ตีตรารัก

123.0K · จบแล้ว
นามปากกา แสงเทียน
61
บท
156.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ลูกกวาง…” “คะ...คะ พี่สิงห์มีอะ...อะไรหรือคะ?” “เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร...และฉันเป็นใคร…” “...........” “อย่าใฝ่สูงให้มาก...และแฟนฉันเขาเป็นคนขี้หวง” “ละ...ลูกกวางไม่เข้าใจที่พี่สิงห์พูดค่ะ” “หัดเจียมตัวบ้าง...ที่ไหนควรอยู่!!” “...........” “และฉันไม่ใช่พี่ชายเธอ!!” สิงโต หรือ สิงห์ เหมราช เวชญานันท์ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทนำเข้ารถซูเปอร์คาร์รายเดียวในไทย ส่วนสูง 185 ซม. อายุ 30 ปี หนุ่มหน้าหยก เจ้าสำราญ เพลย์บอยตัวพ่อ ผู้ครองโสดยาวนาน เพราะคบใครไม่เคยยั่งยืน! นิสัยเหมือนจะเป็นคนง่าย ๆ แต่เขาเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ถือตัว ไม่ก้มหัวให้ใคร สนิทก็คุย ไม่ชอบหางตาก็ไม่แล! ลูกกวาง อโณณา เทพสิทธิ์ หญิงสาววัยแรกแย้ม ผู้มีรูปร่างอรชร ใบหน้าสวยหวาน ดวงตากระปุกกลมโต ส่วนสูง 165 ซม. อายุ 22 ปี เรียบจบคณะบัญชี เกียรตินิยมอันดับ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังภาคเหนือ นิสัย พูดน้อย เฉย ๆ ไม่ชอบมีปัญหากับใคร ๆ สั่งอะไรก็ทำ ดื้อเงียบ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันพระเอกเก่ง18+โรแมนติก

บทนำ

เด็กหญิงวัย 10 ขวบ มัดผมเปียสองข้าง สวมเสื้อแขนตุ๊กตาสีขาวคอบัว กระโปรงชีฟองฟู ๆ สีดำ สวมรองเท้าหุ้มส้นสีขาวเรียบ ๆ เธอนั่งอยู่ในศาลาวัด ท่าทีเหม่อลอย ดวงตากระปุกเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา...

“ลูกกวาง...” เธอสูดน้ำมูกเข้าคอ ก่อนจะหันไปยังเสียงที่เรียกเธอ ผู้หญิงสูงวัยที่แต่งตัวดูดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอที่นอนอยู่ในโรงไม้สักอย่างดีเบื้องหน้า...

“ฮึกกก ฮือออ” เธอจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาเจ้านายพ่อ...ท่านนั่งลงบนพื้นใกล้ ๆ ก่อนจะอ้าแขนออกและโอบกอดเธอไว้อย่างแนบแน่น 

ความโหยหาร่างกายมารดาทำให้ร่างเล็กซุกเข้าหาไออุ่นจากร่างกายผู้หญิงตรงหน้า คนที่เธอคุยนับครั้งได้ มือเรียวยกขึ้นลูบศีรษะทุยเบา ๆ 

“แม่ไปสบายแล้วนะลูกกวาง...” เธอส่ายหัวไม่ยอมรับในคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า แต่ก็ไม่ยอมปล่อยกอดเธอออก

วาจาเอ่ยกล่อมปลอบประโลมเด็กสาวไม่ให้ร้องไห้ แต่นั่นกลับทำให้เด็กในอ้อมกอดยิ่งร้องหนักกว่าเดิมอีก…เธอหันไปมองหน้าลูกชายคนเดียวที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ กายเธอ

“สิงห์ลูก...มานั่งข้างแม่สิ” เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี คุกเข่าลงข้างแม่อย่างว่าง่าย

“น้องชื่อลูกกวาง...ลูกสาวคนเดียวของลุงกนก” 

“ครับ” 

‘ลุงกนก’ ผู้เป็นเพื่อนสนิทและเลขาคนเดียวที่พ่อไว้ใจที่สุด ด้วยเขาทั้งคู่ทำงานร่วมกันมากว่าครึ่งค่อนชีวิต ตั้งแต่เริ่มกิจการ...จนตอนนี้มันเติบใหญ่แผ่ขยายสาขาไปทั่วแล้ว

ดวงตาคมสอดส่องมองไปทั่วงาน...อีกมุมเห็นพ่อนั่งตบบ่าเพื่อนสนิทที่น้ำตาไหลอยู่ที่มุมข้าง ๆ โลงไม้สัก สองขายาวก้าวเข้าไปหยุดยืนอยู่หน้ารูปที่แขวนด้วยพวงมาลัยที่ถักร้อยไว้อย่างสวยงาม...

‘อณณา เทพสิทธิ์’ ร่างสูงถอนหายใจออกมา...เขาไม่ชอบการจากลา ก่อนจะมองกลับไปยังเด็กผู้หญิงผมเปียที่นั่งร้องไห้ไม่หยุดอยู่ตรงนั้น

“หยุดร้อง...ร้องไปแม่เธอก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก” เขายื่นผ้าเช็ดหน้าที่พกไว้ในเสื้อสูทส่งให้

“..........” ดวงตากระปุกกลมโต เงยหน้ามองเขาผ่านม่านน้ำตา...เด็กหนุ่มตรงหน้าเห็นแล้วก็ใจกระตุกวูบ

“ลูกกวางรู้...ฮึกกก แม่จะไม่ฟื้นแล้ว แต่ลูกกวางเสียใจนี่คะ แม่ไม่อยู่แล้ว...ฮึกกก ไม่มีแม่อีกแล้ว” 

“..........” ไหล่บางสั่นสะท้าน มือเล็กยกขึ้นไปเช็ดน้ำตาตัวเองปรอย ๆ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรจึงขยับเข้าใกล้ร่างเล็กที่เอาแต่ร้องไห้โยเย แต่ไม่ได้ส่งเสียงดังแต่อย่างใด

“แม่ฉันไปคุยเรื่องงานแม่เธอ...และฉันก็ปลอบคนไม่เป็น แต่เธอยืมอกฉันได้ ฉันให้ยืม...” เขากางมือออกข้างหนึ่ง...เธอเห็นเช่นนั้นก็พุ่งเข้าซุกใบหน้าเล็ก ๆ เข้าที่อกเขา 

ดวงตาคมก้มมองเด็กผู้หญิงที่หลับไปในอ้อมกอด...เขามองไปด้านหลังลุงกนกเดินมาขอบตาแดงเถือก เขาค้อมหัวและสบตามองลุงเพียงเล็กน้อย

“ขอบคุณ คุณสิงห์มาก...ที่ไม่รังเกียจน้อง” ลุงกนกค่อย ๆ สอดมือเข้ามารับร่างเธอไปจากอกเขา 

เขาถอนหายใจออกมา...แม่กับพ่อคุยกับเขาก่อนออกเดินทางมาที่นี่ว่าจะรับ ‘ลูกกวาง’ ไปอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยการอุปการะของแม่เขา...

“ก็อย่างที่คุยกันไว้...ถ้าเธอใช้ ‘เทพสิทธิ์’ ผมก็ไม่ได้ติดอะไร” กนกหน้าม้านไป เพราะรู้ว่าเด็กชายตรงหน้าเป็นคนเข้าถึงยาก และถือตัวแค่ไหน 

“มันจะเป็นแบบนั้นครับ...ผมกับลูกเรารู้ว่าควรจะยืนอยู่ตรงไหน”