8 - ไม่ใช่น้องสาว
ไม่ใช่น้องสาว
ตกเย็น
“หาววว...คุณกิตติ์!!!”
หญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างจากหาวเพราะกำลังตื่นนอน กลับต้องเบิกตากว้างตกใจรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไวพร้อมกับร้องเสียงออกมา เมื่อเห็นว่าข้างกายของเธอนั้นมีร่างแกร่งนอนจ้องมองมาเธออยู่แล้ว
“ก็ฉันนะสิ เธอเห็นเป็นใครล่ะ” ปกรณ์กิตติ์ได้แต่ลุกขึ้นนั่งตาม แล้วยังคงนั่งจ้องมองเธอด้วยท่าทีที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ก่อนที่จะเอ่ยตอบด้วยวาจาที่กวนชวนให้เธอโมโห
“นี่คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไงกันคุณกิตติ์” หญิงสาวยิงคำถามใส่เขาออกไปด้วยใบหน้าที่งุนงง เพราะเธอตกใจไม่น้อยที่เห็นเขาอยู่ที่นี่ในห้องของเธอ เขาเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนแล้วทำไมเขาถึงเข้ามาที่ห้องของเธอได้ แถมยังจะมานอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับเธออีก ทั้ง ๆ ที่ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยคิดที่จะย่างกรายเข้ามาเหยียบในพื้นที่ตรงนี้เลยสักครั้ง ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ห้องนี้เขาก้ไม่เคยได้เข้ามา
“นี่เธอลืมไปแล้วหรือยังไง ว่าบ้านหลังนี้มันเป็นบ้านของใคร ยัยแป้งเน่า” เขาถามเธอกลับไปบ้าง
แถมยังยื่นใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้ ๆ กันกับใบหน้าของเธออีก จนศิรดาต้องเอียงหน้าหนีหลบไปทางอื่น และก็ต้องนอนราบลงไปกับที่นอนอีกครั้ง เมื่อดันเข้ามาประตัวแล้วร่างแกร่งก็ตามมาทาบทับเธอไว้
“ทะ ทำอะไร” เธอถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะกำลังรู้สึกประหม่าที่ถูกเขาจู่โจมเธอออกมาแบบนี้
“อยู่เฉย ๆ ฉันแค่จะแตะดูว่าตัวเธอร้อนมีไข้ขึ้นอีกหรือเปล่า ก็แค่นั้นเอง” ปกรณ์กิตติ์ยื่นมือขึ้นไปแตะที่่หน้าผากมนของเธอ และแตะสลับกับหน้าผากของตัวเขาเอง เพื่อเป็นการเทียบอุณหภูมิในร่างกายเธอ
“...” ศิรดาเอาแต่เม้มปากแน่น มองดูการกระทำของเขาที่ปฏิบัติต่อเธอในตอนนี้ มันช่างอ่อนโยนเสียเหลือเกิน ทำเอาใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ
“ตัวก็ไม่ได้ร้อนแล้วนะ แต่ทำไมหน้าเธอถึงได้แดงขนาดนี้” ปกรณ์กิตติ์เอ่ยแซวขึ้นมา เมื่อเห็นท่าทีที่นิ่งไปของเธอ
“ก็ อื้อ...”
ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยประท้วงอะไรขึ้น ปากหยักก็ก้มลงมาประกบจูบปิดปากของเธอเข้าเสียแล้ว และเธอเองก็ยอมเผยอปากขึ้นรับจูบจากเขาอย่างรู้งาน โดยที่ไม่ต้องรอให้เขาบอก
“อื้ม...” เสียงครางสุขสมเปล่งอยู่ในลำคอของคนเหนือร่างอย่างพึงพอใจ เมื่อได้เข้าไปกวาดชิมความหวานจากโพรงปากนุ่มนี้อีกครั้ง
จนกระทั่ง!!!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ทำให้จูบแสนหวังของทั้งคู่ต้องชะงักลงไม่เป็นท่า และปกรณ์กิตติ์ก็ยอมผละจูบออกอย่างแสนเสียดาย ทั้งคู่หันไปมองที่ทางประตูพร้อมกัน
“แป้ง...ตื่นหรือยัง? ลุงทัศน์แกให้มาตามลงไปกินข้าวพร้อมกัน” เป็นเสียงของปิ่นมุกที่ดังเข้ามาจากทางด้านนอกห้อง
“ตะ ตื่นแล้วปิ่น กำลังจะอาบน้ำ ปิ่นบอกลุงทัศน์ให้กินไปก่อนได้เลยนะไม่ต้องรอ เดี๋ยวเสร็จแล้วเราจะตามลงไปทีหลังนะ” ศิรดาตะโกนบอกออกไปกับคนที่อยู่ด้านนอก
“...” ปกรณ์กิตติ์ไม่พูดอะไร แต่กับจ้องมองคนใต้ร่างที่กำลังเลิกลั่กทำตัวไม่ถูกอย่างนึกชอบใจ เธอเป็นแบบนี้แล้วดูเป็นสาวน้อยผู้น่ารักขึ้นมาทันที
“มะ มองทำไม ลุกออกไปได้แล้ว เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาเห็นหรอก ว่าคุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉัน” เธอดันอกแกร่งเอาไว้ แล้วบอกให้เขาลุกออกไปจากตัวเธอ
