บทที่ 1 ลูกนอกสมรส (5)
ใช้เวลาเดินทางไม่นานเธอจึงเดินทางมาถึงปลายทาง ทว่าพนักงานกำลังปิดประตูพอดี
“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งปิดค่ะ” หญิงสาวรีบร้องห้ามแล้ววิ่งกระหืดกระหอบมาที่ประตู
พนักงานซึ่งเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีหยุดชะงัก พลางนิ่วหน้า “ผับปิดให้บริการแล้วครับ”
“เรื่องนั้นฉันรู้ค่ะ ฉันไม่ได้มาเที่ยว แต่มาสมัครงาน” นาตาชารีบบอก พนักงานมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จากนั้นจึงพาเข้ามาด้านใน
นาตาชากวาดสายตามองการตกแต่งภายในผับหรู แม้แสงสีเสียงยามค่ำคืนจะหายไป แต่ความหรูหราก็ไม่ได้ลดไปเลยทีเดียว พอได้เห็นสถานที่จริงหญิงสาวจึงยิ้มอย่างพอใจ สถานที่แบบนี้แหละที่จะสร้างรายได้อย่างงามให้กับเธอ
นาตาชาเดินตามพนักงานไปจนกระทั่งได้พบกับชายวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน
“สวัสดีค่ะ ฉันนาตาชา ฉันมาสมัครงานค่ะ” หญิงสาวรีบแนะนำตัวและบอกจุดประสงค์ของการมาเยือนทันที
ผู้จัดการร้านมองเธอด้วยสีหน้าเรียบสนิท ก่อนป้อนคำถามแรกให้ “ทำอะไรได้บ้าง?”
“ทำอาหารพอได้นิดหน่อย ชงเหล้าเป็น และเสิร์ฟอาหารได้”
“เต้นล่ะ?”
“พอได้นิดหน่อยค่ะ”
ผู้จัดการพยักหน้า “คุณสมบัติอื่น ๆ ที่เธอคิดว่าตัวเองเหมาะสมจะทำงานที่นี่ล่ะ?”
หญิงสาวนิ่งไป ก่อนตอบอย่างมั่นใจ “ฉันเคยผ่านการเป็นพนักงานขายไอศกรีม และเคยเป็นเด็กเสิร์ฟอาหาร”
“ทำไมเธอถึงอยากทำงานที่นี่?”
“คุณกำลังสอบสัมภาษณ์ฉันอยู่ใช่มั้ยคะ?” หญิงสาวถามยิ้ม ๆ แต่ผู้จัดการร้านกลับทำหน้าจริงจัง นาตาชาไหวไหล่ ก่อนเอ่ยขึ้นอีก “ผับชื่อดังใคร ๆ ก็อยากมาทำงานที่นี่ทั้งนั้น ค่าตอบแทน และทิปคือสิ่งล่อใจฉันค่ะ”
ผู้จัดการผับนิ่วหน้ากวาดสายตามองหญิงสาวอย่างพิจารณา “เธอมีบุคลิกที่ดี มั่นใจในตัวเอง และไม่กลัวคน”
“ขอบคุณ”
“แต่คุณสมบัติของพนักงานที่นี่นอกจากบุคลิกแล้ว ยังต้องมีความอดทน ที่สำคัญต้องผ่านการฝึกงานก่อน เธอจะตกลงกับเงื่อนไขนี้มั้ย?”
“ใช้เวลาฝึกงานนานเท่าไหร่คะ?”
“หนึ่งเดือน ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามมาสาย”
“โอเค ไม่มีปัญหา”
“อีกเรื่อง ถ้าอยากให้ทางผับรับเธอเข้าทำงาน เธอต้องปรับเปลี่ยนบุคลิกการแต่งตัวใหม่ ผมไม่ชอบให้สาวทึนทึกมาเดินอยู่ในร้านตอนให้บริการลูกค้า ที่สำคัญพนักงานที่นี่ต้องใส่รองเท้าส้นสูง”
นาตาชาพยายามไม่สนใจคำว่า ‘สาวทึนทึก’ แต่ให้ตายเถอะ คำนี้มันทิ่มใจเธออย่างจัง!
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหาค่ะ ฉันจะรีบปรับปรุงบุคลิกการแต่งตัวใหม่ ว่าแต่ฉันจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่?”
“ถ้าเธอพร้อม จะเริ่มคืนนี้เลยก็ได้”
“โอเค ขอบคุณมากค่ะ” นาตาชารีบตอบรับ
พอกรอกใบสมัครเรียบร้อยแล้วนาตาชาจึงเดินทางกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนบุคลิกตัวเองใหม่...
##### บทที่ 2
แรงกดดัน
กลับถึงบ้านตอนสิบเอ็ดโมงกว่า นาตาชาจึงมองหามารดาเป็นอันดับแรก พอไม่เจอเธอจึงตั้งใจจะกลับขึ้นห้องเพื่อหาเสื้อผ้าที่ดูดีสำหรับใส่ไปทำงานในคืนนี้ ทว่าระหว่านั้นเสียงเคาะประตูจึงดังขึ้น หญิงสาวปรายตาไปที่ประตู ก่อนเดินไปเปิด นาตาชาก็พบว่าเป็นแม่บ้านถึงสามคนที่มาพร้อมกับกล่องและถุงกระดาษมากมาย
“นี่มันอะไรกันคาร์ร่า?” หญิงสาวนิ่วหน้า
“ของขวัญค่ะคุณหนู”
นาตาชาเท้าสะเอวพร้อมกับทำหน้ายุ่งกว่าเก่า “รู้ว่าของขวัญ แต่ฉันหมายถึงว่าใครเอามาให้ และให้เนื่องในโอกาสอะไร?”
“นายท่านให้เอาของพวกนี้มาให้คุณหนูค่ะ”
นาตาชานิ่วหน้า วันนี้ไม่ใช่วันเกิดของเธอ ไม่มีวันครบรอบในโอกาสพิเศษ ๆ ด้วย!
แต่นั่นไม่มหัศจรรย์เท่ากับว่าเธอได้รับของขวัญจากพ่อ! ก็ตั้งแต่เกิดมาเป็นพ่อลูกกัน เธอไม่เคยได้รับของขวัญสักชิ้นจากพ่อ สิ่งที่เธอได้รับมีแค่ที่ซุกหัวนอนและเงินค่าเทอมเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เธอกับแม่ต้องดิ้นรนรับผิดชอบกันเอาเอง
“ล้อเล่นน่า เอามาให้ผิดคนหรือเปล่า?” หญิงสาวถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ไม่ผิดค่ะ นายท่านสั่งมาเพื่อคุณหนูจริง ๆ”
ถึงจะได้รับคำยืนยันจากเมดสาว นาตาชาก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี หิมะคงตกที่เส้นศูนย์สูตร หากพ่อจะใจดีกับเธอมากขนาดนี้ หรือไม่ พ่ออาจมีเป้าหมายแอบแฝงก็เป็นได้ เขาถึงได้เอาสิ่งของมากมายมาบรรณาการเธอ
“แน่ใจนะว่าไม่ใช่ของโดโรเทียร์?” หญิงสาวถามเพื่อความมั่นใจ เพราะหากข้าวของพวกนี้เป็นของโดโรเทียร์ พี่สาวต่างมารดา สิ่งของเหล่านี้ควรถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากบ้านของเธอโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเธออาจเจอกับปัญหาใหญ่ตามมา!
“ไม่ใช่แน่นอนค่ะ นี่เป็นชุดที่คุณหนูต้องใส่ไปร่วมงานแฟนซีหน้ากากค่ะ”
นั่นไง พ่อมอบข้าวของเหล่านี้ให้เพราะมีจุดประสงค์จริงด้วย
“เอากลับไปเถอะ ฉันไม่ใส่หรอก”
“ไม่ได้นะคะ ขืนเอาไปคืนนายท่านต้องโกรธมากแน่”
นาตาชาถอนหายใจเบา ๆ “โอเค ไม่คืนก็ไม่คืน”
พอคุณหนูนาตาชาเอ่ยปากออกมา คาร์ร่าจึงยิ้มอย่างโล่งใจ เธอจึงหยิบกล่องสีเงินขึ้นมา “ส่วนนี้เป็นหน้ากากสำหรับใส่ไปงานค่ะ”
