บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 หาความสำราญ

ผิงถิงก้าวเดินเข้ามาในบ้านสกุลจาง วันนี้เป็นวันเกิดของฟูเหรินเจ้าเมืองอู่เซียว ผิงถิงเองเป็นธิดาท่านอำมาตย์แห่งแคว้นอวี้ จึงมีผู้คนเข้ามาทักทาย ฟูเหรินเจ้าเมืองอู่เซียวจึงก้าวเข้ามาพูดคุยกับผิงถิง

“ผิงถิงไม่ได้เจอกันตั้งนาน สบายดีไหม”

“ดีอยู่” ผิงถิงเอ่ยคำ ทว่าฟูเหรินอีกคนเดินเข้ามาเอ่ยคำ

“แหม่ ลูกใต้เท้ากงซุน วางท่าผู้ดี ทั้งที่แม่ของเจ้าเป็นเพียงหญิงคณิกา”

เมื่อนางพูดเช่นนี้ ผิงถิงกำหมัดแน่น นางเป็นถึงลูกสาวอำมาตย์ ต้องรักษากิริยาไม่ให้ใครดูถูกฟู่จวินได้ว่า นางพูดแค่นี้ต้องวิวาทด้วยหรือ

“เสี่ยวเซียน ทำไมเจ้าไม่ไว้หน้าท่านอำมาตย์ และข้าด้วยถึงอย่างไรผิงถิงก็คือแขกของข้า” ฟูเหรินเจ้าของจวนว่าแทนนาง

“ทำไมฟูเหรินถึงพูดเช่นนี้” เยี่ยลี่เอ่ยด้วยความโมโห แล้วจะก้าวเท้าไปสั่งสองนาง แต่ผิงถึงกลับจับมือนางไว้

“เป็นเพียงบ่าวรักใช้ ยังกล้าถึงเพียงนี้” เสี่ยวเซียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยิ่งทนงตน

“พอเถอะ” เพื่อนของนางที่เป็นฟูเหรินห้ามไม่ให้พูดต่อ

“เหนียงเหนียง อย่ามาห้ามข้า ถึงอย่างไรนางก็ลูกของผู้หญิงชั้นต่ำเมื่อเทียบกับข้าแล้ว…”

ไม่ทันที่นางกล่าวจบ ชายหนุ่มผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมา

“หญิงคณิกาแห่งหอหลงเซียว”

ชายหนุ่มพูดเช่นนี้ ทำให้ทุกคนหันไปหา ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าที่สบสายพระเนตรที่มองมาทางเสี่ยวเซียนที่ต่อว่าผิงถิงเมื่อสักครู่ ผิงถิงจึงเห็นว่าเป็น

“ไท่ฟู่!”

ไท่ฟู่ทรงโอบไหล่เสี่ยวเซียน อีกทั้งทรงแย้มพระโอษฐ์ ทอดพระเนตรใบหูของนาง ที่ไม่กล้าสบพระเนตร ทว่าทรงตรัสให้นางผู้นี้อับอายธารกำนัล

“เมื่อปีก่อน เจ้ายังเย้ายวน หว่านเสน่ห์ ให้ข้าร่วมห้องนอนกับเจ้า บัดนี้เป็นเพียงฟูเหริน ไม่ใช่ฟู่หินธรรมดา แต่เป็นเพียงฟูเหรินรองของใต้เท้าหย่ง ไม่ใช่ฟูเหรินเอกของใต้เท้าหย่งด้วยซ้ำ หญิงที่เจ้าหลู่เกียรตินั้น นางมีศักดิ์เป็นเม่ยเมยของหวางเฟยของหยางจง หวางเย่ ข้าว่าต้องไปพบใต้เท้าหย่งให้สอนเรื่องลำดับชนชั้นญาติและมารยาทให้เจ้าเสียหน่อยคงจะดีไม่น้อย” ไท่ฟู่ทรงตรัสด้วยสุรเสียงเรียบเฉย เสี่ยวเซียนคุกเข่าด้วยความหวาดกลัวแล้วใช้ฝ่ามือตบปากตนหลายที แล้วกล่าว

“ไท่ฟู่ข้าจะไม่พูดเช่นนี้อีกแล้ว ท่านอย่ารายงานใต้เท้าหย่งเลยเจ้าค่ะ” เสี่ยวเซียนพูดทั้งๆ ที่ตบหน้าตนเอง

“ข้าพึ่งกลับมาจากสนามรบ พอข้ามาหาความสำราญหน่อย กับมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำเอาข้าหมดความสำราญจริงๆ จื่อลั่วเจ้าไปบอกใต้เท้าจางที ข้าขอตัวกลับก่อน” ไท่ฟู่ทรงตรัสเช่นนี้ แล้วจึงทรงเสด็จไปจากตรงนั้นทันที ผิงถิงอยากจะกล่าวขอบคุณ แต่ว่าทรงเสด็จไปเสียแล้ว

หยางเยว่หัวไท่ฟู่ ทรงพระดำเนินก้าวย่างพระบาทเข้าตำหนัก แล้วจึงทรงนั่งลงบนตั่ง นางกำนัลคนหนึ่งเดินเข้ามาถวายชาให้พระองค์ แล้วจึงก้าวเดินออกไป นายกองจื่อลั่วนั่งลงตรงข้ามรินนำชาจากกาให้ตนเอง แล้วจึงเอ่ยถามพระองค์ ขณะที่กำลังกรุ่นคิดอะไรสักอย่างที่ตนเองก็ไม่รู้

“ไท่ฟู่ทรงดำริสิ่งใดหรือขอรับ”

“ไม่มีอะไร” ทรงตรัสแล้วจึงเสวยพระสุธารสชากลิ่นดอกท้อ แล้วทรงวาง จื่อลั่วเอ่ยในสิ่งที่ตนสงสัยในวันนี้ทันที

“เหตุใดพระองค์จึงช่วยคุณหนูสกุลกงซุน”

“แค่ข้าเห็นว่าสิ่งที่นางผู้นั้นพูดในที่รโหฐานเช่นนั้น มันดูไม่ถูกต้อง และไม่ควรอย่างยิ่งที่หลู่เกียรติหญิงผู้หญิงที่ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย” ทรงตรัสด้วยสุรเสียงเรียบเฉย

“หรือว่ายังทรงรักกงซุนหวางเฟยอยู่”

“จื่อลั่ว เจ้าโตมากับข้า เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนเช่นไร ข้าเดินหน้าแล้วไม่หวนกลับ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม”

“แต่ก็ยังแปลกใจที่พระองค์ ไม่สนใจเรื่องของผู้อื่น แต่ท่านแก้ต่างให้นางอย่างไม่เคยทำ แม้กระทั่งหวางเฟย พระองค์ก็ไม่เคยเป็นเช่นนี้ หรือว่าจูบครั้งนั้น” จื่อลั่วเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย ไท่ฟู่จึงเอาตำราที่อยู่บนโต๊ะตีลงบนหัวของเขา จื่อลั่วร้องด้วยความเจ็บ

“ข้าเจ็บนะ ขอรับ”

“เจ้าไปได้แล้ว ข้าจะพักผ่อน”

“ขอรับ ขอรับ ข้าไปแล้ว” จื่อลั่วเดินออกไป ยังหันกลับไปมอง เห็นว่าพระองค์ทรงอ่านม้วนตำราเสียแล้ว

หลังจากกลับมาจากจวนสกุลจางได้ห้าวัน พิงถิงเอาแต่ทำอาหาร นำข้าวมาให้ฟู่จวินทาน และอ่านหนังสือให้ท่านฟัง บางครั้งก็นั่งริมสระน้ำกลางสวนเพียงลำพัง บางคืนนางจะนอนไม่ค่อยหลับจึงออกมาเดินเล่น จนวันนี้นางอาหารและนำมาให้ฟู่จวินกิน ฟู่จวินสังเกตุได้ว่านางกินเพียงคำแล้ววางช้อน ก็ไม่ยอมกิน ฟู่จวินจึงเอ่ยถามนาง

“ไม่กินอีกหรือ เจ้ากินเพียงคำเดียว”

“ข้าไม่หิวท่านกินเถอะ เดี๋ยวข้ามา” ผิงถิงเอ่ยบอก แล้วลุกขึ้นพรวดพราดไปทันที ใต้เท้าจึงเอ่ยถามสาวใช้ที่กำลังเดินตามไป

“ผิงถิงนางเป็นอะไร เหตุใดถึงกินน้อยนิด”

“คุณหนูเพียงแค่ไม่ค่อยหิว เดี๋ยวข้าจะนำโจ๊กไปให้นางทานที่ห้อง”

“อืม ไปเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

เยี่ยลี่ก้าวเดินเข้าไปในห้องด้วยความรวดเร็วเมื่อเห็นผิงถิงกำลังอาเจียนออกมาใส่โถเงิน นางจึงรีบไปนั่งเคียงเพื่อลูบหลัง แล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“คุณหนู ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ให้หมอมาตรวจดีกว่าเจ้าค่ะ”

“ข้าไม่เป็นอะไร” หลังจากคำพูดนั้น ผิงถิงเอนกายลงนอนบนเตียง แล้วเอ่ยบอกกับเยี่ยลี่

“เรื่องในวันนี้ เจ้าอย่าให้ฟู่จวินรู้เป็นอันขาด ข้าไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง” ผิงถิงกล่าวขึ้นช้าๆ

“คุณหนู ท่านจะเก็บความทุกข์ไว้คนเดียวจนเจ็บป่วยแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าค่ะ มีอะไรก็บอกข้าเถอะ”

“ข้าไม่ได้ทุกข์อะไร เจ้าไปเถอะ ถ้ามีอะไรข้าจะเรียกใช้” ผิงถิงกล่าวช้าๆ เมื่อผิงถิงกล่าวเช่นนี้จึงถอนหายใจมองนายที่หลับไปแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel