บทที่ 6 คุณหนูเล็กล้มป่วย
บทที่ 6
คุณหนูเล็กล้มป่วย
“ทะ...ท่านพ่อได้โปรดลงโทษลูกเถอะเจ้าค่ะ เป็นลูกที่ผิดเอง”
สวี่ฝูเยว่ตั้งใจจะรับโทษแทนพี่สาวจึงทรุดเข่าลงไปกับพื้น ทว่าคุณชายใหญ่สวี่จางหมิ่นกลับไม่ยอมให้เข่าของนางสัมผัสพื้นดินหยาบกระด้าง เขาโอบประคองร่างบอบบางของนางให้ยืนขึ้นมา
[เรื่องนี้ควรจบที่ข้า หากข้าถูกแส้ฟาดสักห้าสิบครั้ง บางทีความโกรธเกลียดที่พี่สาวมีต่อข้าอาจได้รับการบรรเทา]
“เหลวไหล!”
สิ้นเสียงในใจของสวี่ฝูเยว่ ป๋อสวี่ก็ตะคอกออกมาดังลั่นราวกับสิ้นสุดความอดทน จะให้เขาลงโทษบุตรสาวในไส้ที่ไม่ได้ทำความผิดได้อย่างไรกัน! แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าขุดความจริงออกมาประจานบุตรสาวบุญธรรมที่รักมาก เพราะกลัวว่านางจะเสื่อมเสียชื่อเสียงกลายเป็นหญิงแพศยา หวังจะเหลือทางรอดไว้ให้นางด้วยความห่วงใย แต่นางกลับโวยวายพยายามเรียกร้องให้เขาลงโทษฝูเยว่อย่างไม่มีสำนึก
นังลูกไม่รักดี!
[ขะ...ข้าทำให้ท่านพ่อโกรธเสียแล้ว เช่นนี้ท่านพ่อคงจะยิ่งเกลียดชังข้า ฮะ...ฮือ]
เสียงในใจของบุตรสาวคนเล็กทำให้ป๋อสวี่ถึงกับผงะเพราะเขาไม่ได้โกรธฝูเยว่เลยแม้แต่น้อย แต่กำลังหงุดหงิดบุตรสาวบุญธรรมอยู่ต่างหาก ทางด้านฮูหยินสวี่ บุตรชายคนโต บุตรชายคนรอง ต่างมองไปยังป๋อสวี่จนตาขวางที่เสียงดังจนทำให้ฝูเยว่เข้าใจผิด
แล้วโดยที่ทุกคนยังไม่ทันคาดคิด จู่ๆ ร่างบอบบางในอ้อมแขนของบุตรชายคนโตก็เป็นลมล้มพับไป
“คุณหนูเล็กเป็นลมเจ้าค่ะ!”
ฮุ่ยชิวโวยวายเสียงดังลั่น คุณชายใหญ่รีบอุ้มสวี่ฝูเยว่กลับเข้าไปในเรือน ป๋อสวี่ ฮูหยินสวี่ และบุตรชายคนรองต่างวิ่งตามเข้าไปในเรือนเพื่อดูอาการฝูเยว่ ทิ้งให้จางลี่ที่มีใบหน้าบวมโย้ ปากแตก เลือดไหลกบปากจนเปรอะเปื้อนเสื้อผ้านั่งอ้าปากด้วยความงงงงัน
“สารเลว! สารเลวกันหมดทุกคน!”
สวี่จางลี่แผดเสียงออกมาดังลั่นด้วยความโกรธ นางต่างหากที่เป็นคนบาดเจ็บ นางต่างหากที่เป็นคนถูกทำร้าย แล้วทำไมทุกคนถึงพากันไปรุมล้อมนังบ้านนอกนั่นเล่า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ท่านแม่ยังคอยมาเอาอกเอาใจนาง เพราะกลัวว่านางจะน้อยใจที่พวกท่านรับบุตรสาวในไส้กลับเข้าจวน ท่านพ่อยังมอบกำไลหยกให้นางและให้คำมั่นว่าไม่มีบุตรสาวคนใดมาแทนที่นางได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...
“ไม่จริง! จะเป็นแบบนี้ไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ ไม่เชื่อ!”
