บท
ตั้งค่า

ตอนที่1-2

พบขวัญยังส่ายหน้าดิ้นรนไม่ยอมรับ ทำให้โดมินิกโน้มหน้าเข้าไปใกล้แล้วทำให้พบขวัญร้องตื่นตระหนก เพราะบางอย่างที่แข็งขึงของเขากำลังดุนดันหน้าท้องเธอ

“อย่าค่ะคุณเฮลตัน”

“นั่นแน่ผมยังไม่ได้บอกชื่อคุณเลย คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไงกัน ไหนว่าไม่รู้จักกันหรือว่าคุณเป็นหมอดูเลยเดาชื่อผมได้แม่นมาก” เขาถามเสียงยั่วเย้า ยียวน แล้วโน้มหน้าเข้ามาสูดดมความหอมหวานจากซอกคอขาวผ่อง ปลายจมูกโด่งจัดคลอเคลียแถวใบหูไม่ห่าง ราวกับราชสีห์เย้าแหย่เหยื่อก่อนจะขย้ำกิน

ขนคอของพบขวัญลุกชัน รีบรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไปกลับมาผลักอกแกร่งออก แล้วเบี่ยงตัวหลบจากวงแขนเขา

“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ คุณมันพวกฉวยโอกาสกับผู้หญิง ฉันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคุยด้วยฉันกลัวแฟนมาเห็น” พบขวัญอ้าง สีหน้าขึงขัง

“เดี๋ยวก่อนสิ คุยกันก่อน ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงหนีผมกลับเมืองไทย ผมจะไม่บอกเขาหรอกว่าคืนนั้นเรามีซัมติงกันแล้ว แค่คุณบอกผมหน่อยสิว่าคืนนั้นทำไมคุณกลับไปโดยไม่บอกผม”

โดมินิกรู้สึกไม่ชอบนักเมื่ออีกฝ่ายอ้างว่าแฟนเธอจะมาเห็นแต่เขาก็ไม่ได้แคร์อะไรนักคนนอนกันแค่คืนเดียวเธออาจจะมีแฟนมาก่อนหน้าเขา หรือหลังจากที่นอนกับเขาแล้วเธออาจจะมีใครต่อจากเขาอีกมากมายก็ไม่เห็นแปลก แต่มันแปลกที่เขาใช้ความเจ้าเล่ห์หลอกเธอขึ้นเตียงด้วยอย่างง่ายๆ แล้วพบว่าเธอยังเป็นสาวเวอร์จิ้นมันถึงทำให้คาใจ

“รู้ไหม คุณคือผู้ชายที่ฉันนอนด้วยแล้วรู้สึกว่าคิดผิด มองเหมือนจะเด็ด แต่เสร็จเร็วชะมัดสรุปว่าคืนนั้นฉันไม่ติดใจก็เลยไม่ติดต่อไปอีกจบนะ”

โดมินิกหน้าตึง ตาแข็งกร้าวเมื่อถูกหยามระยะเผาขน ถ้าเธอตบหน้าเขายังเจ็บน้อยกว่านี้เพราะการเมคเลิฟหนึ่งครั้งเขาใช้เวลาประมาณสี่สิบห้านาที โดยไม่รวมการนัวเนียกอดจูบลูบไซ้ เธอยังเรียกเสร็จเร็วไปอย่างนั้นเหรอ

“นี่เธอ!” โดมินิกคำราม

เธอจบแต่เขาไม่จบแน่

มือแกร่งจับสองบ่าให้หันมา พบขวัญมองตอบอย่างไม่เกรงกลัวราวกับจะยืนยันในสิ่งที่พูดว่าเธอคิดแบบนั้นจริงๆทว่าอีกภาพหนึ่งก็ผุดขึ้นในสมองเช่นกันนั่นก็คือภาพที่บริทานีย์มาหาแล้วบอกว่าเธอเป็นแค่ของเล่นของโดมินิกเพราะตัวจริงของเขายืนอยู่ตรงหน้า

