บทที่ 12
วันที่สองนางก็เริ่มพาสตรีในหมู่บ้านมาตีเส้นใยให้ฟูก่อนจะตากแดดอีกครั้ง หนิงเฉิงเข้าไปในเมืองกับผู้นำหมู่บ้านและบุรุษอีกสองสามคนเพื่อนำหญ้าหนอนไปขายที่ร้านหมอโยว หมอโยวให้ราคาเท่ากับที่สองพี่น้องนำมาขาย
แต่ครั้งนี้มีเพียงสองชั่งเท่านั้น ผู้นำหมู่บ้านรับเงินจากท่านหมอโยวด้วยมือที่สั่นเทา เพราะนึกไม่ถึงว่าจะได้เงินมากถึงหกพันตำลึงทอง เขาขอเป็นตั๋วเงินใบละหนึ่งร้อยตำลึงเงิน เพื่อไปแบ่งให้ทุกคนในหมู่บ้าน
หากแบ่งให้ทุกครัวเรือนที่ไปช่วยหาก็จะตกที่ครัวเรือนละสี่สิบตำลึงทองก็นับว่ามากมายอยู่ดี ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่มีทางหาเงินได้มากถึงเพียงนี้ แม้แต่ผู้นำหมู่บ้านเองก็ด้วย
ก่อนกลับหมู่บ้านบุรุษที่เดินทางมาพร้อมกับผู้นำหมู่บ้านที่ได้รับเงินแล้วก็ขอตัวไปซื้อของกับเรือน หนิงเฉิงจึงไปซื้อผ้าให้จือลู่เพราะนางจะนำไปทำเป็นหมอน เขาจึงเลือกซื้อผ้าฝ้ายตามคำสั่งของพี่สาว
เมื่อกลับถึงหมู่บ้าน ชาวบ้านที่ไม่ยอมกลับเรือนต่างก็นั่งรอผู้นำหมู่บ้านกลับมาจากในเมือง เพียงแค่เห็นเกวียนวัวเข้ามามากถึงสามคันรถต่างก็แปลกใจ พอเห็นว่าคนที่นั่งมาเป็นคนที่ไปกับผู้นำหมู่บ้านต่างก็แย่งกันสอบถาม
พอรู้ว่าตนได้เงินมากถึงสี่สิบตำลึงทองบางคนโห่ร้อง บางคนร้องไห้ออกมาอย่างยินดี ทุกคนจึงได้เข้ามาขอบคุณสองพี่น้องที่ช่วยให้พวกเขาได้เงินก้อนนี้ แต่ก็คงมีเพียงนางกงซื่อและต้าอู๋ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจ จือลู่กับหนิงเฉิงเป็นหลานของตนหากมาบอกแค่ตนเงินทั้งหมดก็คงเป็นของพวกเขาไปแล้ว
แต่ในตอนนี้จะทำอันใดได้ ชาวบ้านรวมถึงผู้นำหมู่บ้านล้วนอยู่ข้างสองพี่น้อง หากพวกตนทำอันใดสองพี่น้องคงได้ถูกขับออกจากหมู่บ้านแน่ หากนางกงซื่อรู้ว่าสองพี่น้องซื้อเรือนในเมืองจะอิจฉามากเพียงใด
เมื่อเสร็จเรื่องทั้งหมด ผู้นำหมู่บ้านจึงชวนจือลู่ให้อยู่ทานข้าวที่เรือนของตน สองพี่น้องก็มิได้ปฏิเสธ จือลู่เห็นบุตรสาวคนเล็กของท่านปู่ชุยกำลังเย็บผ้าคลุมหน้านางจึงเดินเข้าไปดูอย่างสนใจ
"พี่เหมยท่านกำลังปักอันใดหรือ"
"ข้ากำลังปักผ้าคลุมหน้า" นางแสดงสีหน้าเขินอาย
"เหมยเออร์ใกล้ออกเรือนแล้ว เงินที่ขายหญ้าหนอนมาได้ข้าก็จะแบ่งให้เป็นสินเดิมของนาง" ย่าชุยพูดขึ้น ท่านปู่ชุยมีบุตรชายที่ออกเรือนแล้วสองคนนำว่าเรือนตระกูลชุยของเขาได้เงินถึงหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึงทอง
"ขอบใจเจ้ามากลู่เออร์" ชุยเหมยจับมือของจือลู่ไว้
"ข้ามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากท่านย่าชุยด้วยเจ้าค่ะ" จือลู่เอ่ยขึ้น เพราะนางอยากหาคนเย็บหมอนให้นาง แต่นางไม่รู้ว่าจะขอให้ใครช่วยลำพังให้นางทำเองก็คงจะเย็บไม่ได้แน่
"เรื่องอันใด มีสิ่งใดที่ข้าจะช่วยเจ้าได้" พ่อท่านย่าชุยได้ยินก็หัวเราะอย่างขบขัน นางรีบให้จือลู่นำผ้ามาให้นางทันที
จือลู่ส่งผ้าให้และบอกว่านางต้องการหมอนขนาดเท่าใด และนางขอให้เย็บให้นางถึงสี่ใบ ท่านย่าชุยจะช่วยเย็บผ้าห่มให้นางด้วยแต่นางปฏิเสธไปและจะนำนุ่นไปยัดใส่เอง เพราะนางให้ทางร้านผ้าในเมืองทำผ้าห่มไว้ให้นางแล้ว
ทั้งหมดกินข้าวและนั่งพูดคุยกัน จือลู่จึงได้รู้ว่าอีกสองเดือนชุยเหมยจะออกเรือน ท่านปู่ชุยย้ำว่าให้สองพี่น้องมาร่วมงานให้ได้ นางจึงรับปากและคิดจะแต่งหน้าให้ชุยเหมยด้วยตนเอง
"หากท่านไม่มั่นใจว่าข้าจะแต่งได้ ท่านตามข้าไปที่เรือนเสียก็สิ้นเรื่อง"จือลู่พูดกับชุยเหมย
ในวันงานของตนเองใครก็อยากจะเป็นเจ้าสาวที่สวยทั้งนั้น ชุยเหมยก็เช่นกัน นางจึงชวนย่าชุยให้ตามสองพี่น้องกลับไปที่เรือน หนิงเฉิงที่กลัวคนอื่นจะเห็นกล่องของพี่สาว
แต่เพราะครั้งที่แล้วก่อนจะกลับหมู่บ้านจือลู่ นางหาซื้อกล่องไม้ขนาดกลาง และซื้อตลับไม้ ตลับเครื่องเคลือบมาไว้บ้างแล้ว จือลู่จึงรีบล่วงหน้ากลับเรือนไปก่อนเพื่อเตรียมตัว ท่านย่าชุยและชุยเหมยที่อยู่เก็บจานล้างก็จะตามไปภายหลัง นางจึงมีเวลาอีกเล็กน้อยที่จะจัดเตรียมของ
สองพี่น้องเมื่อกลับเรือน หนิงเฉิงก็รีบมาช่วยพี่สาวนำของจากในกล่องเครื่องสำอางมาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ จือลู่เลือกของออกมาเพียงไม่กี่อย่างที่จำเป็นเท่านั้น แปรงแต่งหน้าหรือฟองน้ำนางก็ไม่ใช้ จะใช้นิ้วมือแทน
