ตอนที่ 2 กลับมาแล้ว
“ไท่จื่อตื่นจากบรรทมแล้ว ทรงเป็นเช่นไรบ้างพระเจ้าค่ะเช่นนี้” เฉินซุนทูลถามเช่นนี้
“ข้าไม่เป็นไร แล้วฮวาเฟยข้าคงผนึกนางไว้แล้วใช่ไหม” พระองค์ตรัสถามแล้วรับถ้วยชามาเสวย
“พระองค์ทรงผนึกฮวาเฟยไว้ เมื่อครู่กระหม่อมพึ่งไปตรวจสอบดูที่ทะเลเพลิงมาแล้ว แต่พระองค์ทรงจำอะไรไม่ได้หรือพระเจ้าค่ะ” เฉิงซุนทูลถามด้วยความประหลาดใจ คิดว่าความทรงจำในโลกมนุษย์ไท่จื่อต้องทรงจำได้ เนื่องยังไม่ดื่มน้ำลืมเลือนเช่นตัวเขาที่พึ่งดื่มไป
“ข้าจำไม่ได้เลย” ไท่จื่อตรัสตามสัตย์จริง พระองค์ลองตรองดูว่า จะมีพระดำริสิ่งใดออกหรือไม่ ทรงเห็นแต่ความว่าเปล่าที่เกิดขึ้นในดวงจิต
“พระองค์จะให้เทพดวงชะตามาไถ่ถามดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ” เฉินซุนทูลถาม
“ไม่ต้องเฉินซุน ข้าจะไปเข้าเฝ้าเทียนจวิน”
“กระหม่อมจะเตรียมการเดี๋ยวนี้พระเจ้าค่ะ” เฉินซุนทูลเช่นนี้ถวายบังคมเดินถอยหลังจนพ้นสายพระเนตร จึงเอี้ยวตัวหันออกไป กลับเจอชายวัยกลางคนใบหน้างดงาม ถือพัดลายสุริยันจันทรา เฉินซุนคำนับเขา ชายวัยกลางคนนั้นเป็นตี้ติ เพียงหนึ่งเดียวของเทียนจวินองค์ปัจจุบัน (ตี๋ติ แปลว่า น้องชาย)
“เฉินซุน อิ๋งหงกลับมาแล้วหรือ”
“ทูลฉีเหวินหวางเย่ ไท่จื่อพึ่งฟื้นพระสติยังไม่ถึงชั่วยาม เห็นว่าทรงจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยพระเจ้าค่ะ” เฉินซุนทูลด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เสียดายยิ่งนัก ข้าพึ่งไปขอน้ำลืมเลือนมาจากเหล่าหู่ซ่างเสิน ช่างเถิด ช่างเถิด เขากลับมาดวงจิตปลอดภัย อีกทั้งยังผนึกดวงจิตตนไว้ครึ่งหนึ่ง เพื่อไม่ให้ฮวาเฟยออกจากทะเลเพลิง เขาสร้างคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ให้กับทั่วทั้งสวรรค์ และปฐพีธุลีดินเลยทีเดียว”
“ซูสุ ท่านมีอะไรหรือ” ไท่จื่อตรัสถาม ขณะที่ประทับนั่งอยู่บนแท่นบรรทม ทำให้เทพบุรุษถือพัดมีพระพักตร์ยิ้มแย้ม ไท่จื่อลุกขึ้นมาจากตั่ง และคำนับโดยทันที (ซูสุ แปลว่า อาผู้ชาย)
“ไม่ต้องมาพิธี เจ้าพึ่งตื่นจากการหลับใหลถึงยี่สิบห้าวัน อีกทั้งเจ้ายังผนึกฮวาเฟยไว้ได้อีกครั้ง เจ้าต้องเสียพลังไปอีกมาก” ฉีเหวินหวางเย่พระหัตถ์ทรงจับพระอังสา ให้ประทับยืนเช่นกัน (หวางเย่ แปลว่า องค์ชาย / พระอังสา แปลว่าไหล่)
“ซูสุ ข้าจะไปเฝ้าเทียนจวิน ท่านจะไปกับข้าหรือไม่”
“เจ้าไปเถิด ป่านนี้เทียนจวินคงรอเจ้าที่ท้องพระโรงแล้ว”
ไท่จื่ออิ๋งหงเร้นพระวรกายเลือนหายไปในบัดดล ฉีเหวินหวางเย่ก็เร้นพระวรกายเลือนหายไปด้วยเช่นกัน
