บท
ตั้งค่า

บทที่ 11

เมื่อไม่มีทางใดจะต่อสู้กับพละกำลังของเขาได้ เธอก็ขบฟันลงบนหลังเขาเต็มแรง รู้สึกสะใจยิ่งนักที่ได้ยินเสียงแซมร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนจะฟาดเปรี้ยงลงบนก้นเต็มเหนี่ยว

“ทำตัวดีๆ หน่อยสิ” เขาพูดปนหัวเราะเสียงกร้าว “ถ้าขืนคุณทำอย่างนี้อีก ผมจะทำให้คุณต้องได้รับความเสียใจอย่างที่สุดในชีวิตทีเดียว”

เสียงที่กล่าวออกมานั้นบอกให้ลิซ่ารู้ว่า เขาสามารถจะทำเช่นที่พูดได้จริงๆ มันมิได้เป็นเพียงแค่คำขู่เท่านั้นทั้งๆ ที่เพลิงแห่งความแค้นใจยังคุกรุ่นอยู่ แต่เธอก็จำเป็นต้องระงับอกระงับใจไว้ก่อน ได้แต่หวังว่าเขาคงจะไม่เดินแบกร่างที่เปล่าเปลือยของเธอเทิ่งๆ เข้าไปในแค้มป์ หรือว่าเขาจะทำได้จริงๆ

“วางฉันลงเดี๋ยวนี้นะ” เธอร้องออกมา แต่เขาก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเดินราวกับไม่ได้ยินเสียงเธอเลย

“แซม...ได้โปรดเถอะ...วางฉันลงก่อนสิ” ขณะนี้เขาเดินเลี้ยวไปตามทางโค้ง จนสามารถจะมองเห็นแค้มป์ได้แล้ว

“ทำไมล่ะ ก็เมื่อกี้คุณพร้อมอยู่แล้วที่จะให้ทั้งเจ้าลุทซ์เจ้าเบรดี้ และผมเห็นคุณแก้ผ้าอย่างนี้ แล้วทำไมจะเกิดมาอาย ถ้าคนอื่นๆ เขาจะได้มีโอกาสเห็นกันอย่างถ้วนทั่วด้วยเล่า”

“คุณนี่ทุเรศที่สุดเลย คุณก็เห็นอยู่กับตาแล้วว่าเจ้าสองคนนั่นมันกำลังจะข่มขืนฉัน” เธอร้องออกมาอีก โกรธที่เขาไม่ยอมเชื่อในความบริสุทธิ์ของเธอ

“ก็ใช่น่ะสิ มันก็เหมือนกับที่ผมทำกับคุณคืนนั้นในเต็นท์นั่นแหละ จริงไหม” แซมเยาะให้ น้ำเสียงของเขาทิ่มแทงเข้าไปในความรู้สึกอย่างเหลือเกิน “คนสวย คุณคงลืมไปแล้วสินะว่า ผมเองน่ะรู้จักอารมณ์อันร้อนแรงของคุณอย่างดี”

ขายาวๆ คู่นั้นยังคงก้าวตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ ลิซ่าพยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถพยายามจะทิ้งร่างตัวเองลงบนพื้นดิน แต่ก็ถูกทำโทษด้วยฝ่ามือที่ฟาดเพี้ยะลงมาอีกครั้ง

“แซม...ฉันสาบานได้นะที่ฉันบอกคุณน่ะ มันเป็นความจริง” เธอร่ำไห้ออกมา เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามารถจะทำให้เขาเชื่อถือในคำพูดได้

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างดูมันจะสายเกินแก้ไขเสียแล้ว เขาแบกร่างเธอเดินผ่านเข้าไปในแค้มป์ ท่ามกลางสายตาของพวกผู้ชายทุกคนที่นั่งระเกะระกะอยู่ตามที่ต่างๆ ลิซ่าหลับตาแน่นแววเยาะหยันจากสายตาทุกคู่ที่มองมาเหมือนเปลวเพลิงที่แลบเลียไปทั่วเรือนกาย ทั้งเจ็บช้ำ ทั้งอดสูอับอายจนเหลือจะกล่าว

และแล้วเขาก็หยุดฝีเท้าลง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าขณะนี้เธอกำลังอยู่ในเต็นท์ของเขา แทนที่จะเป็นเต็นท์ของเธอ ซึ่งจะด้วยจุดประสงค์อะไรนั้น ลิซ่าไม่สนใจที่จะคิดอีกต่อไปแล้ว เขาเบี่ยงไหล่เข้าประตูเต็นท์ โยนร่างเธอลงบนพื้นก่อนจะเดินกลับไปปิดประตูเต็นท์เสีย

ลิซ่ารีบผุดลุกขึ้นนั่งใบหน้าแดงก่ำ เรือนผมสีบลอนด์กระจายลงมาถึงแผ่นหลัง ทั้งร่างคือความเปลือยเปล่า เมื่อจัดการให้เธออยู่ในที่ลับหูลับตาผู้คนเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันกลับมาก้มลงจ้องหน้าเธออยู่ แววในดวงตาคู่นั้นทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมาอีก

“คุณยืนยันใช่ไหมว่าไอ้สองคนนั่นมันพยายามข่มขืนคุณ” สายตาของเขาพิจารณาความรู้สึกในสีหน้าของเธออยู่ “ก็เป็นอันว่าคุณไม่ได้ตกลงปลงใจที่จะให้เหตุการณ์เช่นนั้นมันเกิดขึ้นกับคุณเลย อย่างนั้นใช่ไหมคนสวย...เอาละ ถ้าคุณต้องการจะให้ผมเชื่อในคำบอกเล่าของคุณ...คุณก็จะต้องพิสูจน์ให้ผมเห็น

ดวงตาคู่สีฟ้าเข้มนั้นจรดจ้องมองเธออยู่...ราวใบมีดคมกริบ ลิซ่าเบิกตากว้างเมื่อเห็นเขายกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อออก ในที่สุดเขาก็ดึงเสื้อตัวนั้นออกจากตัวและโยนไปไว้ข้างหนึ่ง แม้ในยามนี้เธอก็อดชื่นชมกับเรือนร่างที่แน่นเปรี๊ยะด้วยมัดกล้าม ความคล้ำของสีผิวที่ราวกับถูกหล่อออกมาจากทองสำริด ตรงแผงอกมีสายคาดที่โยงจากไหล่ข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งยึดซองปืนที่อยู่ตรงต้นขาด้านซ้ายไว้ เขาปลดมันออกด้วยเช่นกัน และเอาวางลงไว้บนโต๊ะที่ต่อขึ้นเองลวกๆ จากนั้นก็เอื้อมมือไปแกะหัวเข็มขัดออก เขาดึงเข็มขัดเส้นนั้นออกจากเอวโดยที่มิได้ละสายตาจากใบหน้าของเธอเลย และรูดซิปกางเกงต่อ

ทันใด สมองที่มึนงงด้วยความตื่นตระหนกก็สามารถจะทำงานได้อีกครั้ง มันสั่งเธอว่า “หนีไปให้พ้น” และเธอก็ทำตามคำสั่งของมันทันที เธอดีดตัวขึ้นยืนมือไม้สั่นเมื่อเอื้อมไปกระชากผ้าห่มจากเตียงคอกเอามาพันไว้รอบตัว ยัดขมวดปมลงหว่างเนินทรวง เธอไม่สามารถจะยอมให้สิ่งนี้ดำเนินต่อไปได้อีกแล้ว ถ้าเธอจะต้องร่วมรักกับผู้ชายสักคนหนึ่ง มันจะต้องไม่ใช่ในลักษณะที่กำลังจะเป็นอยู่ในเวลานี้ ถ้าเธอยอมให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง การร่วมรักที่เขากำลังจะมอบให้กับเธอจะต้องเป็นในลักษณะป่าเถื่อน เมื่อผู้หญิงจะต้องตกอยู่ใต้อำนาจของผู้ชายที่มีทั้งพละกำลังและอำนาจเหนือกว่า

ลิซ่ากัดริมฝีปากแน่นเหลือบตามองไปทางแซม และก็เห็นว่าบัดนี้ เขามิได้มีเสื้อผ้าเหลือติดกายอยู่แม้แต่เพียงชิ้นเดียว เขากำลังมองจ้องเธออยู่ มุมปากบิดขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน สัญชาตญาณแห่งความใคร่รู้ ทำให้เธออดที่จะกวาดสายตาไปทั่วร่างเขาไม่ได้ นับแต่ช่วงไหล่กว้าง แผงอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อปกคลุมด้วยไรขนอ่อนสีดำ ผ่านช่วงสะโพกแคบๆ ลงไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ แข้งขาที่เต็มไปด้วยพละกำลัง ร่างกายท่อนบนของเขานั้นเป็นสีคล้ำจัด แต่ส่วนที่ต่ำกว่าหน้าท้องลงไปนั้นกลับเป็นสีขาวเผือด ซึ่งเมื่อสายตาปะทะกับเรือนกายส่วนนั้นของเขาได้ เธอก็บังเกิดความหวั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นมา และมันทำให้เธอนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จึงรีบเบือนหน้าที่แดงก่ำด้วยสำนึกแห่งความอับอายไปเสียทางหนึ่ง

