บท
ตั้งค่า

2.อุบัติเหตุต้นเรื่อง

*** ทักทายคร้า ***

วรัญญาหันกลับไป เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงสง่าของรามิเรสเดินมาประชิดตัว เท้าเรียวสวยถอยไปชนกับประตูรถจนขยับไปไหนไม่ได้

“จะทำอะไร”

รามิเรสไหวไหล่ มือใหญ่ดึงแว่นกันแดดออกจากสันจมูก วรัญญาจ้องหน้าคมสันอย่างไม่ไว้ใจ

“ถอยไปฉันรีบ”

“ผมก็รีบ แต่มีบางอย่างอยากจะบอกคุณ”

“อะไร” เธอพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติ แต่แววตาหวั่นๆ และสั่นไปถึงใจของเธอก็ปิดไม่มิด คาซาโนวาตัวพ่ออย่างเขาหรือจะไม่รู้ว่าอารมณ์ผู้หญิงเป็นยังไง รามิเรสโน้มตัวลงไปหาใกล้ๆ ลมหายใจอุ่นร้อนรดข้างแก้ม

“เงินซื้อได้ทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...”

เขาไม่พูดต่อ แต่สายตาคมดุที่มองมาบอกเธอจนหมดเปลือกว่าคำพูดต่อไปของเขาคืออะไร

“ไม่มีทาง ร่างกายและความอยากของคุณหาซื้อได้ แต่คุณซื้อหัวใจและจิตวิญญาณไม่ได้ จำไว้” มือบางผลักเขาออกห่าง รามิเรสหัวเราะและยกตัวขึ้น วรัญญารีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ แต่เขาก็ตามราวีไม่เลิก

“ตกลงคุณจะไม่เอาคันใหม่ใช่ไหม”

“ไม่ต้อง ถ้าอยากจ่ายนักก็เอาไปบริจาคมั่ง บุญกุศลจะได้หนุนส่งให้ฉันไม่ต้องมาเจอผู้ชายห่วยแตกอย่างคุณ”

พูดจบวรัญญาก็สตาร์ตรถและขับกระชากออกไปอย่างหงุดหงิด รามิเรสมองตามจนกระทั่งรถหายไปจากรัศมีของสายตา

“จะให้เชิญเธอไปทานข้าวมั้ยครับ” คาร์ลอสถามอย่างรู้ใจเจ้านาย รามิเรสขยับตัวแล้วมองเมินออกไปนอกตัวรถ กลิ่นหอมๆ จากกายสาวติดที่ปลายจมูก ทำเอาประสาทที่ไม่มีกระดูกกลางตัวไม่ยอมหลับ

“ขอประวัติก็พอ ที่เหลือฉันจัดการเอง”

คาร์ลอสอึ้งไป และรู้สึกเห็นใจคนเมื่อสักครู่ที่อุบัติเหตุทำให้ต้องตาคาซาโนวาตัวพ่ออย่างเจ้านายเขาเข้า

“เราอยู่เมืองไทยแค่สามวันนะครับ อีกเจ็ดวันต้องไปสิงคโปร์ต่อ”

“สามวันก็เกินพอแล้วไอ้เพื่อนยาก” รามิเรสแสยะยิ้มที่มุมปากหยัก เพราะมั่นใจว่านักล่าอย่างเขาจะไม่ติดกับเหยื่อสาวๆ อย่างแน่นอน แค่คืนเดียวแลกกับเงินมหาศาลสำหรับเธอมันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

แล้วเราจะได้เจอกันคนสวย บุพเพอาละวาดจะทำให้เธอครางอยู่ใต้ร่างฉันแน่นอน...รามิเรสคิดอย่างมาดมั่น

วรัญญาจอดรถหน้าโรงแรมเสร็จก็หอบชุดแต่งงานที่ตัวเองออกแบบและชุดสำหรับเพื่อนเจ้าสาววิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในห้อง พุดพิชญา ชลสิทธิ์ เพื่อนรักที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับหญิงสาวเห็นเข้าก็ตรงรี่เข้าไปหาใบหน้าบึ้งตึง

“แกมัวไปทำอะไรอยู่ยัยรัน งานจะเริ่มแล้วชุดเจ้าสาวกับเพื่อนเจ้าสาวยังไม่มา ฉันแต่งตัวรอชุดแกจนช่างต้องเติมเครื่องสำอางไม่รู้กี่รอบแล้วเนี่ย” พุดพิชญาต่อว่าจนวรัญญาไม่มีโอกาสได้ขยับปาก เพราะมัวแต่ตกตะลึงกับลุคแปลกใหม่ของเพื่อนรัก

อุต๊ะแม่เจ้า สาวห้าวเปลี่ยนเป็นสาวหวานได้งดงามเหลือใจ...วรัญญาเปรียบเปรยอยู่ในใจพร้อมกับคลี่ยิ้มออกมา

“คุณพูดกับฉันเหรอคะ” วรัญญาแสร้งจำพุดพิชญาไม่ได้ แววตาคมเรียวมองไปอย่างล้อเลียน

“แกอย่ากลบเกลื่อนความผิดยัยรัน รีบไปแต่งตัวเลยเร็วเข้า”

“เฮ้ยเบาๆ สิยัยพุด” วรัญญาถลาไปตามแรงฉุดของพุดพิชญา มาลินีนั่งอยู่หน้ากระจกเห็นเข้าก็เดินมาหา

“รันทำไมมาช้าจังล่ะ ยัยพุดอาละวาดฉันจนหูชาแล้ว” มาลินีจับมือเพื่อนพลางมองชุดแต่งงานสีขาวอย่างดีใจ

“ลงเครื่องเสร็จก็ตรงมานี่เลย แล้วไอ้เพราะรีบนี่แหละ รถฉันเลยโดนเศรษฐีมาเฟียบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ชน จนรถฉันก้นบุบไปเลย” วรัญญาเล่าอย่างอารมณ์เสีย มือบางวางชุดลงบนเตียง

“แกถูกชนก้น!” ทั้งมาลินีและพุดพิชญาอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ

“ชนท้าย” วรัญญาแก้ต่าง พุดพิชญาเข้าไปจับบ่าวรัญญาหมุนตัวไปมาเพื่อหาบาดแผล วรัญญามองเพื่อนงงๆ แต่ก็ยอมหมุนตัวตาม

“อะไรของแกยัยพุด ฉันเวียนหัวแล้วนะ”

“แล้วแกไปกระแทกกับอะไรหรือเปล่า ไปหาหมอหรือยัง”

“นั่นสิรัน แกเป็นอะไรมากหรือเปล่า” มาลินีเสริมพลางขยับไปหา วรัญญายกมือห้าม ตามองเพื่อนอย่างซึ้งใจ

“แกสองคนหยุดโวยวายแล้วรีบไปลองชุดเลย ฉันไม่เป็นอะไร แค่เจ็บใจไม่หายเท่านั้นเอง” วรัญญาบอกเสียงขึ้นจมูก อดโมโหคนทำไม่ได้ ก่อนจากกันยังมีหน้ามาขู่เธออีก เจออีกเมื่อไหร่แม่จะอัดให้ตาเขียวเลย รู้จักวรัญญาน้อยซะแล้วคุณเศรษฐีมาเฟีย วรัญญาหมายมาดอยู่ในใจ

“ทำไม เขาไม่รับซ่อมให้เหรอ” มาลินีถามพลางเดินไปหยิบชุดเจ้าสาวมาทาบตัว

“ใครว่าล่ะ เขาเซ็นเช็คให้กรอกตัวเลขเอง ฉันก็เลยฉีกใส่หน้าซะเลย” พอได้ยินวีรกรรมของเพื่อน ทั้งมาลินีและพุดพิชญาก็ต้องอุทานออกมาพร้อมกันอีกครั้ง

“ฉีกเช็คทิ้ง!”

วรัญญาพยักหน้าเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ มือบางแย่งชุดเจ้าสาวไปทาบบนร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์สามเดือนของมาลินี

“เรื่องฉันเอาไว้ก่อนเถอะ แกสองคนรีบไปลองชุดเร็ว ถ้าไม่พอดีฉันจะได้ดูให้” วรัญญาหยิบชุดส่งให้พุดพิชญา มืออีกข้างก็ดุนหลังเข้าไปในห้องแต่งตัว รอไม่ถึงสองนาทีเสียงพุดพิชญาก็ดังออกมา

“ยัยรันทำไมชุดมันเปิดอกกว้างจัง นมฉันจะหกออกมาแล้วเนี่ย”

วรัญญาถึงกับปล่อยคิกออกมาอย่างอดไม่ได้ พุดพิชญาเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่ใส่ชุดเปิดหน้าเปิดหลัง ทั้งที่รูปร่างก็สวยจนผู้หญิงหลายคนอิจฉา แต่แม่เพื่อนรักก็ไม่ยอมใส่ มีงานเลี้ยงเมื่อไหร่ วรัญญาต้องจับมาแต่งตัวใหม่ให้เหมาะกับงาน จนบางครั้งชุดที่เธอออกแบบให้ทำเอาพุดพิชญางอนไปหลายวันก็มี

“แกก็พูดเวอร์ไป ชุดเกาะอกมันก็ต้องเป็นแบบนี้น่ะสิ ไม่งั้นเขาจะเรียกชุดเกาะอกเหรอยะหล่อน เสร็จแล้วก็ออกมา ฉันจะดูความเรียบร้อยให้”

ประตูห้องแต่งตัวเปิดออก ร่างอ้อนแอ้นของสาวห้าวกลายร่างเป็นนางฟ้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ วรัญญาและมาลินีที่ออกมาก่อนหน้านี้พากันมองตาค้าง พุดพิชญารีบยกมือปิดช่วงอกตัวเองอย่างไม่มั่นใจ ใบหน้าเรียวรูปไข่แดงระเรื่ออย่างขัดเขิน เพราะในชีวิตของพุดพิชญา การใส่ชุดเปิดหน้าเปิดหลังยากกว่าอะไรทั้งหมด

“สวยมากเลยแก” วรัญญาจับเพื่อนหมุนไปมาอย่างดีใจ

“พุดสวยแบบนี้ ตาไรอัลจะจำเจ้าสาวผิดหรือเปล่าเนี่ย” มาลินีบอกยิ้มๆ ก่อนจะเข้าไปจับมือพุดพิชญา

“ไม่ต้องเลย ฉันน่ะอนุรักษ์ชายไทยและเกลียดฝรั่งเข้าไส้แกก็รู้”

พุดพิชญาบอกอย่างจริงจัง ทำเอาวรัญญาและมาลินีมองหน้ากัน เพราะรู้ดีว่าเพื่อนมีอคติกับหนุ่มต่างชาติมานานแล้ว

“ฉันขอโทษ” มาลินีบีบมือเพื่อนอย่างรู้ความผิด พุดพิชญายิ้มพลางยกมือโอบเพื่อนทั้งสองคนพร้อมๆ กัน

“ฉันรักแกสองคนนะ”

แล้วสามสาวก็โอบกอดกันกลม แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนยังคงแนบแน่นเสมอ ทั้งสามน้ำตาคลออย่างตื้นตันกับความห่วงใยที่มีให้กัน ถึงแม้แต่ละคนจะมีพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่าง แต่ความรักระหว่างเพื่อนผูกมัดดวงใจบริสุทธิ์ทั้งสามดวงเข้าด้วยกันได้อย่างไม่มีเงื่อนไข หากใครคนหนึ่งในกลุ่มมีปัญหา เธอทั้งสามก็สามารถก้าวผ่านความยุ่งยากไปได้เสมอ แต่จากนี้มาลินีก็ต้องย้ายไปอยู่กับไรอัลที่ต่างประเทศ วรัญญาและพุดพิชญาคงเหงาไม่น้อย

“ต่อไปฉันกับยัยพุดคงคิดถึงแกมาก หลานคลอดแล้วอย่าลืมพามาเมืองไทยบ้างนะ” วรัญญาบอกเสียงเครือ ทำให้อีกสองคนใจหาย ทั้งสามถอยห่างจากกัน แต่มือยังจับกันเป็นวงกลม

“ฉันจะทิ้งแกสองคนได้ยังไงล่ะ อยู่เมืองไทยสบายใจที่สุดแล้ว” ทั้งวรัญญาและพุดพิชญาต่างสวมกอดมาลินีอย่างดีใจ

“อ้าวสาวๆ มัวแต่เล่นกันอยู่นั่นแหละ แขกเริ่มทยอยมาแล้วนะ” เสียงทุ้มของภาคิไนยดังมาจากประตู ทำเอาสามสาวหันไปยิ้มให้เจ้านาย

“ค่าบอส” สามสาวรับคำแล้วถอนสายบัวให้

ภาคิไนยส่ายหัวยิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง สายตาจับจ้องไปที่ร่างอวบอิ่มของมาลินี

“วันนี้พี่คงเสียหัวหน้าฝ่ายแผนงานมือดีไปแล้วสินะ”

มาลินีพนมมือขึ้นและกราบลงบนอกภาคิไนย

“ขอบคุณพี่ชายมากนะคะที่ให้โอกาสลินีและคอยดูแลพวกเราสามคนมาตลอด”

มือทั้งสองข้างของภาคิไนยจับบ่าบางเขย่าเบาๆ

“เราสามคนก็ช่วยงานพี่อย่างดีเหมือนกัน ต่อไปก็จะเหลือลิงทโมนจอมแสบกับนางแบบหัวใจดีไซเนอร์แล้วสินะ”

พุดพิชญาถึงกับทำแก้มป่องที่ถูกเปรียบเป็นลิงทโมน

“พี่ชายอะ เปรียบให้ดีกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้ คอยดูนะปีหน้าพุดจะหาแฟนให้ได้ พี่จะต้องเสียตากล้องฝีมือดีไปอีกคนแน่ๆ”

ภาคิไนยถึงกับยิ้มกว้าง รู้ดีว่าสำหรับพุดพิชญาคงอีกนาน เพราะตอนนี้ไม่มีใครกล้าจีบสักคน

“ถ้าเจ้าบ่าวมาถึง พี่จะให้เด็กขึ้นมาตามนะ”

พูดจบภาคิไนยก็เดินเปิดประตูออกไป สามสาวจึงหันไปยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

“เอ้ายัยรัน ทำไมแกไม่ไปแต่งตัวอีก”

“อย่างฉันแต่งไม่นานเพราะสวยอยู่แล้วย่ะ” วรัญญาสะบัดผมใส่ มือก็หยิบชุดเดินไขว้ขาเหมือนเดินแบบบนรันเวย์เพื่อยั่วอารมณ์พุดพิชญา

“จ้า แม่นางแบบชื่อดัง ไม่ขี้เหร่มั่งก็ให้มันรู้ไป” พุดพิชญาบอกอย่างแง่งอน และยอมรับว่าวรัญญาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ ทุกอย่างที่ประกอบเป็นเพื่อนคนนี้สวยแทบไม่มีที่ติ ยิ่งเวลาทิ้งสายตามองแขกที่เข้าร่วมชมงานแฟชั่น ก็ทำได้เซ็กซี่ขยี้ใจ จนหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หัวใจกระตุกไปตามๆ กัน

***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel