ตอนที่ 2
‘พี่นาเขาจำคนผิดหรือเปล่าพัชร ก็วันที่เธอบอกน่ะ พี่ชัฎเขาไปภูเก็ตกับฉัน แล้วพี่ชัฎเขาจะไปโผล่อยู่ที่ฮ่องกงได้ยังไง’
‘เฮ้ย! แต่พี่นาบอกว่าเป็นคุณชัฎจริงๆ นะ พี่นาจะจำคนผิดได้ไง หน้าแบบพี่ชัฎนี่..โหยเธอ เห็น ๕๐๐ เมตรยังจำได้เลย’
‘แต่ก็ฝากขอบคุณพี่นากับเธอด้วยนะที่เป็นห่วง ยังไงฉันก็จะระวังไว้ ถ้าพี่ชัฎเขามีพฤติกรรมอย่างว่าจริง ฉันก็คงไม่กล้าหรอก’
ศิศิรายิ้มรับพลางเอ่ยขอบคุณทั้งพัชราและฝากขอบคุณไปถึงพี่สาวของพัชราที่เปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่ฮ่องกง แม้สมัยเรียนเธอจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพัชราที่ตอนนี้ผันตัวเองไปเป็นแอร์โอสเตสประจำสายการบินไทย-ฮ่องกงก็ตาม
แต่เมื่อเรียนจบและโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ความไม่ลงรอยก็กลายกลับเป็นสนิทสนมกันไปอย่างไม่รู้ตัว ศิศิรามองเพื่อนสาวสวยที่เขี่ยปลายเส้นผมตัวเองไปมาอย่างสับสน รอยยิ้มสดใสส่งไปถึงเพื่อนแต่ทว่าภายในใจนั้นอยากจะร้องไห้โฮ ข่าวร้ายที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีมูล..อย่างเช่นตอนนี้ไง
โต๊ะสีขาวเข้าชุดกับเก้าอี้ไม้และตัวบ้านตัดกับแสงสีส้มนวลในยามพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า ลำแสงอุ่นๆ ริมทะเลประกอบกับเสียงคลื่นกระทบฝั่งขับขาน สร้างบรรยากาศโรแมนติครายล้อมรอบกาย อาหารหลายอย่างพร้อมอาหารทะเลสั่งตรงมาจากโรงแรมหรูถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม
“โห! น้ำค้าง เตรียมอาหารไว้ตั้งเยอะเลย แล้วจะทานกันหมดเหรอจ๊ะ มีแต่ของที่พี่ชอบทั้งนั้นเลย นางฟ้าคิดจะขุนพี่ให้อ้วนหรือไงจ๊ะ นี่พี่ก็อ้วนมากอยู่แล้ว ถ้าน้ำหนักขึ้นกว่านี้สักโลครึ่งโล ซัมเมอร์นี้พี่คงใส่เทรนด์ใหม่ที่สั่งมาไม่ได้แน่”
ชัฎพงษ์พูดพลางก้มมองสำรวจร่างกายตัวเอง กิริยามองแขนมองขาจับเอวตัวเองอย่างกับกลัวว่าไขมันจะสะสมมากยิ่งขึ้นนั้นทำให้ศิศิราต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกขวัญและกำลังใจตัวเองให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
“โถ! พี่ชัฎคะ พี่ชัฎน่ะอ้วนได้อีกตั้งเยอะ นี่น้ำค้างว่าจะผอมไปแล้วนะคะ ถ้าพี่ชัฎอ้วนกว่านี้สักนิด มีกล้ามเนื้อสักหน่อย ขี้คร้านน้ำค้างต้องช้ำใจตายเสียก่อนแน่ค่ะ ถ้ามีสาวเล็กสาวใหญ่มาเหล่พี่ชัฎ แถมด้วยลิง ค่าง บ่าง ชะนี เก้ง กวางอีกมีหวังพี่ชัฎได้เป็นขวัญใจชาวสีม่วงแน่ๆ”
เสียงหวานพูดเรื่อยๆ ในขณะที่มือบางรินไวน์เสิร์ฟ ดวงตาหวานชำเลืองมองกิริยาที่คู่หมั้นหนุ่มจะมีให้เห็น อาการชะงักกึกพร้อมดวงตาคมเฉี่ยวที่วาบขึ้นอย่างไม่พอใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มดังเดิม
ศิศิรารับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นเร้าของตัวเอง มือเท้าชื้นไปด้วยเหงื่อยามต้องทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้เสร็จสิ้น หากเธอไม่ทำก็จะไม่มีวันรู้ว่าสิ่งที่สงสัยนั้นเป็นจริงหรือไม่ สิบอย่างที่สงสัย ร้อยอย่างที่ได้ยินมาก็ไม่เท่าพิสูจน์ดูสักครั้ง
“น้ำค้างดื่มไวน์ด้วยหรือจ๊ะ พี่คิดว่าเราจะ NO. แอลกอฮอล์เสียอีก” เสียงนุ่มนวลออกจะสะบัดในตอนท้ายเหมือนจะจงใจเปลี่ยนเรื่องสนทนา
“ก็ดื่มบ้างเล็กน้อยค่ะ เวลาสังสรรค์กับเพื่อน พี่ชัฎคงไม่ว่า..”