ใบหน้าของจางลี่แดงก่ำ ทรวงอกกระเพื่อมไหวหอบหายใจแรง ก่อนที่ร่างบางจะสิ้นสติไปจริงๆ
แน่นอนว่าถ้อยคำพรุสสวาทนี้ทุกคนล้วนได้ยินชัดเต็มสองหู แต่เลือกจะไม่ใส่ใจเพราะต่างห่วงใยอาการของฝูเยว่จนไม่มีแก่ใจจะหันกลับไปมอง แม้หงอีจะกรีดร้องโวยวายว่าเจ้านายสาวของตนเป็นลม แต่ทุกคนกลับคิดว่านั่นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จางลี่เรียกร้องความสนใจ
‘น้องสามคงเห็นว่าน้องเล็กเป็นลม ก็เลยแกล้งเป็นลมเลียนแบบน้องเล็กสินะ’
‘น้องสามทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ’
‘ลี่ลี่ไม่น่าทำตัวเช่นนี้เลย ต่อให้นางไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ข้ากลับรักนางมากกว่าบุตรสาวในไส้เสียอีกเพราะเลี้ยงดูอุ้มชูมาตั้งแต่เด็กๆ แต่นางกลับโลภมากไม่รู้จักพอ มิหนำซ้ำยังคิดแผนร้ายหวังจะกำจัดเยว่เอ๋อร์ซึ่งเป็นสายเลือดแท้ๆ ของข้าอีกด้วย เฮ้อ...’
‘ข้าไม่อาจสลัดรอยยิ้มร้ายของลี่ลี่ออกไปจากหัวได้เลย เหตุการณ์นี้ทำให้ข้ามองลี่ลี่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว’
“คุณหนูสามเป็นลม! คุณหนูสามเป็นลม! ใครก็ได้มาช่วยที ใครก็ได้มาช่วยประคองคุณหนูสามที ได้โปรด...”
หงอีตะโกนจนเสียงแหบแห้ง ทว่าแม้แต่บ่าวไพร่ก็ยังพากันไปรายล้อมอยู่ที่เรือนของคุณหนูเล็ก ท้ายที่สุดหงอีจึงประคองร่างบอบช้ำของเจ้านายสาวกลับเรือนนอนโดยไร้การเหลียวแล
ทางด้านคุณหนูเล็กฝูเยว่ที่ถูกคุณชายใหญ่สวี่อุ้มมานอนบนเตียงอย่างทะนุถนอมถึงกับแค่นหัวเราะในใจ
‘เป็นอย่างไรบ้างเล่าจางลี่ รสชาติของการถูกครอบครัวหันหลังหมางเมินมันขมปร่าซ่านไปทั้งลำคอหรือไม่ อย่าเพิ่งใจเสาะรีบชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อนเล่า เพราะโรงละครของข้าเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น การเป็นดอกบัวขาวน่ะมิได้ยากเย็นนักหรอก และข้ามั่นใจว่าตัวข้านั้นทำได้ดีกว่าเจ้ามากนัก’
“ท่านหมอมาแล้ว รีบดูอาการของน้องเล็กเร็วเข้าเถอะขอรับ”
คุณชายใหญ่สวี่จางหมิ่นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน คนแกล้งเป็นลมถึงกับลอบยิ้มอย่างพึงใจ ชาติก่อนพี่ใหญ่แม้ไม่ได้รักใคร่นางแต่ก็ไม่เคยทำร้ายนาง เพียงแต่ถูกจางลี่ปั่นหัวจนหลงเชื่อคิดว่านางมีจิตใจมืดบอดอิจฉาริษยาพี่สาวจริงๆ
แต่ทุกครั้งที่นางถูกลงโทษ พี่ใหญ่ก็มักแอบเอายามาทาให้นางทุกที แล้วก็พร่ำบ่นให้นางกลับตัวกลับใจเลิกรังแกจางลี่ ทว่านางไม่ได้ทำร้ายพี่สาวจึงพยายามปฏิเสธ ทำให้ถูกมองว่าทำผิดแล้วไม่รู้จักยอมรับผิด ดื้อด้านเกินจะสอนสั่ง
แม้นางจะโกรธและน้อยใจครอบครัวสวี่ แต่หากมองตามหลักการและเหตุผลก็ย่อมเข้าใจได้ว่า หลักฐานต่างๆ ที่จางลี่ใส่ร้ายนางล้วนแน่นหนาจนนางดิ้นไม่หลุด อีกทั้งนางเองก็ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องตนเอง พวกเขาหลงเชื่อคำลวงของจางลี่ที่ทำตัวเป็นดอกบัวขาวก็คงไม่แปลกอะไร
ดังนั้นชาตินี้นางจะให้พวกเขาต้องชดใช้ด้วยความทุกข์ใจ เมื่อจางลี่ที่พวกเขารักนักรักหนากลายเป็นหญิงแพศยาจิตใจต่ำช้า รักมากก็ย่อมเจ็บมาก!
