ตอนที่ 5 ความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้น
คีลเดินผ่านโถงยาวกลับไปยังห้องนอนของลลิน ห้องที่มีเธอนอนอยู่ในนั้น ทุกก้าวที่เท้าเดินในหัวกลับคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ที่เขาให้ซาร่าออกจากบ้านทันทีโดยไม่ลังเลนั้น ไม่ใช่เพราะห่วง ไม่ใช่เพราะแคร์ ความรู้สึกของหญิงสาวอีกคน
เขาแค่...ไม่ต้องการความวุ่นวายมากเกินกว่านี้แล้ว
ประตูห้องนอนถูกเปิดออก ไฟในห้องดับอยู่ มีเพียงแสงจันทร์จากนอกหน้าต่างสาดเข้ามา ให้ได้มองเห็นร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง แต่เขารู้ดีว่าเธอยังไม่หลับ
เขาเดินเข้ามาใกล้หยุดยืนข้างเตียง ไม่พูดอะไร แค่… จ้องมองเธออยู่เงียบ ๆ ราวกับพยายามหักห้ามความรู้สึกบางอย่างให้หนีหายออกไปจากจิตใจ
คีลยืนอยู่ตรงนั้นนานหลายนาที มองร่างที่นอนอยู่กลางเตียง แผ่นหลังที่คุ้นเคยกำลังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ร่างบอบบางสั่นไหวเพียงเล็กน้อยด้วยจังหวะหายใจที่ผิดปกติ แม้เธอจะไม่ขยับ ไม่พูด แต่ในความเงียบมีบางสิ่งที่ดูผิดปกติเขารับรู้ได้ทั้งหมด
เขาไม่ได้คิดจะปลอบ แต่ไม่รู้ว่าทำไม…เขากลับเดินเข้าใกล้เตียง
และก่อนที่สัญชาตญาณจะห้ามทัน เขาก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนด้านหลังเธออย่างแผ่วเบา กลิ่นกายหอมลอยมาแตะปลายจมูกทันที คีลค่อย ๆ เอื้อมแขนไปรั้งเธอเข้ามาสวมกอดแนบอกโดยไม่ขออนุญาต มือของเขาวางบนหน้าท้องแบนราบของเธอ ลลินสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ขยับหนี ไม่มีเสียงประท้วง ไม่มีแรงผลัก ไม่มีคำพูดใดที่เอ่ยห้ามการกระทำนี้
เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นจนเขาเผลอลืมหายใจ เป็นความรู้สึกดีที่ทำให้หัวใจของเขากระตุก…เหมือนกำลังได้อยู่ในความฝันที่เคยถวิลหา ทั้งที่รู้ดีว่าความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน
กลิ่นหอมจากเส้นผมยาว มันทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเหมือนดั่งวันวานอีกครั้ง เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ได้โอบกอดคนที่รักไว้ในอ้อมแขน
เขาหลับตาแน่น ใจหนึ่งอยากจะกอดให้แน่นขึ้นอีกนิด แค่เพียงนิดเดียว...แต่อีกใจกลับตะโกนใส่เขาว่า... “เธอคือผู้หญิงคนนั้น ที่ทิ้งเขาไปโดยไม่เหลียวกลับมา”
รู้ดีว่าตัวเองยังไม่สามารถให้อภัยในความผิดของเธอได้ มันยังไม่ลืม และยังคงเกลียดเธออยู่ แต่ทำไมเขากลับนอนอยู่ตรงนี้ กอดเธอไว้ในอ้อมแขน และหวังให้เวลา... หยุดเดินลงสักครู่
ความร้อนที่แผ่จากผิวกายของเธอกำลังทำให้น้ำแข็งในอกของเขาแตกร้าวอย่างเงียบ ๆ เขารู้สึกเหมือนกำลังจะพ่ายแพ้ และเขาเกลียดความรู้สึกนี้ที่สุด
เขาปล่อยมือออกจากร่างบางที่หอมหวานและผละกายออกห่างในทันที คีลลุกขึ้นนั่งหันหลังให้ลลิน ก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่มีคำพูดใด ๆ
เสียงประตูปิดลงเบา ๆ ลลินยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่มีเสียงสะอื้น ไม่มีน้ำตา มีเพียงความว่างเปล่าที่อัดแน่นอยู่ในอก เพราะแม้เขาจะกอดเธอแน่นแค่ไหน…สุดท้าย เธอก็เป็นได้แค่ลูกหนี้ที่ต้องอยู่ใช้หนี้ให้กับเขาก็เท่านั้น
วันต่อมาเวลา 20.00 น.
งานประมูลจัดขึ้นในคฤหาสน์เก่าสไตล์ยุโรปกลางป่า โคมไฟระย้าแขวนอยู่เหนือศีรษะนั้นดูตระการตาสำหรับแขกผู้มาเยือน กลิ่นไวน์แดงและหนังสัตว์เก่าจาง ๆ ลอยคลุ้งในอากาศ ทุกคนในงานสวมหน้ากากครึ่งหน้า ไม่มีใครเปิดเผยตัวตน มีเพียงตัวเลขที่ถูกติดเอาไว้ด้านหน้าอกซ้ายเท่านั้น
ลลินถูกพาเข้ามาทางประตูด้านหลัง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพาเธอมาสถานที่นี่ทำไม ไร้ซึ่งคำถามใด ๆ ยอมเดินตามเขาเข้ามาในห้องเงียบ ๆ โดยหารู้ไม่ว่าวันนี้เธอมา...ในฐานะสินค้าที่ต้องเข้าร่วมประมูล...
“… ที่นี่คือ…” เสียงเธอแผ่ว แววตารับรู้ได้ถึงความเป็นกังวล
เขาไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะหันมามอง มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กขึ้น ดึงจนเธอเซเข้าหาอกของเขา ลลินดูตกใจใช้มือสองข้างดันตัวเองให้ออกห่างจากตัวของคีล
“จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย” เขาหันมองไปยังชุดที่ถูกเตรียมเอาไว้บนโต๊ะ พร้อมกับออกคำสั่งกับคนรับใช้ที่อยู่ภายในห้อง
ลลินหันมองเสื้อผ้าที่สาวใช้นำมาให้เธอเปลี่ยน มันไม่ใช่ชุด มันคือเศษผ้าที่เหลือใช้มากกว่า แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจและต้องการปฏิเสธเสื้อผ้าชุดนี้
“เสียเวลามากกว่านี้ไม่ได้แล้วค่ะ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วนะคะ” เสียงสาวใช้เอ่ยขึ้น
หญิงสาวยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าในที่สุด เธอมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ ชุดที่สวมใส่แทบปิดอะไรไม่มิด แล้วเธอจะทำอะไรได้ ขายตัวเองให้เขาแล้ว...ก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้
เธอถูกพามายังห้องห้องหนึ่ง ซึ่งมืดมากกว่าจะสว่าง สาวใช้ยังคงยืนอยู่ข้างกายไม่ยอมห่าง ก่อนผ้าสีขาวที่ถูกคลุมเอาไว้จะถูกดึงให้ร่วงหล่นลงมาที่พื้น ด้านหน้าของเธอมีกรงสีทองขนาดใหญ่ เท้าเล็กเริ่มถอยออกห่าง ก่อนสาวใช้จะไขกุญแจเปิดประตู ให้เธอเข้าไปด้านใน
“เชิญค่ะ” สาวรับใช้เอ่ยเสียงเรียบ แววตาจ้องมองมาหาลลินอย่างเย็นชา
“มะ...ไม่...จะทำอะไรกับฉัน?” เธอถอยหลังออกห่าง เตรียมพร้อมที่จะวิ่งหนี หากแต่ถูกชายร่างใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนรั้งตัวเอาไว้ก่อน
ร่างบางถูกนำเข้ามาในกรงขังสีทอง ข้อมือของเธอถูกยกขึ้นเหนือศีรษะ แล้วถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยโซ่ขนาดใหญ่ และที่ข้อเท้าก็ยังมีโซ่ตรึงเอาไว้ด้วยเช่นกัน
ลลินดิ้นรนขัดขืนหากแต่...ยิ่งดิ้นโซ่นั้นก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้น ความเจ็บแสบที่ข้อมือและข้อเท้าทำให้น้ำตาของเธอไหลอาบสองข้างแก้ม ก่อนที่ผ้าสีขาวจะถูกปิดลงมาที่ดวงตาทั้งสองข้าง
ภายใต้ผ้าปิดตา เธอมองไม่เห็นอะไร ได้ยินเพียงเสียงผู้คนที่มีมากกว่าสิบคน เสียงซุบซิบ เสียงหัวเราะ มันทำให้เธอรู้สึกตื่นกลัว แต่สุดท้ายลลินก็ทำได้เพียงกัดฟัน
เธออยู่ในกรงภายใต้ชุดบางจนแทบปิดอะไรไม่มิด มือถูกรั้งขึ้นเหนือหัว ขาแทบไม่มีแรงยืน หัวใจเต้นดังราวจะระเบิดออกมา และทุกอย่างนี้… ถูกจัดขึ้นโดย “เขา”
“สินค้าเซอร์ไพรส์ของค่ำคืนนี้... หนึ่งเดียวในโลก ผู้หญิงที่คุณจะไม่มีวันลืม เริ่มประมูลที่ห้าล้าน”
เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที ชายสวมหน้ากากมากมายลุกขึ้นจ้องหญิงสาวในกรงทองตาเป็นมัน เสียงประมูลเริ่มต้น สิบล้าน สิบสองล้าน สิบห้าล้าน...ยี่สิบล้าน!
คีลนั่งอยู่หน้าเวที ใบหน้านิ่งเงียบ ไม่พูด ไม่ขยับ ทำเพียงจ้องมองสินค้าประมูล ที่กำลังสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับเขาเพียงเท่านั้น
ลลินสัมผัสได้ถึงแสงไฟจากเวทีที่สาดเข้ามาผ่านผ้าสีขาว รวมถึงลมเย็นที่ลอดผ่านชายกระโปรง รับรู้ได้ถึงสายตาจากทุกคนที่จ้องเธอโดยที่ไม่ต้องเห็นภาพก็พอนึกออกถึงเหตุการณ์ในตอนนี้
และแม้เธอจะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าเขาอยู่ที่นี้ด้วยเช่นกัน คงสาแก่ใจเขาแล้ว...พอใจแล้วหรือยัง...ตอนนี้เธอไม่ต่างจากหญิงสาวขายบริการ ที่ต้องนอนกับผู้ชายแปลกหน้าไปทั่ว
แค่คิดลลินก็น้ำตาไหลออกมา ร่างบางสั่นไหวแต่ก็ยังกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ แต่ใครจะรู้ว่าสายตาคมที่กำลังจ้องมองอยู่นั้น มีบางอย่างที่กำลังเปลี่ยนไป
“ยี่สิบล้านครั้งที่หนึ่ง ยี่สิบล้านครั้งที่สอง ยี่สิบล้านครั้งที่...”
“สามสิบล้าน!” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้ทุกคนต่างเงียบแล้วหันมองไปทางเสียงนั้น
“ผมจะเริ่มนับแล้วนะครับ สามสิบล้านครั้งที่หนึ่ง สามสิบล้านครั้งที่สอง สามสิบล้านครั้งที่สาม!!”