นอกจากปกรณ์กิตติ์ยังไม่ยอมทำตามที่เธอบอกแล้ว เขายังตีมึนจับมือของเธอไปสัมผัสที่เป้าของเขา ที่ตอนนี้ตัวตนกำลังพองขยายอยู่ภายใต้กางเกงบอกเซอร์เนื้อดีที่เขานุ่งเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยขอเธอออกไปตามตรง แบบไม่สนแล้วว่าเธอจะมองเขาเป็นคนแบบไหน
“สักรอบก่อนได้หรือเปล่าแป้ง ตอนนี้มันแข็งแล้ว” เสียงกระเส่าเอ่ยขึ้นราวพร้อมกับสายตาที่จ้องมองหน้าเธอด้วยความปรารถนา
“นี่คุณ...จะบ้าหรือไง” ศิรดาเบิกตากว้าง ต่อว่าเขาออกไปทันที คนอะไรหื่นกามได้ตลอดเวลา
“ใช่! ฉันมันบ้าไปแล้วแป้ง” เขายอมรับออกไปตามตรง เพราะเขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ หลังจากที่คืนนั้นเขามีความสัมพันธ์กับเธอ ร่างกายของเขาก็เอาแต่เรียกร้องหาอยู่ตลอดเวลา
“คุณไปตายอดตายอยากมาจากไหนกัน ทำไมถึงได้หื่นขนาดนี้” ศิรดายังคงต่อว่าเขาออกมา
“เพราะเธอนั่นแหละแป้ง”
“ฉัน?” เธอได้แต่เลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ ที่เขาบอกว่าเธอเป็นสาเหตุให้เขาต้องเป็นแบบนี้ แล้วเธอไปทำอะไรให้ ทำไมเขาต้องมาโทษแต่เธอ
“ฉันยอมรับนะ ว่าเมื่อก่อนฉันก็ไม่เป็นคนติดเซ็กส์ถึงขนาดนี้ แต่พอฉันมีอะไรกับเธอตั้งแต่คืนนั้น ร่างกายของฉันมันก็มีแต่ความต้องการอยู่ตลอดเวลาที่เห็นหน้าเธอ เพราะฉะนั้น เธอต้องรับผิดชอบฉันนะแป้ง” เขายอมบอกเธอออกไปตามตรง โดยไม่กลัวที่่จะอายอะไรแล้ว เพราะเขามีความต้องการมากจริง เมื่ออยู่ใกล้กับเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสดใส หรือว่าจาการห่างหายไปนาน ถึงทำให้เขาติดรสเซ็กส์ได้มากถึงเพียงนี้ เขาถึงต้องอยากพิสูจน์ตัวเขาเองว่าสิ่งที่เขาต้องการนี้คืออะไรกันแน่
“ระ รับผิดชอบอะไร”
“นอนกับฉัน ให้ฉันเอาเมื่อไหร่ก็ได้เท่าที่ฉันต้องการ” เขาพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการให้เธอฟังออกไปทันที
“บ้าไปแล้วหรือไงคุณกิตติ์ คุณไม่ทำการทำงานบ้างหรือไง ในสมองถึงเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องพวกนี้ อีกอย่างฉันว่าเราควรยุติเรื่องราวทุกอย่างลงเพียงเท่านี้จะดีกว่านะคุณกิตติ์”
ศิรดาที่ได้ยินดังนั้น ก็เอาแต่ต่อว่าเขาออกไปเสียยกใหญ่ แล้วเธอจึงบอกถึงความต้องการของเธอบ้าง เพราะเธอไม่อยากเป็นคนที่ไม่รู้บุญคุณคน
“ทำไมล่ะแป้ง” เขาถามอย่างตัดพ้อ ที่เธอกำลังจะขอยุติความสัมพันธ์ทางกายนี้ลง
“เพราะฉันเป็นลูกบุญธรรมของพ่อคุณไงคุณกิตติ์”
“ลูกบุญธรรมบ้าบออะไรว่ะ เอกสารเซ็นรับรองบุตรอะไรก็ไม่มีสักอย่าง มันเป็นเพียงแค่ลมปากที่มาจากปากของพ่อฉันเพียงคนเดียวแค่นั้นแหละ เพราะฉันเองไม่เคยเห็นด้วยที่จะเอาเธอมาเป็นน้องบุญธรรมตั้งแต่แรกแล้วไหม” เขาสวนเธอขึ้นมาทันควัน เพราะเขาเองไม่เคยยอมรับเธอเป็นน้องสาวบุญธรรมตั้งแต่แรกแล้ว และอีกอย่างเขาและเธอก็ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน คงไม่ผิดที่เขาจะมีอะไรกับเธอ เขายอมรับว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะว่าเขาต้องการร่างกายของเธอจริง
“ไม่ให้เป็นน้องบุญธรรม แล้วคุณจะให้ฉันเป็นอะไรสำหรับคุณล่ะ คุณกิตติ์” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“เป็น? เอ่อ เป็น? จ๊วบบบบ”
ปกรณ์กิตติ์ได้แต่อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก จึงได้ตัดสินใจก้มลงประกบจูบปากนุ่มของเธอในทันที เพราะไม่ชอบใจเอาเสียเลย ที่เธอชอบพูดแต่คำเดิม ๆ ประโยคเดิม ๆ ที่เขาไม่ค่อยอยากได้ยินมันนัก
“เป็นอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่น้องสาวของฉัน” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นราวกับกระซิบ
“คุณกิตติ์...”
ปากหยักก้มลงประกบจูบปากของเธออีกครั้ง จนทั้งคู่ไม่อาจจะต้านความต้องการ ความโหยหาของกันและกันได้อีด กระทั่งบทเพลงรักก็เริ่มขึ้นในเวลาต่อมา...
