1 ตัวภาระ (1)
แสงตะวันอ่อนอุ่นที่สาดส่องลงมาบนผืนทราย ได้คืนความมีชีวิตชีวาให้กับสรรพสิ่ง คือสัญญาณการเริ่มต้นวันใหม่ แต่สำหรับคามีเลีย เด็กหญิงวัยสิบปี ดวงตะวันยามเช้าคือสัญญาณการเริ่มต้นภารกิจประจำวันอย่างที่ ‘ทาส’ ทั่วไปควรกระทำ
มีเพียงสิ่งเดียวที่คามีเลียรู้สึกแตกต่างจากทาสทั่วไป และเป็นสิ่งเดียวที่นางภาคภูมิใจก็คือ นางคือหลานสาวแท้ ๆ ของภรรยาเจ้าของบ้าน!
พอตักน้ำเย็นเฉียบจากบ่อน้ำบาดาลเพื่อให้เจ้าของบ้านใช้ล้างหน้าแล้ว นางงามตัวน้อยที่ถูกตัดผมจนสั้นไม่ต่างจากเด็กชายจึงหันมาให้อาหารไก่ตัวอ้วนในคอก เจ้าแพะเครายาว และเจ้าอูฐต้วมเตี้ยมที่นอนหมอบอย่างสุขสบายในคอกสัตว์ซึ่งโรยด้วยเศษฟางแห้ง...
ภารกิจรับอรุณเสร็จสิ้นเรียบร้อย เด็กหญิงตัวน้อยจึงมาเก็บสำรับอาหารและจานชามไปล้างอย่างเคย
โชคดีที่ว่าวันนี้มีนมแพะเหลืออยู่ครึ่งเหยือก และซุปผักที่นางชื่นชอบ ทว่านั่งกินซุปข้น ๆ ยังไม่ถึงครึ่งถ้วยด้วยซ้ำ ฮูด้า ผู้นำครอบครัว และมีศักดิ์เป็นน้าเขยได้โวยวายด้วยความเกรี้ยวโกรธขึ้นมาทันที
“ข้ายังมิได้กินอาหารเช้า ใครอนุญาตให้เจ้าเอาอาหารของข้าไปกิน นังเด็กเหลือขอ!”
คามีเลียสำลักอาหารเพราะรีบกลืนซุปผักลงคอ แต่นางก็รีบเก็บซ่อนถ้วยไม้ในมือ ทว่าไม่ทันการณ์เมื่อฮูด้าเห็นเข้าเสียก่อน
“นังตัวดี เจ้ากล้ามาก!” ฮูด้า ชายผิวขาวหน้าตาดี แต่มีนิสัยขี้หงุดหงิดเค้นเสียงลอดไรฟัน ดวงตาสนิมเหล็กวาวโรจน์จ้องมองมาที่เด็กน้อยด้วยความไม่พอใจ
“ใครใช้ให้เจ้ากินซุปแสนอร่อยของข้า?!”
“ข้า... ข้าคิดว่าท่านน้าอิ่มแล้ว” คามีเลียละล่ำละลักตอบ แต่ถ้อยคำของนางกลับยิ่งทำให้ฮูด้ามีกิริยาเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเก่า
“นั่นคือความคิดโง่ ๆ ของเจ้า ทีหน้าทีหลังหัดถามข้าบ้าง ข้าจะทำโทษเจ้า!” ฮูด้าตวาดเสียงดัง พลางแย่งถ้วยไม้ที่มีซุปอยู่กว่าครึ่งมาสาดใส่หน้าของเด็กหญิง
“ท่านพี่!!!” นางโมน่าที่เห็นการกระทำของสามีรีบวางตะกร้าผักลง หันมาโวยวายทันทีเมื่อพบความรุนแรงเข้า
“ท่านทำอะไรคามีเลีย?!”
“หลบไปโมน่า ข้าจะสั่งสอนนังคามีเลีย นังเด็กเหลือแย่งอาหารของข้ากิน!” ฮูด้ากราดเข้าไป หมายจะทุบตีสั่งสอนคามีเลีย แต่นางโมน่าก็รีบขวางหน้าเอาไว้
“อย่านะ! อย่าแตะต้องหลานข้า”
“ถอยไปโมน่า!”
“อย่าแตะต้องนาง” โมน่าวิงวอน
“เจ้าไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับข้า” ฮูด้าที่เมาและกำลังโกรธตะโกนใส่หน้า อีกทั้งผลักภรรยาออกไป แต่นางโมน่าก็เข้ามาดึงชายเสื้อคลุมตัวเก่าของสามีเอาไว้
“อย่าแตะต้องคามีเลีย ข้าขอร้องท่านล่ะ”
“เจ้าห้ามข้าไม่ได้หรอก ฮึ ข้าอยากรู้นักนังเด็กเหลือขอมีอะไรดี เจ้าถึงปกป้องครั้งแล้วครั้งเล่า”
“นางคือหลานสาวของข้า”
โมน่าใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนลงคราทอดสายตามองเด็กหญิงหน้าตามอมแมมที่เลอะฝุ่นทรายแต่เช้า อีกทั้งมีซุปผักติดหัวจนมีสภาพที่เรียกว่า ‘ดูไม่จืด’
“ลูกสาวและลูกชายของเราเจ้ายังไม่เคยออกหน้าปกป้องเช่นนี้” ฮูด้ากระฟัดกระเฟียดไม่พอใจ
“เพราะท่านพี่ไม่เคยปฏิบัติเช่นนี้กับลูกของเรา ข้าขอร้องล่ะท่านพี่ อย่าใช้ความรุนแรงกับนาง คามีเลียยังเด็กนัก แค่พูดดี ๆ นางก็เข้าใจแล้ว”
โมน่าลูบแขนสามีเพื่อให้อีกฝ่ายใจเย็นลงขณะวิงวอน แต่มันไม่ได้ผล เพราะตอนนี้ฮูด้าเมาจนขาดสตินั่นเอง
“เจ้าต้องรู้ว่าเด็กนี่คือตัวภาระของครอบครัวเรา เท่านี้เราทั้งครอบครัวก็แทบจะอดตายเพราะไม่มีอาหารจะกินอยู่แล้ว ที่สำคัญกว่านั้นนังเด็กคนนี้จะนำความวุ่นวายมาสู่พวกเราทุกคน”
โมน่าถอนหายใจอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ฮูด้าโกรธที่คามีเลียกินอาหารก่อนตน แต่โมน่าเชื่อว่าฮูด้าน่าจะอารมณ์เสียในเรื่องอื่นมาก่อนหน้านี้ แล้วมาพาลลงกับคามีเลียมากกว่า
“ไม่มีความวุ่นวายใด ๆ นอกจากความไม่พอใจของท่าน คามีเลียคือตัวนำโชคของครอบครัวเรา”
