บทที่1 ดินเนอร์ (2)
ถ้าเป็นไปได้เธออยากสั่งอาหารไทยซะด้วยซ้ำ แต่ก็เกรงใจเจ้ามือสุดหล่อที่นั่งอยู่ในฝั่งตรงข้าม ซึ่งนาน ๆ เขาจะพาเธอมาดินเนอร์ในสถานที่โรแมนติกแบบนี้ สุดท้ายรัดเกล้าจึงยกหน้าที่การสั่งอาหารให้กับฟาบิโอซะ
“นึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรขึ้นมาคะ คุณถึงนัดฉันมาทานดินเนอร์ที่นี่?”
“ผมแค่อยากแสดงความยินดีที่คุณสำเร็จการศึกษา... ไม่ได้เหรอ?”
น้ำเสียงนั้นแฝงความน้อยใจมานิด ๆ แต่ถ้ารัดเกล้ารู้จักฟาบิโอ วิเวียโนดีอีกสักนิด เธอจะรู้ว่านี่คือคำพูดที่เขาต้องการเอาใจสาว ๆ ที่คบหาด้วยเท่านั้น สิ่งที่เขาทำลงไปไม่ได้พิเศษแต่อย่างใด
“เอาไว้ฉลองพร้อมกันทีเดียวก็ได้นี่คะ” หญิงสาวเอียงคอมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชมที่เขายอมเปลี่ยนรสนิยมตัวเองชั่วคราวเพื่อเธอ ซึ่งกิริยาน่ารักแต่แฝงความเซ็กซี่ของหญิงสาวนี้กลับทำให้ฟาบิโอตีความว่า ‘เธอกำลังทอดสะพานให้ท่าเขาอยู่’
ฟาบิโอสบตากับหญิงสาว ใต้แสงเทียนนวลตาที่ทางร้านเตรียมไว้เพื่อสร้างบรรยากาศให้ลูกค้า ยิ่งทำให้แม่สาวเอเชียดูสวยและเซ็กซี่กว่าวันไหน ๆ ที่เขาเคยเห็นมา ซึ่งสิ่งที่เห็นนั้นทำให้ฟาบิโอรู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย “ผมยังต้องเรียนซัมเมอร์ กว่าจะจบคุณไม่บินหนีผมกลับไทยแล้วเหรอ”
รัดเกล้าหัวเราะเบา ๆ กับถ้อยคำตัดพ้อของเขา “จะยากอะไรล่ะคะ คุณก็บินตามฉันไปที่เมืองไทยก็หมดเรื่อง”
ฟาบิโอเงียบไปอึดใจ กระนั้นดวงตาคมคายและเจ้าชู้ของเขายังไม่ละไปจากริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงดูเย้ายวนอย่างมีความหมาย
“นี่เป็นคำแนะนำที่วิเศษมาก ผมเคยคิดเอาไว้เล่น ๆ นะ ว่าสักวันหนึ่งถ้ามีโอกาส ผมจะไปเหยียบเมืองไทยสักครั้ง” ชายหนุ่มยิ้มตาพราวเห็นด้วยกับความคิดของหญิงสาว เพราะนั่นคือแผนการที่เขาเตรียมไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตเช่นกัน
แต่สำหรับรัดเกล้า เธอรู้สึกพึงพอใจมากเป็นพิเศษเลยเชียวเมื่อชายหนุ่มที่เธอคบหาอยู่ ยินดีและเต็มใจจะบินไปเมืองไทยซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ
อย่างน้อย ๆ การเรียนที่อิตาลีในครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไร้ประโยชน์อย่างที่ณิชาลูกพี่ลูกน้องของเธอเคยสบประมาทตั้งข้อกล่าวหาไว้ เพราะงานนี้ไม่เพียงเธอจะได้ความรู้ติดตัวกลับไปใช้งาน
เธอยังควงหนุ่มหล่อจากอิตาลีกลับไปเมืองไทยด้วย และรัดเกล้าเชื่อว่าบรรดาเพื่อนรักของเธอ ซึ่งรวมไปถึงณิชาต้องพากันกรี๊ดกร๊าดให้กับความโชคดีของเธอแน่นอน
ตั้งแต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์พลัดตกหน้าผา รัดเกล้าจึงตกอยู่ภายใต้การดูแลของ ‘คุณพิศอาภา ขจีจรัส’ ผู้เป็นป้าตั้งแต่เธออายุสิบสองปี และด้วยทรัพย์สมบัติที่คุณพ่ออริยะ คุณแม่สุขตา พิพัฒน์พงษ์ทำพินัยกรรมทิ้งไว้ให้
จึงสามารถทำให้เด็กหญิงช่างฝันอย่างเธอมีโอกาสได้ร่ำเรียนสูง ๆ ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศ รวมถึงมีโอกาสเข้าสอบชิงทุน และได้ทุนมาเรียนที่มิลานในสาขาแฟชั่นดีไซน์ที่เธอชื่นชอบอีกด้วย
และนี่เองจึงทำให้เธอได้ประสบการณ์มากมาย เธอพบรักกับยูโกซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน แต่ด้วยทัศนะคติที่ไม่ตรงกัน อีกทั้งยูโกยังเป็นผู้ชายเจ้าชู้ เธอจึงตัดสินใจเลิกกับยูโกซะ
แต่ทว่าเธอเลิกกับยูโกเพียงสัปดาห์เดียวเธอก็ได้พบรักครั้งใหม่กับ ฟาบิโอ วิเวียโน หนุ่มอิตาเลี่ยนเลือดร้อนผู้หลงใหล คลั่งไคล้ ในเสียงดนตรี และมีความฝันอยากเป็นศิลปิน
ดูว่าเส้นทางความรักของเธอจะราบรื่น แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เป็นอย่างที่เธอคิดซะเท่าไหร่ ฟาบิโอมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง และเหมือนบางครั้งเธอก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา
รวมถึงอีกหลาย ๆ เรื่องที่เธอไม่เข้าใจ ซึ่งรวมนั่นคือ เหตุใดฟาบิโอซึ่งทำงานพิเศษเป็นนักดนตรีอยู่ในไนท์คลับอยู่แล้วเหตุใดเขายังต้องมาเรียนดนตรี พอเธอถามเขา เขาก็ตอบอย่างกำปั้นทุบดินที่ว่า ‘มันน่าสนใจ’ เท่านั้น
เอาเถอะ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เธอรู้แค่ว่าอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้แล้วมีสิ่งท้าทายให้ทำตลอดเวลา ก็นับว่าเป็นเรื่องสนุกสุดเหวี่ยงสำหรับเธอแล้วล่ะ
อย่างน้อย ๆ เธอก็เอาชนะพนันเพื่อนสาวในกลุ่มที่สนิทกันได้ และยังสามารถทำให้ผู้ชายมากด้วยเสน่ห์ เจ้าชู้ และมีสาว ๆ มารุมรักอย่างฟาบิโอ หันมามอง ‘ยัยเฉิ่ม’ ที่หกล้มกลางหิมะท่ามกลางสายตาของนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยได้ล่ะน่า...
เหมือนในค่ำคืนนี้ที่เธอลุกขึ้นมา ‘แปลงโฉม’ เพื่อเขาโดยเฉพาะ และยังสามารถสะกดดวงตาคมคายของฟาบิโอด้วยความสวย และเสน่ห์ของเธอนี่ล่ะ
“เมืองไทยน่าอยู่มากค่ะ ฉันรับรองว่าถ้าคุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวคุณเอง คุณจะหลงรักที่นั่น และหากคุณติดใจจะอยู่ที่นั่นตลอดชีวิต ฉันก็ยินดีต้อนรับนะคะ”
“ผมคงต้องลองไปเที่ยวดูก่อน แล้วค่อยกลับมาตัดสินใจอีกครั้งในภายหลังว่าผมจะบินไปอยู่เมืองไทยคนเดียว หรือว่าจะพาครอบครัวของผมไปอยู่ที่นั่นด้วย” ฟาบิโอบอกอย่างให้ความหวัง และคำตอบนี้เองที่ทำให้รัดเกล้ายิ้มกว้างด้วยความปลาบปลื้ม
“เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะฟาบิโอ ว่าแต่คืนนี้คุณต้องกลับไปทำงานที่ไนท์คลับอีกไหมคะ?”
“คุณยังจะใจร้ายให้ผมทำงานอีกเหรอครับ คืนนี้คือคืนพิเศษของสองเรา ผมอยากอยู่กับคุณสองต่อสองมากกว่าก่อนที่คุณจะหนีผมไปไทย” ดวงตาของหนุ่มอิตาเลี่ยนเป็นประกายหวานเชื่อม และนี่เองที่ทำให้รัดเกล้าเสหลบสายตาคู่นั้น
