EP.1
ตึ้งตึ่งงดึ้งงตึ้ง~~~~
เสียงเปียโนบรรเลงไพเราะดังเล็ดลอดออกมาจากห้องโถงกว้างที่มีแสงแดดสีอ่อนสาดส่องเข้ามากระทบนัยน์ตาสีน้ำตาลสดใส เสียงเพลงที่สุดแสนจะไพเราะนี้ถูกบรรเลงออกมาจากความรู้สึกที่สุดแสนจะเจ็บปวดของผู้หญิงคนหนึ่ง
ชื่อของเธอก็คือแมรี่ หญิงสาวที่เคยร่าเริงและเคยสดใสเหมือนกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไปจนกระทั่งเมื่อเธอได้แต่งงานกับคนที่แม่จัดสรรให้ ชีวิตหลังจากนั้นของเธอก็เปลี่ยนไป
ทุก ๆ ครั้งที่เธอหลับตาลง ภาพที่สุดแสนจะโหดร้ายมากมายของชีวิตหลังแต่งงานมักจะลอยเข้ามาในหัวสมอง
บาดแผลที่ฝังลึกรวมถึงรอยบอบช้ำบนตัวเธอ มันรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เธอคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น จากการที่ถูกกระทำรุนแรงจากสามีที่เปรียบดั่งซาตานร้าย
น้ำตาสีใสไหลรินอาบแก้มขาวนวล ก่อนที่เสียงดนตรีอบอวลจะจบลงพร้อมกับเสียงเท้าและเสียงปรบมือของใครบางคนที่เดินเข้ามาในห้องนี้ ปลายหางตาสีสวยเหลียวมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำ ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน เขาเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มร้าย มันดูเยือกเย็นจนเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
“เพลงของคุณไพเราะจริง ๆ เลยนะแมรี่ ผมดีใจมากนะ
ที่มีแค่ผมที่ได้ฟังมัน”
น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงลำคอเรียวเล็ก เมื่ออีกฝ่ายค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้เธอ และสวมกอดเธอจากด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาถูกวางลงบนไหล่คู่สวย จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าวโรยรินรดต้นคอขาวเนียน
“คุณยังไม่ไปทำงานเหรอคะอีธาน ทำไมยังอยู่ที่บ้านอีกล่ะคะ”
ฉันได้แต่ฝืนยิ้มมองเขา และเก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ภายในใจ เพราะถึงอย่างไร เขาก็คือสามีของฉัน ทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้บาดแผลบนตัวฉันก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก อาจเพราะนั่นคือสิ่งที่เขาเป็นคนลงมือฝากรอยช้ำเหล่านั้นไว้บนตัวของฉัน เพื่อย้ำเตือนว่าหากฉันไม่ยอมเชื่อฟังเขา ฉันก็จะโดนแบบนี้ซ้ำ ๆ
“ผมคิดถึงคุณน่ะสิ เลยอยากจะมาเจอหน้าคุณก่อนไปทำงาน”
มือหนาจับไปบนไหล่คู่สวยเบา ๆ พร้อมทั้งลูบสัมผัสมันจนถึงปลายแขน
“คุณคงจะยังโกรธผมอยู่สินะแมรี่ที่ผมลงโทษคุณเมื่อคืนนี้ ผมเคยบอกคุณแล้วไง ถ้าคุณเชื่อฟังผมดี ๆ คุณก็จะไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้หรอก”
ใบหน้าหล่อเหลากระซิบข้างกกหูขาวเนียน ดวงตาที่แข็งกร้าวมองดูใบหน้าของผู้หญิงคนเดียวที่เขารักด้วยรอยยิ้มหลงใหลฝังลึก แต่เธอกลับรับรู้ได้เพียงความน่ากลัวของเขา
“ฉันไม่โกรธคุณหรอกค่ะ”
ฉันฝืนพูดระงับความเจ็บเมื่อถูกเขาจับลงบนรอยช้ำภายใต้เสื้อผ้าแขนยาวที่สวมใส่ อีกอย่างฉันก็ชินแล้วกับการโดนเขากระทำแบบนี้ ครอบครัวอบอุ่นที่ฉันเคยใฝ่ฝันมันไม่ได้มีอยู่จริงหรอก นัยน์ตาคู่สวยกลั้นน้ำตาเอาไว้พร้อมทั้งฝืนยิ้ม
“ท่านประธานครับ เราต้องไปกันแล้วครับ ใกล้ถึงเวลาประชุมแล้ว”
“งั้นเจอกันเย็นนี้นะครับ ผมจะรีบกลับมาหาคุณ ภรรยาสุดที่รักของผม”
เขาสวมกอดพร้อมทั้งหอมแก้มขาวนวลหนึ่งฟอดก่อนเดินออกไปจากห้อง เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นในขณะที่ร่างเล็กทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างโล่งใจ ครั้นซาตานของเธอได้เดินหายออกไปจากประตูเหลือไว้แค่เพียงความเงียบภายในห้อง
บนรถเบนซ์สีขาว นัยน์ตาดำสนิทมองออกไปนอกหน้าต่างรถ สมองครุ่นคิดถึงภาพใบหน้าและแววตาของภรรยาสุดที่รัก
“คุณจะต้องอยู่กับผมตลอดไป แมรี่”
ทุกครั้งที่ผมเห็นดวงตาของเธอ ผมเห็นเพียงแค่ความหวาดกลัวและความเกลียดชัง ที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ ผมหวังเพียงว่ามันจะมีสักครั้งที่ผมมองเธอแล้วจะเห็นความรักที่เธอมีต่อผมบ้าง ผมภาวนาเช่นนั้น
“......”
30 นาทีผ่านไป
“ท่านประธานครับ นายหญิงออกไปร้านกาแฟข้างโรงพยาบาลในเมืองครับ”
บอดีการ์ดคนสนิทที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับหันมารายงาน หลังจากได้รับสายโทรศัพท์ จากคนติดตามแมรี่
“คอยตามดูเธอไว้อย่าให้คลาดสายตา ฉันไม่อยากให้ภรรยาของฉันเจอคนที่ไม่สมควรเจอเช่นผู้ชายคนอื่น!!”
มือหนากำแน่น ก่อนจะเบือนสายตามองแหวนแต่งงานตรงนิ้วนางข้างสายด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เพราะผมกับเธอจะแต่งงานกันได้ไม่นานนัก ผมจึงยังคงไม่วางใจเธออยู่ดี ดังนั้นผู้หญิงของผมจะต้องอยู่ในสายตาของผมทุกฝีเก้า
“ครับท่านประธาน”
“แมรี่ ทางนี้จ้ะ”
เสียงเรียกจากโต๊ะมุมข้างกระจกภายในร้านกาแฟเล็ก ๆ ข้างโรงพยาบาล
วันนี้หลังจากที่อีธานเดินออกไป ลินก็โทรมาหาฉันพร้อมกับนัดฉันออกมาด้านนอกบอกว่ามีเรื่องสำคัญ!!
“ขอโทษนะลิน ที่ฉันมาสาย”
มือเรียวเล็กแตะเบา ๆ บนมือเพื่อนสนิท และเธอได้รับการตอบกลับเป็นรอยยิ้มที่แสนสดใส
“จะเป็นไรไปฉันเข้าใจเธอดีแมรี่ สามีของเธอคงจะส่งคนติดตามเธอมาด้วยสินะ” ลินเหลือบสายตาไปมองบอดีการ์ดสองคนที่ยืนตัวแข็งทื่อจ้องมองมายังพวกเธออยู่ภายนอกกระจกใสร้านกาแฟ
“อือใช่!! ฉันสลัดตัวออกจากพวกเขาไม่ได้เลย”
ฉันถอนหายใจเบา ๆ มองลิน “งั้นเรามาคุยธุระสำคัญของเธอกันดีกว่านะ” ฉันเริ่มมุ่งเข้าประเด็นที่ลินนัดฉันออกมา
