บทที่ 18
จือลู่จึงเล่าเรื่องที่นางไปตลาดค้าทาสเพื่อซื้อสตรีมาเรียนแต่งหน้ากับนาง และบังเอิญไปเจอคนของสำนักคุ้มกันภัย เลยซื้อกลับมาด้วยทั้งหมด จือลู่ให้สตรีทั้งหกคนที่นางซื้อมาไปอยู่ที่ร้านค้าในเมืองและให้ผู้ดูแลร้านเป็นคนจัดการพวกนางไปก่อน แล้วนางจะตามไปสอนที่ร้านค้าเอง
สองวันต่อมาคนของสำนักคุ้มกันภัยทั้งหมดก็มาพบจือลู่ที่เรือนหลัก
"พวกท่านมีนามว่าอันใดบ้าง"
แต่ละคนเริ่มแนะนำตัว หัวหน้าผู้คุ้มกันภัยมีนามว่าตู้หนานกง ภรรยานามว่า พานเยว่ คนทั้งหมดเป็นคนตระกูลตู้ตั้งสำนักคุ้มกันภัยอยู่ที่เมืองหลวง แต่ที่ต้องตกเป็นทาสหลวง เพราะถูกขุนนางใส่ร้ายเรื่องคุ้มกันสินค้าไปต่างเมือง แล้วสินค้าได้หายไป
ตู้หนานกงหาหลักฐานมาโต้แย้งในครั้งนั้นไม่ได้ เขาจำต้องเสียสำนักคุ้มกันภัยให้กับขุนนางท่านนั้น หากเพียงเท่านั้นพวกเขาคงไม่ต้องมาเป็นทาส แต่เพราะกลัวว่าหนานกงจะฆ่าล้างตระกูล จึงติดสินบนให้ตัดสินตระกูลตู้ทั้งตระกูลไปเป็นทาสหลวง
จือลู่เมื่อฟังจบนางก็ขมวดคิ้ว นี่มันเรื่องอะไรวะ คนเราจะเป็นทาสกันง่ายถึงเพียงนี้เลยหรือ
"แล้วพวกท่านสามารถหลุดพ้นจากสถานะทาสได้หรือไม่" จือลู่เอ่ยถามขึ้น
"ได้" หนิงเฉิงที่นั่งอยู่ข้างจือลู่ก็เอ่ยขึ้น
"เช่นนั้น พวกท่านทำงานให้ข้า หากวันใดที่อยากหลุดพ้นก็มาไถ่ถอนตัวไปได้เจ้าค่ะ"
คนตระกูลตู้ไม่คิดว่าจือลู่และหนิงเฉิงจะยอมให้พวกเขาไถ่ถอนง่ายถึงเพียงนี้
"คุณหนู คุณชาย ท่านพูดจริงหรือขอรับ" หนางกงพูดขึ้นเสียงสั่น
"ต่อให้พวกท่านไม่อยากไถ่ถอนต่อไป ข้าก็จะคืนสัญญาให้พวกท่านอยู่ดี แต่พวกท่านต้องซื่อสัตย์กับข้าและเฉิงเออร์ด้วยใจจริง" นางสบตากับหนานกง
"พวกข้าสาบานว่าไม่มีวันทรยศต่อท่านทั้งสองด้วยชีวิตขอรับ/เจ้าค่ะ" ทั้งหมดคุกเข่าลงและพูดด้วยเสียงจริงจัง
จือลู่กับหนิงเฉิงโบกมือพร้อมทั้งเข้าไปประคองให้ทุกคนลุกขึ้น จือลู่จึงได้ยกเรื่องสำนักข่าวให้หนานกงไปดูและ พร้อมทั้งบอกเรื่องกลุ่มเด็กที่นางรับดูแลไว้ ให้พวกเขาแบ่งคนไปฝึกวรยุทธให้พวกเขา
นางขอให้จัดผู้ติดตามให้นางสองคน เวลาที่นางออกไปนอกเรือนป้าจูและหนิงเฉิงจะได้เลิกเป็นห่วงนางเสียที หนานกงให้น้องชายมารดาเดียวกับเขาสองคน นามว่าตู้หนานฉีกับตู้หนานซง คอยติดตามนาง
จือลู่ใช้เวลาว่างจากงานที่นางรับไว้ ไปสอนแต่งหน้าให้กับสตรีที่นางซื้อมาทั้งหกคน เมื่อเริ่มสอนพื้นฐานจือลู่จึงรู้ว่ามีเพียงสามคนเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี นางจึงให้อีกสามคนเป็นคนทำผมแทน ทั้งหกคนที่มีความรู้เรื่องทำผมทรงต่างๆจึงแลกเปลี่ยนความรู้กัน
"พวกเจ้าจะได้ค่าจ้างทุกครั้งที่ทำงาน ต่อไปหากพวกเจ้ามีครอบครัวก็สามารถไถ่ถอนตัวเองออกไปได้" ทั้งหกคนน้ำตาไหลนองหน้าอย่างซาบซึ้ง พวกนางล้วนแล้วแต่ถูกทางบ้านขายเป็นทาสมาตั้งแต่เล็ก และไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะได้หลุดพ้นจากความเป็นทาส
"เอาล่ะ พวกเจ้าตั้งใจเรียนรู้เถิด หากมีความรู้พวกเจ้าก็จะหาเงินมาไถ่ถอนตัวได้เร็ว" เมื่อมีความหวังทุกคนต่างก็มุ่งมั่นที่จะรับการเรียนรู้จากจือลู่ แม้อีกสามคนจะไม่มีพรสวรรค์ทางด้านแต่งหน้า จือลู่ก็ยังให้พวกนางเรียนรู้ไปพร้อมกัน อย่างน้อยก็ยังสามารถแต่งหน้าตนเองได้
เพียงไม่กี่เดือนกิจการของจือลู่ก็สามารถส่งคนของนางไปแต่งหน้าแทนได้แล้ว ลูกค้ายังชื่นชอบอีกด้วยที่ไม่ต้องรอนานและสามารถจองได้ตลอดเวลา แต่ก็จะมีเพียงบางคนที่ต้องเป็นจือลู่เท่านั้น เช่น ฮูหยินท่านเจ้าเมือง และฮูหยินท่านผู้ตรวจการ
วันนี้ก็เช่นกันนางต้องไปแต่งหน้าให้ฮูหยินท่านเจ้าเมืองและบุตรสาวของนาง เมื่อไปถึงจือลู่ก็เดินไปยังห้องรับรองเช่นทุกครั้งที่นางได้มาเยือน
"แม่นางเสิ่น เชิญท่านทางนี้เจ้าค่ะ" จือลู่เดินตามสาวรับใช้ไปอย่างแปลกใจ
นางหยุดลงที่ศาลาริมน้ำ จือลู่จึงต้องหยุดเดินตามนาง นางผายมือไปที่ศาลา จือลู่พบว่ามีบุรุษอยู่ด้านในศาลาแต่หันข้างให้นาง นางมองไม่ชัดเพราะผ้าที่คลุมหน้าของนางอยู่
"นี่คืออันใด" นางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
"ฮูหยินให้ข้าพาท่านมาพบคุณชายหยางเท่านั้นเจ้าค่ะ มิได้บอกอันใด" จือลู่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
"แล้วให้ข้าทำเช่นใดต่อ" นางถามเพราะนางไม่รู้จริงๆ ไม่มีใครบอกเรื่องอะไรกับนางก่อนที่จะเดินมาที่ศาลา