“ผมว่ามันสายเกินกว่าที่คุณจะมามัวทำเป็นอายอยู่แล้วละ” แซมเยาะให้

ลิซ่าตวัดสายตามองหน้าเขาทันที และก็ประสานอยู่กับแววตาที่แข็งกร้าว วูบหนึ่งที่ใจสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เธอยอมรับกับตัวเองว่า ขณะนี้เธอกำลังรู้สึกอายเขาจริงๆ ทุกครั้งที่ร่วมรักกับเจฟฟ์ ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องดำเนินไปในลักษณะที่มีความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง เขาจะร่วมรักกับเธอแต่เพียงในความมืดเท่านั้น ดังนั้น ลิซ่าจึงแทบไม่เคยเห็นร่างกายของเขายามที่ปราศจากเสื้อผ้าปิดบังไว้เลย ความรู้สึกเกี่ยวกับสรีระเรือนกายของผู้ชายสำหรับเธอนั้นค่อนข้างจะจำกัดอยู่มาก นอกเสียจากที่เธอเห็นจากในรูปภาพที่เธอหยิบมาจากร้านขายยาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่พอเห็นเข้าจริงๆ ก็รู้สึกตกใจมาก และรีบปิดหนังสือที่มีรูปผู้ชายเปลือยกายตีพิมพ์อยู่ลงทันทีด้วยความหวังว่าจะไม่มีใครมาเห็นว่าเธอทำเช่นนั้น

ดังนั้น การที่ได้เห็นเขายืนเปลือยกายอยู่ต่อหน้าต่อตาเธอเช่นนี้ มันจึงเสมือนความจริงที่เหลือจะทำใจให้เชื่อได้ ร่างของเขาทั้งสูงใหญ่ ทั้งแข็งแรง มีความเป็นชายชาตรีเต็มตัว มันเป็นครั้งแรกที่ลิซ่าได้ตระหนักถึงความเป็นผู้หญิง ความเป็นเพศที่อ่อนแอของตนเอง ร่างกายของเขาเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้เธอได้มองเห็นความจริงข้อนั้น และมันก็แสดงออกอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า...เขากำลังมีความต้องการในตัวเธออย่างมากมายเพียงไร

“มานี่สิ ลิซ่า” น้ำเสียงนั้นราบเรียบ ดวงตาเป็นประกายสีฟ้าใสเมื่อเธอประสานอยู่ ลิซ่าพยายามกล้ำกลืนก้อนแข็งๆ ในลำคอลง และเพิ่งจะรู้สึกเจ็บร้าวในคออย่างรุนแรง เนื่องจากถูกเจ้ายักษ์ใหญ่ผมขาวคนนั้นบีบไว้ สัญชาตญาณกระมังที่ทำให้เธอกระถดถอยหลัง

“คุณก็รู้นี่ว่าตัวเองก็มีความต้องการเช่นนี้เหมือนกัน” มันมีความหมายอยู่ในน้ำเสียงและถ้อยคำที่เขากล่าวออกมา แต่ลิซ่าสั่นศีรษะ ยังคงถอยหลังหนีต่อไป สายตามิได้ละจากใบหน้าของเขาเลย เมื่อเห็นเธอทำเช่นนั้น เขาก็ขบกรามแน่น ริมฝีปากที่แม้จะมีรอยยิ้มฉาบอยู่ แต่มันก็เครียดขึ้น และดวงตาคู่นั้นก็วาวโรจน์ขึ้นกว่าเดิม

“ถ้าคุณทำให้ผมต้องลำบากกับการไล่จับคุณละก้อ ผมว่าคุณอาจจะต้องพบกับความยุ่งยากนะ และคุณจะต้องเสียใจด้วย” คำขู่นั้นถูกเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังเป็นคำขู่อยู่นั่นเอง รอยยิ้มบนใบหน้าจางลงแล้ว ลิซ่ารู้สึกถึงความระทึกในหัวใจ เธอจำเป็นที่จะต้องยอมรับกับความจริงที่ไม่น่าต้อนรับเลยว่า เขาสามารถทำให้เธอเสียใจได้จริงๆ และชีวิตของเธออยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้ก็ด้วยความเมตตาจากเขาเท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel