูกจ้างแต่ครั้งนี้เธอห้ามตัวเองไว้ไม่ได้ ความกดดันแน่นอยู่ในทรวงอก ใจเต้นตุบ ๆ กลัวว่าจะเจอชายนัยน์ตาเขียวที่โรงแรมค่ำนี้
เฟรดเดอริก ชายหนุ่มในฝันเคยพยายามขอนัดทานข้าวกับไรลีย์หลายต่อหลายครั้งแต่เธอปฏิเสธ จนในที่สุดชายหนุ่มก็หยุดขอไปและเธอโล่งใจ แต่เพียงไม่นานกลายเป็นว่าเฟรดเดอริกได้ส่งดอกไม้ให้แทนและเป็นประจำมาตลอดเวลาห้าปี หญิงสาวคาดว่าทุกคนในเมืองนี้ต่างเมาท์กับเรื่องตลกของเธอกับเขามาหลายปี มีการพูดคุยซุบซิบเล็ก ๆ การพนันขันต่อในหมู่พนักงานถึงความเป็นไปได้ของเจ้านายทั้งคู่
“ถึงแล้วครับมิส ขอให้ทานให้อร่อยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะคริสโตเฟอร์ และฉันขอโทษด้วยที่พูดจาไม่สุภาพ”
“ไม่เป็นไรครับมิส ผมสมควรได้รับมันครับ” เขาโค้งคำนับอย่างสุภาพก่อนเดินจากไป
ดวงตากลมโตบนใบหน้าคมงามมองไปหน้าทางเข้าห้องอาหารเม็กซิกัน ข้างในค่อนข้างมืดสลัวสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เสียงเพลงเม็กซิกันลอยออกมาจากในร้าน
“โต๊ะมิสเตอร์โพลแมนค่ะ”
“ทางนี้ค่ะมิส”
พนักงานต้อนรับหน้าร้านพาเธอเดินไปยังโต๊ะด้านในสุดติดกระจกหน้าต่าง สายตาเธอพลันเห็นมิสเตอร์เกรกสัน โพลแมน ครั้งนี้ไรลีย์ชื่นชมคุณแม่โอลิเวีย เกรกสันเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งและดูฉลาดเฉลียว
"สวัสดีตอนค่ำครับมิสแมกซ์เวลล์”
ชายหนุ่มหล่อผมบลอนด์ลุกขึ้นยืนทันทีก่อนที่ไรลีย์จะเดินถึงโต๊ะ รีบดึงเก้าอี้ออกให้อย่างที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ
“ขอบคุณค่ะมิสเตอร์โพลแมน”
หญิงสาวหย่อนสะโพกงอนงามในชุดเดรสสีขาวตัวสั้นนั่งลงแล้วกวาดตามองไปรอบ ๆ ร้านอย่างหวาดระแวง ไรลีย์ยังไม่เห็นใครที่เธอไม่อยากเจอ
“เป็นอย่างไรบ้างคะ ลาสเวกัสครั้งแรก สนุกไหมคะ”
“ครับสนุกดีครับ ผมชอบมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและที่สำคัญโรงแรมของที่นี่ให้บริการดีมากเลยครับ”
“เห็นคุณแม่เล่าให้ฟังว่ามิสเตอร์โพลแมนมาเรื่องธุรกิจใช่ไหมคะ”
“ครับ จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าเราจะเลิกเรียกชื่อทางการ ผมขอเรียกคุณว่า ไรลีย์ และคุณสามารถเรียกผมว่าเกรกได้เลยครับ”
สาวสวยมองเห็นรอยยิ้มที่จริงใจของเขา ผมบลอนด์เข้มตาสีฟ้าดูหล่อเหลาสะกดใจ
“ได้ค่ะ เกรก ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งค่ะ” เธอยิ้มกว้างออกมาจากใจจริงมากกว่าครั้งไหนในการนัดบอดของคุณนายโอลิเวีย
ไรลีย์นั่งอยู่ตรงนั้นท่ามกลางแสงไฟสลัวแต่เฟรดเดอริกยังมองเห็นเธอ สาวน้อยร่างสูงโปร่งอ้อนแอ้นภายใต้ชุดดินเนอร์ค็อกเทลสีขาวตัวสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยสายเสื้อเล็กดั่งเส้นสปาเกตตี รัดรึงพอดีไปกับร่างเพรียวบาง เป็นชุดออกเดทที่ดูสวยงามเหมาะสมอย่างยิ่งถ้าเธอจะมาออกเดทกับเขา แต่ไม่ใช่ ในตอนนี้สาวน้อยกำลังออกเดทกับผู้ชายคนอื่น นัดบอดอีกคนที่คุณแม่ของเธอ โอลิเวีย แมกซ์เวลล์ พยายามจับคู่เธอกับชายหนุ่มมากมายมาหลายปี เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ในเมืองต่างพากันพูดถึง
ไรลีย์ เธอจะรู้ไหมว่าเพียงแค่สาวน้อยจรดปลายเท้าเข้ามายังถิ่นของเขา โรงแรมโทมัสพาเลซหรือโรงแรมในเครืออื่น ๆ ที่เขาเป็นเจ้าของ จะมีเสียงกระซิบกระซาบในหมู่พนักงานจากระดับล่างขึ้นไปสู่ระดับบนภายในระยะเวลาไม่กี่นาที และจะมาถึงหูเขาโดยที่เธอยังไม่ทันได้กระพริบตา และนั่นทำให้ชายหนุ่มสาวเท้ายาว ๆ มาถึงหน้าร้านอาหารเม็กซิกันทันได้เห็นเธอหย่อนสะโพกงอนงามลงตรงโต๊ะข้างหน้าต่างตัวในสุด
เกรกสัน โพลแมน ชายหนุ่มคนนี้ดูดีที่สุดเท่าที่เขาเห็นหญิงสาวออกเดทมา มาดสุภาพบุรุษโดยแท้จริง หล่อเหลาผมบลอนด์ เฟรดเดอริกรู้จักผู้คนระดับสูงแทบทุกคนที่ย่างเท้าเข้ามาในถิ่นมหานครลาสเวกัส มันเป็นหน้าที่ที่ต้องตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเหล่านั้นมาเพื่อหวังดีหรือหวังร้าย ชายหนุ่มคนนี้ต้องการลงทุนทำธุรกิจที่เมืองนี้และไม่พ้นต้องมากู้เงินธนาคารโทมัส
ขณะที่สายตาสีเขียวมืดลงเพราะกำลังพินิจพิเคราะห์ลักษณะชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามไรลีย์ เฟรดเดอริกก็เห็นเธอยิ้ม!
ให้ตายเถอะ! ไรลีย์ยิ้มกว้างอย่างที่เฟรดเดอริกอยากให้เธอยิ้มให้เขา หญิงสาวสวยจนน่าตะลึงลานใต้ความสลัวของแสงไฟ ผมสีดำสนิทรวบตึงเช่นเคย ร่างสูงได้แต่จินตนาการเอาว่าผมดำที่รวบตึงเสมอจะหยักลอนเล็กน้อยดกหนาหรือเหยียดตรง เพราะไรลีย์ไม่เคยปล่อยผมเมื่ออยู่ข้างนอก เหมือนกับใบหน้าที่ไม่เคยยิ้ม
แต่วันนี้สาวน้อยเอเชียกำลังยิ้มให้กับชายหนุ่มแปลกหน้านัดบอดที่เจอครั้งแรกตรงข้ามโต๊ะ ราวกับคนรู้จักกันมาเนิ่นนาน และเฟรดเดอริกอิจฉาคนที่ได้รับรอยยิ้มของเธอไป เปลวไฟหึงหวงเริ่มลามอยู่ในทรวงอก อัดแน่น แต่เขาจะทำให้แน่ใจว่ายังอยู่ในขีดแห่งความควบคุมที่ฝึกฝนมาตั้งแต่วัยเยาว์
บริกรนำอาหารโต๊ะของไรลีย์มาเสิร์ฟแล้ว เฟรดเดอริกเห็นประกายความสุขขึ้นมาแวบหนึ่งแล้วจางหายไป สาวน้อยผมดำชอบอาหารเม็กซิกันและเขารู้ดี ห้องอาหารดิลิซซิโอโซแห่งนี้ทำขึ้นเพื่อเธอ และเขายังรู้อะไรอีกหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับเธอนับแต่เท้าเรียวยาวเหยียบดินแดนแห่งการพนักเสี่ยงโชค
อาหารที่นี่น่าทานและอร่อยเสมอ ไรลีย์ชื่นชอบมันพอ ๆ กับอาหารไทยที่รสจัดจ้าน วันนี้เธอสั่งทาโก้อาโวคาโดที่หยดซอสเผ็ดเม็กซิกัน ฟิวชันฟูดที่ขึ้นชื่อของดิลิซซิโอโซ ไวน์โรเซ่แห้งให้รสหวานอมขมปร่าเล็กน้อยและมีกลิ่นฉุนของเครื่องเทศ
“คุณโอลิเวียบอกผมว่าคุณมาอยู่ที่เมืองนี้ห้าปีแล้ว คุณคิดว่าเมืองนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“แง่ไหนดีคะ ถ้าคุณจะเจาะเรื่องการลงทุนฉันคิดว่าเมืองนี้ยังมีที่เหลือพอให้คุณเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ประชากรจากทั่วทุกมุมโลกยังฝันใฝ่จะมาเที่ยวที่เมืองนี้ และแน่นอนทุกคนชอบในการเสี่ยงโชค”
“น่าสนใจมากครับ แต่ผมเพียงแค่อยากรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับเมืองนี้ครับลีย์ ถ้าจะให้คุณอยู่ไปตลอดคุณจะชอบไหม”
“อืม...ตอบยากเหมือนกันนะคะ ที่จริงฉันอยู่ที่เมืองไหนก็ได้ค่ะ ฉันไม่เคยเกี่ยง ฉันเป็นคนประเภทปรับตัวให้เข้ากับทุกสิ่งได้ในทุกสถานการณ์” เสียงหวานใสหัวเราะแผ่วเบา
“ผมกำลังสนใจจะลงทุนที่เมืองนี้แต่ผมคิดว่าการลงทุนจะคุ้มค่าหรือเปล่า”
“ถ้าอย่างนั้นคุณไม่ควรถามฉันเรื่องว่าฉันรู้สึกอย่างไรต่อเมืองนี้ คุณควรถามฉันว่าเม็ดเงินของคุณจะได้กลับมาเท่าไรกี่เท่าภายในระยะเวลากี่ปีจะถูกต้องกว่า” รอยยิ้มบนใบหน้างามเผยออกจริงใจ
“ก็เพราะว่าผมอยากให้ผู้ร่วมทุนในชีวิตของผมมีส่วนร่วมในการช่วยผมตัดสินใจน่ะสิครับ”
หญิงสาวมองไปที่เกรกสัน ชายหนุ่มผมบลอนด์หน้าตาดีหล่อเหลา บุคลิกยอดเยี่ยมที่กำลังพูดจาเกี้ยวพาเธออยู่ เขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่สาวคนไหนเห็นต้องตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย คุยเก่งเป็นกันเองและเขาดูแลเธออย่างสุภาพบุรุษ
ในขณะที่ไรลีย์กำลังจะตอบ ดวงตากลมโตพลันเหลือบไปโต๊ะด้านในสุดที่เพิ่งสังเกตเห็น ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสุดเนี้ยบ อย่างผู้ดีที่เธอคาดว่าตัดในห้องเสื้อเฉพาะ ที่ซึ่งมีแต่คนระดับชั้นสูงเท่านั้นมีสิทธิ์ได้รับอนุญาติให้เข้าไปตัดชุด เฟรดเดอริก ดับเบิ้ลยู โทมัส
หญิงสาวอยากสบถคำหยาบออกมาอีกรอบ! ชายหนุ่มร่างใหญ่นั่งอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแล้ว ทำไมเธอไม่เห็นเขา โดยปกติสัญชาตญาณเธอมักจะเฉียบคม ไรลีย์จะรู้สึกได้ก่อนเสมอถ้ามีเขาอยู่ใกล้ๆ ดวงตากลมโตเหลือบมองสังเกต ชายหนุ่มนั่งไขว่ขาจิบไวน์ชั้นดีราคาแพงด้วยท่วงท่าผู้ดีอย่างสมบูรณ์แบบที่ติดตัวเขามาแต่กำเนิด
ไฟในห้องอาหารมืดสลัวแต่เธอรู้ว่าดวงตาของเขาสีอะไร เขียวกระจ่างดั่งท้องทะเล และหากหลงจ้องนานเกินไปอาจทำให้ตกลงไปในห้วงสมุทรจนหาทางขึ้นเพื่อหายใจบนผิวน้ำไม่ทัน
ความหน่วงในช่องท้องหมุนเกลียวขึ้นมาอีกครั้ง ภาพความฝันยังแจ่มชัด ดวงตาสีเขียวหม่นด้วยไฟสวาท มือกร้านที่กำลังจับก้านแก้วไวน์ลูบไล้เธออย่างอ่อนโยน และตอนนี้ไรลีย์รู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลังก่อตัว
“เฮ้ ไรลีย์ คุณยังอยู่กับผมไหม”
เสียงชายหนุ่มดังแทรกเข้ามาในห้วงคำนึง หญิงสาวหันใบหน้าคมงามกลับมามองหนุ่มนัดบอด เกรกสันยิ้มแห้งเล็กน้อย
“ขอโทษนะคะ ฉันแค่ใจลอยไปค่ะ เมื่อกี้ที่คุณถาม ฉันถือว่าเป็นคำชมนะคะ และขอบคุณมากที่คุณอยากจะให้ฉันมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ”
“ผมหมายความมากกว่านั้นคุณเองก็รู้ดี แต่ไม่เป็นไรผมจะค่อยเป็นค่อยไป ถือสะว่าวันนี้เรามาทำความรู้จักกันเบื้องต้น แล้วต่อไปผมจะพยายามพัฒนาความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น หวังว่าคุณคงไม่รังเกียจถ้าผมจะนัดคุณออกมาทานอาหารด้วยกันอีก”
“ยินดีเสมอค่ะ คุณเป็นคนน่ารักมากค่ะเกรก ฉันหวังว่าคุณจะพบสาวสวยที่ชื่นชอบคุณในเมืองนี้นะคะ”
“ผมพบสาวสวยคนนั้นแล้วครับ แต่ผมยังทำให้เธอชอบผมไม่ได้”
เสียงหัวเราะหวานใสดังขึ้นเล็กน้อยชื่นชอบคำพูดตรง ๆ ของเขา เกรกสันเป็นผู้ชายที่ดี แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ชอบเขาไปมากกว่าความรู้สึกเป็นเพื่อน
“วันนี้ฉันสนุกมากค่ะเกรก ฉันยอมรับตรง ๆ ว่าในบรรดานัดบอดของคุณแม่ คุณมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ”
“ขอบคุณมากเลยครับ ฟังแล้วทำเอาผมชื่นใจเสียจริง ๆ”
เกรกสันยกมือทาบอกด้ามหัวใจ ไรลีย์แย้มหัวเราะอีกครั้งกับท่าทางจะเป็นจะตายของเขา
“ฉันยังขอย้ำว่า ขอบคุณจากใจ ฉันสนุกมากจริง ๆ”
“ไม่เป็นไรมิได้ครับ ผมยินดีเสมอ”
“ฉันว่าเราควรกลับกันได้แล้วค่ะ ฉันอยากจะกลับห้องแล้วเพราะวันนี้ฉันเหนื่อยมากเกินไป ฉันขอโทษด้วยนะคะ”
“ได้สิครับ ไม่เป็นปัญหา อย่างไรผมจะนัดทานข้าวกับคุณอีกผมจะติดต่อคุณได้อย่างไรครับ จะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะขอเบอร์ส่วนตัว”
ท่าทางถ่อมตนดูน่าสงสารของเกรกทำให้หญิงสาวเอียงใบหน้าเรียวงามตัดสินใจ ตามปกติไรลีย์ไม่เคยให้เบอร์ส่วนตัวกับใครยกเว้นคนสนิทเท่านั้น เธอเป็นคนโลกส่วนตัวสูงและไม่ชอบให้ใครก็ตามเจาะเข้ามาอยู่ระดับเดียวกับเครือญาติยกเว้นเธอจะอนุญาต
“คุณติดต่อฉันผ่านเลขาส่วนตัวได้เลยค่ะเกรก นั้นรวดเร็วกว่าการได้เบอร์ส่วนตัวของฉันไปเพราะฉันอาจจะไม่รับสาย” เธอบอกเขาไปตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม เพราะเธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
“คุณเป็นผู้หญิงที่สวยมากและใจร้ายมากครับไรลีย์”
เขาทำน้ำเสียงละห้อยจนเธอหัวเราะออกมาอีกครั้ง
“คุณไม่ต้องลงไปส่งฉันก็ได้ค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาเพราะลงลิฟต์ไปก็ถึงโถงต้อนรับ ปกติฉันจะมีคนขับรถให้เสมอไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ”
“คุณขีดเส้นระยะห่างแบบนี้กับทุกคนไหมไรลีย์ ผมรู้สึกว่ากำลังโดนคุณไล่ส่งอย่างไรอย่างนั้น”
“โอ้ ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ตั้งใจให้คุณรู้สึกแบบนั้น เพียงแต่ฉันคิดว่ามันสะดวกและดีกับเราทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณอยากลงไปส่งก็ได้ค่ะ”
น้ำเสียงหญิงสาวจริงใจจนเกรกสันรู้สึกได้ ไรลีย์เพียงแต่ทำไปตามสัญชาตญาณเขารู้ เธอแบ่งเส้นเสมอโอลิเวียเคยเตือนเขาแล้วเรื่องนี้ และเขาจะปล่อยไปก่อน การไปบีบคั้นเธอมาก ๆ อาจทำให้เธออึดอัด
“ได้ครับ เราแยกกันที่นี่เลย ผมไม่อยากทำให้ต้องลำบากใจ เดี๋ยวคุณจะพาลไม่ยอมไปทานข้าวกับผมอีก”
“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจ” ไรลีย์ยิ้มออกมาด้วยความโล่งอก