ตอนที่20 เรื่องที่คาดไม่ถึง EP.2
“ว่าไงนะเอก เรื่องที่พูดมาเมื่อกี้เป็นเรื่องจริงงั้นหรอ”
ทุกคนที่ได้ยินเอกพูดว่าดันเจี้ยนแตกเร็วกว่ากำหนด ทำให้ทุกคนตกใจจนพูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เรื่องจริงแน่นอน เรื่องแบบนี้ผมไม่เอามาพูดเล่นหรอ”
“แล้วดันเจี้ยนจะแตกตอนไหนหรอ ที่ว่าเลื่อนเข้ามาพวกเราจะได้เตรียมตัวได้ทัน” ต้นถามเอกด้วยความกังวน
“เที่ยงตรงของวันพรุ้งนี้”
หลังจากที่เอกพูดเสร็จ ราวกับมีฟ้าผ่าผ่าลงที่ตัวของทุกคน ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
“พวกเราไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ถ้าพวกเราอยู่ในนี้มอนสเตอร์ไม่สามารถเข้ามาได้ง่ายหรอก เพราะมอนสเตอร์ที่ออกมาจากดันเจี้ยนกว่าพวกมันจะฟื้นฟูพลังที่แท้จริงก่อนที่จะโดนขังในดันเจี้ยนก็คงอีก 1-2 เดือน
ในตอนนี้พวกฮันเตอร์จากกิลด์ต่างๆคงพอจะช่วยไว้ได้บาง แต่ก็คงช่วยไม่ได้หมดหรอก แล้วพวกเราทุกคนก็ไม่ต้องคิดที่จะช่วยทุกคนที่เห็นหรอกนะ เพราะอาจจะนำปัญหามาให้พวกเราและฐานทัพพวกเราได้"
ทุกคนที่ฟังที่เอกพูดมา พร้อมกับคิดตามสิ่งที่เอกพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ยิ่งเรื่องที่จะช่วยคนอื่นนั้นจะทำให้พวกเราลำบากในภายหลังจริงๆ ถึงจะเหมือนกับเห็นแก่ตัวไปหน่อยแต่ก็ เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวตัวเองและทุกคนที่อยู่ที่นี้
หลังจากเอกที่มองดูทุกคนที่กำลังคิดในสิ่งที่ตัวเองพูดแล้วจึงพูดขึ้นมา
“พวกเราจะช่วยเฉพาะคนที่เราไว้ใจได้เท่านั้น”
ทุกคนที่ได้ยินก็ต่างพยักหน้าเข้าใจที่เอกพูดทันที
“แล้วหลังจากนี้จะให้เราทำยังไงหรอลูก” แม่เอกถามพูดเรื่องหลังจากนี้ว่าต้องทำยังไงกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
“ทุกคนไม่ต้องทำอะไรหรอกครับอยู่เชยๆที่นี้ไปก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกทีหลังจากเรื่องดันเจี้ยนแตกถูกควบคุมได้แล้ว แต่ระหว่างนี้เดี๋ยวพวกผมจะออกไปช่วยกันสังหารมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในเมืองเองครับ แต่จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ครับ”
เอกอธิบายว่าจะต้องทำยังไงหลังจากนี้ให้ทุกคนได้ฟัง
ทุกคนที่ได้ยินเอกพูดมาแบบนั้น ก็คิดว่าเป็นแผนที่ดีที่สุดแล้วเหมือนกัน
“เอกแล้วเรื่องที่ดันเจี้ยนจะแตกนั้น นายจะไปบอกชาวเมืองไม” ต้นถามขึ้นหลังจากได้ยินแผนของเอก