ความรู้สึกผิดที่คิดเผลอใจไปยุ่งกับคนมีเจ้าของทำให้พบขวัญเลือกที่จะหักดิบความสัมพันธ์ชั่วคราวนั้นทิ้ง โดยไม่รู้เลยว่าโดมินิกไม่เคยให้ราคากับบริทานีย์เลย

แม่สาวที่มีข่าวลือว่าเป็นผู้หญิงข้างกายของนักธุรกิจมาดขรึมจนเกินคำว่าคนรู้จัก ทั้งที่โดมินิกเคยมีสัมพันธ์ด้วยไม่กี่ครั้งแล้วไม่ได้คิดสานต่ออะไรเพราะโดมินิกยังถือว่าตนเป็นหนุ่มโสดที่ไม่ได้มีพันธะกับผู้หญิงคนไหนเขาจึงควงใครก็ได้

“ถ้าคืนนั้นผมพลาดไป ทำไม่ถูกใจคุณ คืนนี้ผมจะขอแก้ตัวใหม่” ลำแขนแข็งแกร่งถือสิทธิ์มารวบเอวบางเอาไว้อย่างไม่คิดจะขออนุญาต มืออีกข้างยกขึ้นใช้นิ้วมือเกลี่ยไล้แก้มนวลอย่างจงใจปลุกเร้า

“ปล่อยฉันนะมันไม่ง่ายแบบคืนนั้นหรอก” พบขวัญปัดมือแกร่งออก “ฉันไม่อยากเป็นแค่ของเล่นบนเตียงของคนรวย ฉันกลับมาเมืองไทยฉันยังมีโอกาสได้เจอคนที่ดีกว่าคุณ แล้วฉันก็เจอแล้วด้วย ที่สำคัญฉันว่าฉันถูกใจเขาแล้วและเราเข้ากันได้ดีมาก อ้อ ขอย้ำอีกครั้งว่ามากๆด้วย” พบขวัญตอกกลับอย่างสะใจ โดยไม่รู้ว่านั่นเป็นการยั่วเย้าให้คนฟังโกรธจัด

โดมินิกฟังแล้วอารมณ์โกรธผุดวาบขึ้นทันที ไม่เคยมีใครยอกย้อนเขาแบบนี้ เธอกล้าดียังไงเอาเขาไปเปรียบเทียบกับผู้ชายคนอื่น จริงๆเขาตั้งใจจะมาคุยดีกับเธอ อยากสานสัมพันธ์กันต่อแบบคนมีอารยะทำกัน แต่เธอไม่มีเหตุผลกับเขาก่อนการพูดแบบนี้มันไล่ให้เขาไปไกลๆ แต่ไม่สำเร็จ เขาจะทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอจะบอกปฏิเสธได้ง่ายๆ เขาจะทำให้เธอรู้ว่าเขายอดเยี่ยมกว่าผู้ชายคนไหนๆที่เธอจะเจอหลังจากนี้

“ท้าทายกันขนาดนี้เดี๋ยวก็รู้ว่าผมหรือคนของคุณใครมันจะเด็ดกว่ากัน” เขาบอกแล้วจับต้นแขนกลมกลึงไว้แน่นจริงๆก็ไม่อยากยุ่งกับคนมีแฟนแล้ว แต่พบขวัญยั่วเย้าเขาก่อน เขาก็จะแค่แกล้งให้เธอขวัญกระเจิงบ้างเท่านั้น

"ปล่อยฉันอย่ามาทำตัวป่าเถื่อนแบบนี้ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย"

“ไม่ได้ห้ามให้ร้อง แต่คิดว่าใครจะช่วยคุณได้ เพราะคนอย่างผมไม่ปล่อยคือไม่ปล่อย”

พบขวัญจ้องเขาดวงตาวาววับ “จะยุ่งกับฉันทำไม ฉันไม่ใช่แฟนคุณนะ เราก็แค่คนที่ เอ่อ...อะไรก็ช่างแต่ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้วและเขาก็เป็นคนดีด้วย”