“อืม..จะว่าได้ไงจ๊ะ พี่เข้าใจคนเราก็ต้องมีสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง แต่น้ำค้างต้องสัญญากับพี่นะจ๊ะว่าจะรู้ตัวเองอยู่เสมอจะไม่ดื่มมากเสียจนทำให้ตัวเองเป็นอันตรายได้”
“ค่ะ..น้ำค้างรับรอง”
รอยยิ้มหวานส่งไปให้ในขณะที่หัวใจยิ่งเต้นเร้ามากขึ้น ‘NO. แอลกอฮอล์..นั่นมันเราชัดๆ’ ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เลยสักครั้ง นี่จะเป็นครั้งแรกเพราะถ้าเธอไม่มีแอลกอฮอล์ปะปนอยู่ในกระแสเลือดเลย เธอคงจะไม่กล้าทำอะไรที่น่าอายแบบนี้แน่
“น้ำค้างขอฉลองให้กับความสำเร็จของพี่ชัฎค่ะ ขอให้คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาของพี่ชัฎขายหมดทุกห้องภายใน ๑ เดือนค่ะ”
แก้วไวน์สีสวยถูกยกขึ้นตรงหน้า ชัฎพงษ์แตะสัมผัสแก้วทรงสูงที่บรรจุน้ำสีแดงสุกใสของเขากับแก้วของเธอแต่เพียงเบาๆ ดวงตาคมเฉี่ยวหรี่มองหญิงสาวบอบบางที่มีหน้าตาสวยสดงดงามตรงหน้าอย่างแปลกๆ ศิศิราในวันนี้ดูแปลกตาไปมาก
เริ่มตั้งแต่เธอเอ่ยชวนให้เขามาเที่ยวตากอากาศกันที่นี่โดยบอกว่าเพื่อนๆ มารออยู่แล้ว แต่เมื่อมาถึงกลับมีเพียงสองคนที่เดินทางมา ส่วนเพื่อนๆ ของเธอติดธุระอย่างเร่งด่วน! ทำให้เดินทางมาสมทบไม่ได้ ยังจะกิริยาถึงเนื้อถึงตัวที่ไม่เคยเลยสักครั้งที่หญิงสาวจะกล้า ตลอดจนน้ำสีแดงสดใสที่บรรจุอยู่ในแก้วทรงสูงที่หญิงสาวกระดกกลืนสู่ร่างกายอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดแม้จะจิบชิมรสชาติให้กระจายอยู่ในอุ้งปากอย่างที่ควรจะทำ
“น้ำค้าง..ไม่สบายหรือเปล่า มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้นะ พี่ก็เหมือนกับนพนั่นแหละ น้ำค้างปรึกษาได้ทุกเรื่อง”
เมื่อเห็นหญิงสาวยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดื่มทั้งที่ก็แสดงอาการจะขย้อนออกมาตลอดเวลาทำให้อดที่จะถามไถ่อย่างเสียไม่ได้
“น้ำ..ค้าง มะ..ม่ายเป็นอะไรค่ะ ม่าย..ได้กุ้มใจอะไรด้วย แค่..น้ำ..ค้าง เอิ๊ก!..ดีใจกับพี่ชัฎและก็ดีใจกับตัวเอง..ก็เท่าน้าน..เอง..เอิ๊ก!..”
“ดีใจ.. ดีใจเรื่องอะไรกันจ๊ะ ถ้าเรื่องคอนโดพี่ขอบใจมาก ถ้าไม่ได้นพช่วยพี่ก็คงจะไม่มีกำลังใจทำจนสำเร็จได้”