“คงคิดว่าไม่ล่ะนายลองคิดสิ ถ้าฉันไปบอกพวกเขาแบบนั้น พวกเขาจะไม่หาว่าฉันบ้าหรอ ดันเจี้ยนก็เกิดขึ้นมาถึง 5 ปี ตลอด 5 ปี ไม่เคยมีเรื่องดันเจี้ยนแตกมาก่อน คงไม่มีใครคิดว่ามันจะแตกออกมาได้หรอก แต่ถ้าเป็นพวก 4 กิลด์ใหญ่ คงจะบอกพวกเขาได้อยู่ แต่พวกเขาจะเชื่อไมนั้นก็เรื่องของเขา เราคงช่วยได้เท่านี้”
เอกอธิบายเหตุผลที่ไม่บอกพวกบ้านทั่วๆไป แต่ตัดสิ้นใจไปบอกกับ 4 กิลด์ใหญ่แทน ถ้ากิลด์เชื่อพวกเขาก็จะสามารถช่วยชาวเมืองไว้ได้ ถึงจะไม่หมดก็ตาม
“ที่เอกพูดมามันก็มีเหตุผลนะ คงไม่มีใครเชื่อเรื่องพวกนี้แน่เลยขนาดพวกเราเองตอนแรกยังแถบไม่เชื่อเรื่องที่เอก บอกว่าดันเจี้ยนจะแตกเลย คงต้องปล่อยเรื่องนี้ให้ 4 กิลด์ใหญ่แล้วล่ะ ว่าจะเชื่อในสิ่งที่คนไปบอกรึป่าว” แพรวเสริมในสิ่งที่เอกพูดมา
“งั้นถ้าตกลงกันได้แล้วก็เลิกประชุมกันเท่านี้นะครับ พรุ้งนี้ก่อนเที่ยงค่อยมาพบกันอีกทีที่นี้นะครับ ส่วนแพรวกับต้นอยู่ก่อนนะ”
คนทุกต่างพยักหน้าพร้อมกับเดินออกไป เหลือเพียงแพรวกับต้นที่ให้อยู่ก่อน
“หลังจากที่ดันเจี้ยนแตกแล้วนั้น ฉันอยากให้ต้นกับแพรวอยู่ที่นี้ เพื่อจะได้ดูแลคนที่นี้ตอนที่ฉันไม่อยู่ เพราะอาจจะมีมอนสเตอร์เข้ามาก็ได้”
‘ถึงจะไม่มีทางเป็นแบบนั้นก็ตามเถอะนะ' เอกคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา
“อ้าว!! ทำไมอะเอก พวกเราก็ฝึกมาเพื่อเวลานี้แล้ว ไม่คิดจะให้พวกเราไปช่วยนายหน่อยหรอ” ต้นพูดขึ้นมาหลังจากที่เอกพูดจบ แพรวนั้นกูพยักหน้าเห้นด้วย
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้พวกนายไปช่วย แต่ฉันอยากให้พวกนายดูแลครอบครัวเราที่อยู่ที่นี้ก่อน รอสถานการณ์ข้างนอกนั้นถูกควบคุมได้ก่อน ถึงตอนนั้นฉันจะให้พวกนายทำตามใตชอบเลย”
“ฉันว่าแบบนั้นก็ดีนะต้น รอในสถานการณ์ข้างนอกที่จะเกิดขึ้น เงียบลงก่อนพวกเราค่อยไปช่วยเอกยังทันเลย” แพรวเห็นด้วยกับเอก ต้นก็ไม่มีทางเลือกเขานั้นก็เป็นห่วงครอบครัวตัวเองเหมือนกัน
“เอางั้นก็ได้ แต่เมื่อนอกข้างสงบลงแล้ว นายต้องให้พวกเราไปช่วยนายด้วย” ต้นยอมตกลงตามที่เอกพูดมา
“ได้ฉันสัญญา พวกนายไปได้แล้ว”
ต้นและแพรวออกไปแล้วก็เอกก็หลับตานึกคิดเรื่องต่างๆที่ผ่านมา ทั้งเรื่องที่เขาพึงได้ระบบมา จนถึงปัจจุบัน
“เคนเรียกเงาทั้งหมดมาที่นี้หน่อย” เอกที่พูดออกมาทั้งๆที่ห้องนั้นไม่มีใครอยู่เลย
แต่หลังจากที่เอกพูดเสร็จ ข้างหลังเอกที่มีเสาอยู่กับมีเงาเหมือนคนออกมา
“ครับท่านเงา”
