บท
ตั้งค่า

1 - น้องบุญธรรม

น้องบุญธรรม

ร่างบางของหญิงสาวที่หลับอยู่บนเตียงกว้างภายในกระท่อมไม้หลังงาม ที่ภายด้านในตกแต่งอย่างหรูหราราวกับว่าเป็นบ้านพักชั้นดีนี้เอง ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนผลไม้ เธอกำลังเปิดเปลือกตาขึ้นมาช้า ๆ ในช่วงมืดของวัน กลับได้ยินเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรร้อง พระอาทิตย์ก็คงจะลับขอบฟ้าไปนานแล้ว เพราะภายในห้องมีเพียงแสงสว่างจากหลอดไฟเท่านั้น

นี่เธอเผลอหลับลงไปตั้งแต่ตอนไหนอีก จำได้ว่าเธอเองก็ตื่นขึ้นมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ทำไมเธอถึงหลับลงไปอีกได้ล่ะ เธอกวาดสายตามองไปยังรอบ ๆ ห้องสีเหลี่ยมก็พบเพียงชายหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา ซึ่งสายตาคมก็กำลังจับจ้องมองมาทางเธออยู่เช่นกัน

“อยากจะถามอะไรก็ถามมาเถอะ จ้องอยู่แบบนั้นฉันไม่รู้เรื่องหรอกนะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นมา เมื่อหญิงสาวเอาแต่จ้องมองหน้าเขาราวกับว่าสงสัยเหหมือนมีความนัยอะไรอยากจะถาม

ปกรณ์กิตติ์ ณรงค์สิทธิเดช หรือ กิตติ์ หนุ่มโสดวัย 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของสวนผลไม้ทางภาคตะวันออกของประเทศ ที่รับช่วงสืบทอดมรดกและได้รับดูแลต่อมาจากบิดาเพราะเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว

“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?” เธอจึงตัดสินใจถามเขาออกไป เพราะไม่รู้ว่าควรจะถามอะไร แค่ตื่นขึ้นมาแล้วมีความผิดปกติของร่างกายก็รู้สึกอายจะแย่อยู่แล้ว ที่เผลอตัวปล่อยใจยอมมอบความเป็นสาวทอดกายให้กับเขาเชยชม เขาที่ได้ครั้งแรกของเธอไปครอบครอง

ศิรดา ภมรเดช หรือ แป้ง หญิงสาวกำพร้าวัย 23 ปี เป็นลูกสาวบุญธรรมของเจ้าของสวนผลไม้แห่งนี้ เพราะบิดาที่เป็นเลี้ยงดูมา และเป็นสายเลือดเพียงคนเดียวที่ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็ก

“สี่ทุ่ม” เขาตอบกลับเพียงแค่นั้น ก็หันมาสนใจเอกสารกองโตบนโต๊ะของตัวเองต่อ เพราะว่ามัวแต่ดูแลคนป่วย จนเมื่อตอนกลางวันของวันนี้ พนักงานของเขาไม่ได้ทำงานส่งเอกสารมาให้เลย

และหน้าที่ด้านเอกสารการเงินเรื่องเบิกจ่ายต่าง ๆ ภายในสวนแห่งนี้ ก็เป็นหน้าที่ของศิรดา ส่วนเขานั้นมีหน้าที่แค่เซ็นอนุมัติตรวจตราเท่านั้น แต่วันนี้เขากลับต้องไปหอบเอาเอกสารมานั่งทำแทนเธอ เพราะใกล้จะถึงวันเบิกจ่ายเงินเดือนต้องรีบทำให้แล้วเสร็จ

“ห๊า สี่ทุ่มแล้วเหรอ?” เธอจึงดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับเบิกตากว้างร้องถามเสียงหลงทันที ที่เขาบอกเวลาออกมา เพราะเธอไม่คิดว่าตัวเองจะหลับลึกไปนานขนาดนั้น

“อืม...” หนุ่มเจ้าของสวนได้แต่พยักหน้ารับเป็นคำตอบ และก็ยังคงสนใจงานกองโตตรงหน้าของเขาต่อ โดยไม่สนใจเธออีก

ศิรดาได้แต่กวาดสายตามองบริเวณรอบ ๆ ห้องนอนห้องนี้อีกครั้ง และสำรวจมองที่กายของเธอกลับมีเสื้อผ้าหุ้มกายอยู่ซึ่งก็น่าจะเป็นฝีมือของเขาที่สวมใส่ให้เธอ และกำลังจะก้าวขาลงจากเตียงกับก็ต้อง

“ซี๊ด...เจ็บชะมัดเลย คะ คุณจะทำอะไรฉันอีกหรือเปล่าคุณกิตติ์”

เธอกลับต้องร้องสูดปากออกมา เพราะความเจ็บแสบตรงกลางกายสาว ที่ถูกเขาตักตวงมาตลอดทั้งคืน จนทำเอาเธอหลับสลบจมพิษไข้กันเลยทีเดียว แถมตอนนี้เขายังยื่นใบหน้าหล่อเข้ามาใกล้กับเธออีก จนใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ

“คิดว่าฉันควรจะทำอะไรกับเธออีกดีละยัยแป้งเน่า มาให้ฉันรีดน้ำออกตลอดทั้งคืนแล้ว แถมยังจะมาป่วยให้ฉันดูแลอีก จนฉันต้องไปหอบเอาเอกสารที่ห้องเธอมาทำเอง แล้วยังต้องเอาข้าวเอาน้ำมาหาส่งให้อีก เธอว่าฉันควรจะทำอะไรกับเธออีกดี” เขาพูดราวกับว่าตอนนี้นั้นเธอติดหนี้บุญคุณเขาอยู่

“บะ บ้าหรือเปล่า ฉันเป็นน้องของคุณนะ” เธอรีบหลบสายตาคมของเขา เมื่อเจอกับสายตาที่มองเธออย่างมีเลศนัยนี้

“ฉันเป็นลูกคนเดียว และฉันก็ไม่เคยคิดว่าเธอเป็นน้องสาวของฉันด้วย ถึงพ่อฉันจะรับเธอเป็นลูกบุญธรรมก็ตาม” เขาตอกกลับเธอออกไปทันที เพราะนับตั้งแต่ที่บิดาของเขารับเธอเป็นลูกบุญธรรม เขาก็ไม่เคยยอมรับว่าเธอเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขาเลย ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม

“...” ศิรดาไม่พูดอะไร เอาแต่มองหน้าของเขานิ่ง

“มองอะไร” ปกรณ์กิตติ์จึงตัดสินใจถามเธอออกไป เมื่อเธอเอาแต่คอยจ้องหน้าเขา โดยที่ไม่ยอมปริปากพูดหรือถามอะไรออกมา

“ฉันอยากเข้าห้องน้ำ”

ถึงแม้ว่าเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาอยู่ในลำคอ แต่ก็พอทำให้ปกรณ์กิตติ์นั้นได้ยินชัดทุกถ้อยคำที่เธอเอ่ยออกมา

“ก็ไปสิ”

“ถ้าเดินไหว ก็ลุกไปแล้ว...” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มโมโหใส่เขา

เมื่อพอจะเข้าใจว่าศิรดาเป็นอะไร เขาจึงช้อนอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยวาจาที่ดูเหน็บแนมเธอ

“ลำบากฉันอีกตามเคย ทำไมไม่เก่งเหมือนปากเลย” บ่นให้คนในอ้อนแขน แต่ก็ยอมอุ้มเธอไปส่งที่ห้องน้ำอยู่ดี

“แล้วใครเป็นคนทำละ” เธอก็บ่นต่อปากต่อคำกลับใส่เขาอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

“เธอเป็นคนมาหาฉัน มานอนกับฉันเองนะยัยแป้งเน่า” เขาวางเธอลง แต่ก็ยังพูดใส่เธอ ไม่ยอมออกไปจากห้องน้ำเหมือนกัน

“แต่ฉันไม่ได้อยากนอนกับคุณสักหน่อย ออกไปสิฉันจะฉี่” เธอต่อว่าเอ่ยปากไล่เขาให้ออกไปจากห้องน้ำ เพราะต้องการจัดการกับตัวเอง

“จะอายอะไร ฉันเห็นมาหมดแล้ว แถมยังทำมากกว่าเห็นด้วย” เขายังคงพูดจาใส่เธอแบบหน้าไม่อาย แถมยังใช้สายตามองรรร่างกายเธออย่างแทะโลมอีก

“ไอ้...”

ศิรดาไม่รู้จะสันหาคำไหนมาต่อว่าคนหน้ามึนแบบเขาดี และกำลังจะอ้าปากพ่นคำหยาบออกมา ก็ต้องหุบฉับ เพราะเจอสายตาของปกรณ์กิตติ์ที่มองขู่เธอ

“ไอ้อะไร พูดดี ๆ นะ ไม่งั้นฉันจับเธอกระแทกตรงนี้แน่” เขาชี้หน้าคาดโทษเธอเอาไว้ทันที เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะพ่นคำด่าออกมา

“ขอบคุณที่อุ้มมาส่ง คุณออกไปได้แล้ว ฉัน...” เธอจึงยอมพูดจาดี ๆ กับเขา และบอกให้เขาออกไปจากตรงนี้

“เสร็จแล้ว ถ้าเดินไม่ไหวก็ให้เรียกเดี๋ยวจะล้มหัวฟาดพื้นเอา ลำบากฉันอีก” ปกรณ์กิตติ์พูดแล้ว ก็เดินออกไปทันที แถมยังดึงประตูมาปิดให้เธออีกด้วย

ปกรณ์กิตติ์เดินไปนั่งทำงานต่อที่โต๊ะ แต่ครั้งนี้เขากลับไม่มีสมาธิในการทำงานเอาเสียเลย เพราะสายตาคอยแต่จับจ้องไปที่บานประตูห้องน้ำ สลับกับปิ่นโตบนโต๊ะที่เขาเอามาที่บ้านเมื่อตอนเย็น ซึ่งยังไม่ได้ถูกเปิดออกเลย เพราะเขารอทานพร้อมกันกับเธอ และคืนนี้เขากับเธอก็คงจะต้องค้างที่นี่กันต่ออีกสักคืน เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel