บทที่2 อกหัก (4)
“บอกไว้ก่อนนะคุณเทียร่า ฉันสามารถทำให้รอยสักติดบนร่างกายของคุณได้เท่านั้น แต่ฉันไม่สามารถลบสิ่งนี้ออกจากร่างกายคุณได้หากวันหนึ่งคุณไม่ต้องการสิ่งนี้” แอนนารีบออกตัวและทำความเข้าใจกับเหยื่อรายใหม่ขณะเตรียมอุปกรณ์สำหรับการสักลาย
“ไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันอยู่แล้วค่ะ เพราะฉันก็ไม่คิดที่จะลบงานศิลปะสวย ๆ ของคุณออกจากร่างกายอยู่แล้ว” รัดเกล้าตอบอย่างมั่นใจก่อนที่แอนนาเพื่อนสาวของไอริสจะลงมือสักแทตทูให้เธอ
ไอริสเห็นสีหน้ามุ่งมั่นของเพื่อนสาวทั้งสองจึงทำท่าขนลุกขนพอง แล้วลุกหนีไปทำอย่างอื่นที่เสียวไส้น้อยกว่านั้นซะ
พอคว้าหนังสืออ่านเล่นได้เธอจึงไปล้มตัวนอนบนเก้าอี้โยกแล้วเพลินกับตัวหนังสือโดยมีเสียงร้องของรัดเกล้าดังมาเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความหวาดเสียวไปนั่นล่ะ ไอริสหันมาสนใจรัดเกล้าอีกครั้ง
“เธอยังโอเคอยู่ใช่ไหมเทียร่า?”
“ใช่ ฉันไม่เป็นไร แค่เจ็บ... นิดหน่อย” รัดเกล้าใช้ทิชชูซับคราบน้ำตา ก่อนหันมายิ้มหวานให้กับไอริสที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นอุปกรณ์การสัก จากนั้นรัดเกล้าจึงยกขาขาว ๆ ที่มีรอยจุมพิตประทับอยู่หมาด ๆ ให้ไอริสได้เห็น
“เป็นไงบ้าง?”
“ว้าว สวยกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลยแอนนา”
แอนนาไหวไหล่ ย้อนถามอย่างอารมณ์ดี “สนใจอยากเป็นแบบให้ฉันอีกคนไหมล่ะ?”
“โอ้ ไม่ล่ะ ฉันคิดว่ามันน่าจะเจ็บ และฉันก็กลัวเลือดด้วย” ไอริสทำหน้าแหย ๆ ขณะปฏิเสธ ทั้งรัดเกล้า และไอริสอยู่พูดคุยกับแอนนาจนเย็นจากนั้นจึงลากลับที่พัก
“ขอบคุณที่เป็นนางแบบให้ฉันนะคุณเทียร่า”
“ด้วยความยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณสำหรับรอยสักสวย ๆ นะคะ” รัดเกล้ายิ้มหวานให้กับแอนนาก่อนจากมาพร้อมกับไอริส
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำสิ่งนี้นะเทียร่า เธอบ้าระห่ำมาก” ไอริสเอ่ยขึ้นเมื่อมีโอกาสได้อยู่กับรัดเกล้าเพียงลำพัง
รัดเกล้าจึงหัวเราะเสียงใสออกมาเบา ๆ “สร้างสรรค์ดีออก บางครั้งคนเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อตนเอง”
ไอริสพยักหน้าเห็นด้วยว่าคนเราควรเปลี่ยนแปลง แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่รัดเกล้าทำมันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ยังไง
“แค่รอยสักรอยเดียว ฉันยังไม่เห็นว่ามันจะทำให้เธอเปลี่ยนไปจากเทียร่าคนเดิมเลยนะ” ไอริสไม่วายคัดค้าน
“ใครว่าล่ะไอริส การเปลี่ยนแปลงกำลังเริ่มต้นขึ้นต่อจากนี้ต่างหาก ฉันจะใช้รอยจูบที่ข้อเท้าสำหรับเตือนใจตนเอง เพื่อไม่ใจง่ายไปตกหลุมรักใครง่าย ๆ อีก โดยเฉพาะพวกเพลย์บอยอย่างฟาบิโอ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำอย่างสาวเอเชียเป็นประกายระยับขึ้นมา ราวกับจะป่าวประกาศให้โลกรู้ว่านางสาวรัดเกล้า พิพัฒน์พงษ์คนเดิมได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว
ไอริสที่เห็นกิริยามั่นอกมั่นใจของเพื่อนสาวจึงอดย่นคิ้วเข้าหากันไม่ได้ เพราะเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนสาวชาวเอเชียรายนี้เอ่ยออกมาสักนิด
“สมมุติว่ามีหนุ่มรูปงามเพอร์เฟคสุด ๆ มาสารภาพรักกับเธอล่ะ เธอจะรับมือกับเขายังไง?”
“ไม่รู้สิ”
“อ้าว”
รัดเกล้าหัวเราะคิกคักออกมา
“ฉันล้อเล่น อย่าห่วงเรื่องนั้นไปเลยไอริส ฉันมีวิธีจัดการกับเรื่องนี้แน่นอน ยังไงซะเธอก็ช่วยเป็นพยานให้พ่อรูปหล่อคนนั้นด้วยก็แล้วกัน ว่าฉันจะรับรักเฉพาะผู้ชายที่ก้มมาจุมพิตที่รอยสักบนข้อเท้าของฉันเท่านั้น” รัดเกล้าตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ และคำตอบนี้เองพาให้แม่สาวอิตาเลี่ยนถึงกับตาโตเท่าไข่ห่าน
“ช่างวิเศษ... ช่างวิเศษมาก ๆ เลยเทียร่า”
รัดเกล้าหัวเราะเสียงใสอย่างอารมณ์ดีไปพร้อมกับไอริส ดูว่าเสียงหัวเราะของรัดเกล้าครั้งนี้จะเป็นเสียงหัวเราะแห่งความสุขของเธอที่มีเป็นครั้งแรกหลังจากเลิกกับฟาบิโอเลยทีเดียว...
##### บทที่3
ลาก่อนมิลาน
หลังจากจัดการเอกสารกับทางมหาวิทยาลัยเรียบร้อยรวมถึงติดต่อกับคุณป้าพิศอาภา รัดเกล้าจึงตัดสินใจบอกคืนห้องพัก และเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเตรียมตัวบินกลับประเทศไทย