“คุณว่าคุณเจอคนที่ดีกว่า ผมหลับตาเชื่อคุณก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมจะช่วยเป็นครูสอนบทเรียนก่อนวิวาห์ให้คุณเองคืนนั้นสี่สิบห้านาทีถ้าคุณยังว่าไวไปคืนนี้ผมจะทดเวลาให้เป็นหนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาที เผื่อคุณจะได้ท่าดี ไม้เด็ด ไปใช้กับแฟนใหม่คุณ”

พบขวัญกำมือแน่น ตัวสั่นระริกไปด้วยความโกรธ “มีใครเคยบอกคุณไหมว่าปากอย่างคุณอาจโดนยิงตายสักวัน”

โดมินิกยิ้มเย็น “มี... มีหลายคนด้วย ผมถึงจ้างทีมบอดี้การ์ดเอาไว้ชุดใหญ่” โดมินิกเลิกคิ้วสีหน้ากวนประสาทใส่ มองซ้ายมองขวารู้ว่าเป็นจุดลับตาคนมือแกร่งก็รีบเลื่อนไปใต้กระโปรงสั้นตัวสวยแล้วบีบหมับที่บั้นท้ายเข้าให้อย่างจงใจแกล้ง

พบขวัญสะดุ้ง รีบผลักเขาออกแต่ก็ถูกเขาประกบเรียวปากอิ่มไว้ เสียงบริภาษกลืนหายไปในลำคอเหลือเพียงความรู้สึกแปลกใหม่ที่ถูกรุกราน เรียวลิ้นสากระคายสอดเข้ามาในโพรงปาก กวาดชิมความหวานจนพอใจ แม้ร่างบางจะดิ้นรนแต่เขาก็ตรึงเธอไว้ด้วยมือร้อนผ่าวที่บีบนวดไปตามสันสะโพก ลูบไล้ไปตามขอบกางเกงชั้นใน แล้วทำในสิ่งที่พบขวัญสะดุ้งสุดตัวเมื่อสัมผัสจากอุ้งมือหนาแตะต้องความเป็นหญิงอย่างอุกอาจ

พบขวัญดิ้นรนสุดแรงไม่คิดว่าเขาจะเถื่อนได้โล่ห์ขนาดนี้เธอมองเขาดีเกินไป ตอนนี้เธอไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ได้ชื่อว่าเป็นแม่คนแล้ว เธอจะไม่มีวันทำตัวน่าเกลียดปล่อยตัวปล่อยใจให้เขามาย่ำยีในที่สาธารณะได้ตามอำเภอใจ มือเล็กของคนใจเด็ดรวบรวมกำลังใจที่กำลังปลิวหายไปให้หวนกลับมาผลักมือซุกซนเขาออก ฟันคมๆกัดลิ้นสากระคายที่เกี่ยวพันรัดรึงอย่างแรงจนอีกฝ่ายร้อยโอยรีบถอนปากออกไป เป็นจังหวะให้พบขวัญใช้มือสองข้างผลักเขาออกไปพ้นตัว

จากนั้นเจ้าของร่างบางก็รีบอ้าปากหอบเอาอากาศหายใจเข้าปอด พอตั้งสติได้ก็ไม่เสียเวลาหันไปมอง ร่างบางรีบวิ่งออกจากบันไดหนีไฟ เท้าเรียววิ่งอย่างไม่คิดชีวิตตรงไปที่รถอย่างรวดเร็ว เธอภาวนาขออย่าให้เขาตามมาทัน แล้วรีบสตาร์ทรถขับออกไป ทิ้งให้โดมินิกยืนอยู่กับที่ ยกมือเตะปากที่เจ็บเพราะถูกกัด เขาสบถอย่างหงุดหงิดที่กวางสาวหนีรอดเงื้อมือไปได้ แต่เขาจะไม่ให้เธอรอดพ้นไปได้ เพราะเขาจะออกตามหาเธออย่างไม่คิดชีวิตพร้อมกับสะสางเรื่องเจตนิพัทธ์ไปพร้อมกัน

“มาเมืองไทยคราวนี้มีอะไรให้เล่นสนุกเยอะโว้ย แล้วเธอจะรู้สึกผิดจนต้องมาคุกเข่าขอโทษฉันพบขวัญ” เลือดเฝื่อนเค็มที่ซึมออกจากใต้ลิ้นยิ่งทำให้โดมินิกหมายมาดคาดโทษพบขวัญไว้อย่างหนัก

บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกราวกับหลุดเข้าไปในฉากขอแต่งงานในซีรีย์เกาหลีกำลังถูกเซ็ตขึ้นจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตั้งใจจะขอหญิงอันเป็นที่รักแต่งงาน ทุกอย่างถูกจัดขึ้นเพื่อนาทีพิเศษซึ่งคนว่าจ้างไม่สนว่าจะต้องใช้งบประมาณในการจัดเตรียมแค่ไหน

“แต่งงานกันนะขวัญ เท็ดพร้อมจะดูแลขวัญกับลูก” ไม่เพียงแต่คำพูดที่เจตนิพัทธ์หรือเท็ดบอกแต่ตุ๊กตาหมีเท็ดดีตัวเขื่องในมือยังส่งมาตรงหน้าหญิงสาวที่ยังหาเสียงตัวเองไม่เจอ

พบขวัญกำลังขมวดคิ้วมุ่นมองตุ๊กตาหมีเท็ดดีสีน้ำตาลที่ถูกยื่นมาให้ด้วยความหนักใจ ดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายอย่างกลัดกลุ้ม เธอทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกจัดซื้อของบริษัทเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อหนึ่ง และวันนี้เธอก็ถูกขอร้องให้มาพบกับคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเป็นเจ้านายในเวลาเดียวกันแต่ถ้าเธอรู้ว่าการมาของเธอจะสร้างความลำบากใจให้ตัวเองขนาดนี้คงเลือกที่จะไม่มา

เจตนิพัทธ์เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของบริษัทฯที่เธอทำงานอยู่ ใครหลายคนคงมองว่าเธอโชคดีที่ได้หัวใจเขามาครองแต่พบขวัญกลับรู้สึกหนักใจเหลือเกินเพราะไม่อาจร่วมทางเดินไปกับเขาได้ในสิ่งที่เขาคาดหวัง

จริงๆแล้วเวลานี้พบขวัญควรต้องรีบขับรถกลับบ้าน กลับไปอยู่กับลูกชายตัวน้อยของเธอแต่เจตนิพัทธ์กลับรั้งเธอไว้และทำในสิ่งที่เธอบอกปฏิเสธไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วนนั่นคือเธอไม่สามารถแต่งงานกับใครได้อีกเนื่องจากเธอไม่ใช่คนตัวเปล่า พบขวัญซาบซึ้งใจที่อีกฝ่ายไม่รังเกียจว่าเธอเป็นผู้หญิงมีตำหนิ ซ้ำยังไม่เคยคาดคั้นถามถึงพ่อของลูกแต่ถึงอย่างไรเธอก็รับความปรารถนาดีของเขาไว้ไม่ได้ เจตนิพัทธ์ควรพบคนที่ดีกว่า เขาไม่ควรเสียเวลากับเธอและลูกอีก

พบขวัญมองหน้าเจตนิพัทธ์นิ่งอยู่สักพัก ก่อนริมฝีปากสวยได้รูปจะขยับตอบกลับด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดหนักแน่นแบบไม่ให้ความหวัง

“ขวัญแต่งงานกับเท็ดไม่ได้ ขวัญไม่ได้รักเท็ดแบบชู้สาว เท็ดเป็นคนดีควรเจอผู้หญิงที่คู่ควรกัน ไม่ใช่ผู้หญิงมีตำหนิอย่างขวัญ ใครรู้เข้าเขาคงนินทาเท็ดแย่ หนุ่มโสดทั้งแท่งแต่งงานกับผู้หญิงลูกติดที่หาพ่อไม่ได้แบบนี้เรียกว่าเสียของแย่ ที่สำคัญขวัญคิดแล้วว่าลูกขวัญจะต้องไม่มีพ่อเลี้ยง”

“ขวัญไม่ต้องกลัวหรอกว่าเท็ดจะใจร้ายกับลูกของขวัญ เท็ดจะเป็นพ่อเลี้ยงที่ใจดีที่สุดในโลกเชื่อเท็ดสิ”

“เชื่อ แต่ไม่ต้องการ ครอบครัวเท็ดก็คงไม่ปลื้มลูกสะใภ้อย่างขวัญด้วย ขวัญอยากอยู่กับลูกสองคนเท่านั้น เท็ดเข้าใจนะ”

เจตนิพัทธ์ส่ายหน้า เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขารักพบขวัญมานาน นานจนเขาทนรออีกไม่ได้แล้ว “แต่เท็ดรักขวัญนะ รักน้องแทนเหมือนเป็นลูกของเท็ดด้วยไม่ว่าขวัญเคยผิดพลาดมายังไง เท็ดก็รักขวัญ เท็ดไม่สนใจหรอกว่าใครจะมองยังไงขอแค่ขวัญแต่งงานกับเท็ด เท็ดก็พอใจแล้ว ขวัญยอมให้เท็ดได้ดูแลขวัญกับลูกเถอะนะ เท็ดพร้อมจะเป็นพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี” เจตนิพัทธ์ยังวิงวอนต่อ เขาลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ไปคุกเข่าต่อหน้าพบขวัญทำให้คนที่นั่งอยู่ตกใจหน้าซีดเผือดคิดไม่ถึงว่าเจตนิพัทธ์จะลงทุนทำถึงขนาดนี้

โชคดีที่เจตนิพัทธ์ลงทุนสั่งปิดโซนหนึ่งภายในร้านอาหารเพื่อขอพบขวัญแต่งงาน ทำให้ไม่มีลูกค้าคนใดอยู่ในบริเวณนี้ พบขวัญจึงไม่รู้สึกอับอายมากนัก เธอรีบดึงมือเพื่อนให้ลุกขึ้นแต่เจตนิพัทธ์ไม่ยอม

เจตนิพัทธ์แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าต้องการแต่งงานกับเธอ เจตนิพัทธ์ติดตามเธอไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา กระทั่งเธอกลับมาเมืองไทยเจตนิพัทธ์ก็กลับตาม เขามั่นคง จริงใจกับเธอมาก จนพบขวัญอยากจะใจอ่อน แต่ติดตรงที่เธอไม่ได้รักเขาแล้วไม่อยากให้ลูกชายได้ชื่อว่ามีพ่อเลี้ยง ดวงตากลมโตมองตุ๊กตาหมีเท็ดดีในมือ เจตนิพัทธ์รู้ว่าลูกชายเธอไม่แข็งแรงตั้งแต่คลอดออกมา แทนคุณป่วยด้วยโรคปอดอักเสบติดเชื้อบ่อยครั้ง เรียกว่าพบขวัญต้องหอบหิ้วหนูน้อยเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น บางครั้งต้องนอนเฝ้าลูกที่โรงพยาบาลและหอบงานไปทำ ทำงานไปเฝ้าลูกไป เป็นภาพที่ชินตาของพยาบาลที่นี่ไปเสียแล้ว ส่วนเรื่องค่ารักษาไม่ต้องพูดถึง ค่าใช้จ่ายนั้นสูงและสร้างความหนักใจให้พบขวัญเป็นอย่างมากเรียกว่าต้องเอาเงินเก่าออกมาใช้จนแทบหมด พอเจตนิพัทธ์รู้เขาก็เสนอตัวให้หยิบยืมเพราะรู้ว่าเธอไม่ยอมรับฟรีๆ แต่พบขวัญก็ปฏิเสธทุกครั้ง

ทุกครั้งเขาก็คอยให้กำลังใจมาตลอดแม้กระทั่งวันนี้เขาส่งหมีเท็ดดีที่แปลว่าให้เข้มแข็งและอดทนมาให้กับลูกชายเธอ เขาก็ทำให้เธอประทับใจมาก แต่ก็ไม่สามารถทำให้เธอเปลี่ยนใจจากเพื่อนเป็นอย่างอื่นที่เขาพยายามมานานได้

พบขวัญมองคนที่ยังคุกเข่าอยู่อย่างอึดอัด แต่ก็ตัดสินใจว่าต้องบอกเจตนิพัทธ์ให้ชัดเจนเพื่อให้เขาตัดใจให้ได้

“เท็ดฟังขวัญให้ดีนะ ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันหน้าคำตอบที่เท็ดจะได้จากขวัญก็ยังเหมือนเดิมคือเราจะเป็นได้แค่เพื่อน สำหรับตุ๊กตาหมีเท็ดดีตัวนี้ขวัญจะเอาให้น้องแทนนะ ขวัญขอบคุณและขอโทษที่แต่งงานกับเท็ดไม่ได้จริงๆ”

แม้สงสารเพื่อนจับใจแต่คิดว่าการพูดตรงๆน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เจตนิพัทธ์จะได้ตัดใจจากเธอตั้งแต่ตอนนี้ เขาเสียเวลากับเธอมามากแล้วตั้งแต่ตามเธอไปเรียนต่อปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกาไม่ใช่เพราะว่าเธอร่ำรวยแต่เพราะความจนมันน่ากลัวทำให้เธอเลือกที่จะเรียนให้ดีและโชคดีที่เธอได้ทุนเรียนฟรีแล้วยังโชคดีที่เธอได้ทุนของเอกชนซึ่งไม่ต้องทำงานชดใช้หลังจากเรียนจบ จนกระทั่งเริ่มหางานทำที่นั่นเขาก็สมัครทำที่เดียวกับเธอ พบขวัญคิดว่าเธอได้ทำสิ่งที่ถูกต้องไปแล้วจากนี้ควรให้เวลาเจตนิพัทธ์ได้อยู่ตามลำพัง

ร่างเพรียวบางไม่เหมือนคนมีลูกอ่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ยืดตัวลุกขึ้นแล้วเดินจากไป พบขวัญไม่หันกลับมามองจึงไม่เห็นว่าเบื้องหลังเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนหนุ่มที่เพิ่งถูกปฏิเสธคำขอแต่งงาน ทันทีที่เธอเดินลับไป ชายฉกรรจ์ผมสีน้ำตาลทองจำนวนสามคนก็ปราดเข้ามาแทนที่ พนักงานในร้านกับผู้จัดการถูกควบคุมให้อยู่ห่างๆห้ามเข้ามายุ่ง

แล้วร่างสันทัดของเจตนิพัทธ์ก็ถูกกระชากให้ตัวลอยขึ้น ใบหน้าเหยเกตกใจที่ถูกจู่โจมไม่รู้ตัว เจตนิพัทธ์ร้องเอะอะโวยวายเลยถูกหมัดหนักๆจากหนึ่งในกลุ่มคนนั้นต่อยเข้าที่ใบหน้าจนสลบเหมือด แล้วร่างปวกเปียกก็ถูกลากออกไปจากร้านอย่างเงียบเชียบ รวดเร็ว พนักงานในร้านถูกปล่อยตัวแล้วตั้งใจจะโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทว่ารถยนต์สีดำสองคันก็เคลื่อนตัวออกไปจากหน้าร้านอย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้เลย ส่วนกล้องวงจรปิดก็ถูกกระชากมาทำลายไปแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel