บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3: การพบกันครั้งแรกในรอบหลายปี

วันนี้ครอบครัวของน้ำมนต์ได้รับเชิญให้มาทานอาหารที่บ้านของบดินทร์เพราะคุณเด่นชัยกับคุณนวลพรรณอยากให้คนที่เป็นคู่หมั้นคู่หมายกันได้เห็นหน้าค่าตากันเสียทีหลังจากที่คลาดกันไปมาหลายครั้ง ครั้งนี้พวกผู้ใหญ่เลยไม่ยอมต้องลากทั้งคู่ออกมาเจอกันให้ได้ น้ำมนต์จึงจำใจต้องตามพ่อกับแม่มาทานข้าวที่บ้านของบดินทร์อย่างเลี่ยงไม่ได้

“สวัสดีครับคุณลุงเด่น สวัสดีครับคุณป้านวล” น้ำมนต์กล่าวสวัสดีทักทายพร้อมยกมือไหว้คุณเด่นชัยกับคุณนวลพรรณผู้เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ของตัวเองอย่างนอบน้อม

“สวัสดีหนูน้ำมนต์ ไหว้พระเถอะลูก”

“สวัสดีจ๊ะหนูน้ำมนต์ลูก น่ารักจังเลยว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่ ขอคุณแม่กอดหน่อยม่ะ ฟอดด น่ารักจังเลย” คุณป้านวลพรรณกล่าวชมว่าที่ลูกสะใภ้อย่างน้ำมนต์ นานๆ คุณนวลพรรณเธอจะเจอน้ำมนต์ทีเพราะอีกฝ่ายไปเรียนที่กรุงเทพ แต่เจอทีไรน้ำมนต์ก็ดูน่ารักใบหน้าสวยเหมือนเพื่อนเธอขึ้นทุกวัน เธอจะดีใจมากถ้าบดินทร์ลูกชายแต่งงานกับน้ำมนต์เพราะเธอรักและเอ็นดูน้ำมนต์ตั้งแต่ยังเด็ก

“เอ่อ คุณลุง คุณป้าครับ น้ำมนต์ขออนุญาตเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหมครับ” น้ำมนต์ขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อนที่จะถามทางเดินไปห้องน้ำแล้วเดินไปทำธุระส่วนตัว

“กูไปไม่ได้วันนี้ พ่อกูน่ะซิ นัดทานข้าวกับที่บ้านกับลุงคำรณไว้ อยากให้กูกับคู่หมั้นเจอหน้ากันว่างั้น”

“กูไม่เคยเจอเค้า กูไม่อยากเจอ ไม่อยากแต่งด้วย กูหวงชีวิตโสดของกู มึงเข้าใจกูไหมไอ้นี่”

“กูว่าหน้าตาแม่งคงขี้ริ้วขี้เหร่แน่ๆ เมื่อก่อนตัวอ้วนๆ ขี้มูกกรัง เดินร้องไห้ตามกูต้อยๆ อยากจะเล่นกับกู โตมาคงขี้เหร่ไม่ต่างจากเดิม เลยกลัวขายไม่ออก แล้วก็ต้องมาทวงสัญญาพระเจ้าเหามาบังคับให้กูแต่งงานด้วย หรือไม่ก็คงเคยเห็นหน้าหล่อๆ อย่างกูเลยอยากได้เป็นผัว แม่งแรดชิบหาย”

“เดี๋ยวมึงคอยดู กูจะปฏิเสธให้ดู กูจะถอนหมั้นไม่ยอมแต่งแน่นอน หล่อๆ อย่างกูก็ไม่ควรที่จะมีเมียขี้เหร่ไหมมึง”

“เออๆ มึงแค่นี้แหละกูวางก่อน บ้านโน้นน่าจะมาถึงแล้ว เสร็จแล้วเดี๋ยวกูโทรไปเล่าให้ฟังใหม่ ว่าเด็กแรดนั่นหน้าตาเป็นยังไง ขี้เหร่มากไหม เครๆ บ๊าย”

เสียงคนพูดเดินห่างออกไปไกลแล้ว ทิ้งไว้เพียงแค่คนบังเอิญยังอยู่ในห้องน้ำที่โกรธกับคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่ ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นเสียงไอ้พี่ดิน ไอ้หมูอ้วนดำแน่เลย บังอาจมาหาว่าเค้าอ้วนขี้มูกกรัง หาว่าเค้าขี้เหร่ แรดกลัวขายไม่ออก หนอย เขาก็ไม่ได้อยากจะแต่งกับตัวเองเสียหน่อย และคอยดูนะว่าใครจะขอถอนหมั้นก่อนใคร คงนึกว่ามาพูดหลบมุมที่นี่จะไม่มีใครได้ยินล่ะซิ คงลืมว่าอยู่ในห้องน้ำมันได้ยินเสียงทุกอย่างชัดเจนกว่าปกติ

“ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน พอดีน้ำมนต์คุยกับเพื่อนอยู่น่ะครับ”

เสียงใสดังเข้ามา พร้อมกับร่างของผู้ชายตัวเล็กๆ บางๆ ผิวขาว ริมฝีปากกระจับสีชมพูระเรื่อ เครื่องหน้าสวยน่ามองไปหมดทุกอย่าง ทั้งน่ารักทั้งเซ็กซี่รวมอยู่ในตัวคนคนเดียวกัน การแต่งกายก็ดูดีมีรสนิยม ดูเหมาะสมกับกาลเทศะและแอบเซ็กซี่เล็กน้อย ทำเอาบดินทร์ที่นั่งคุยอยู่กับผู้ใหญ่ทั้งสี่คนมองเจ้าของเสียงผู้ที่เข้ามาร่วมวงสนทนาตาค้าง ว่าข้าวโพดสวยน่ารักแล้ว คนนี้ก็สวยไม่เเพ้กัน อย่าบอกนะว่าเด็กคนสวยนี่คู่หมั้นของเขา คนอะไรน่ามองไปหมด เห็นครั้งแรกบดินทร์ก็ตกหลุมรักเสียแล้ว แค่เห็นหน้าทำเอาหัวใจเขาเต้นระส่ำ โอยยย ตายแค่เห็นรอยยิ้มหวานที่ส่งให้ทุกคนเขาก็รู้สึกหวงแล้ว

“อ้าว หนูน้ำมนต์มาพอดี มานั่งก่อนลูกมา” น้ำมนต์โค้งตัวก่อนที่จะนั่งลงข้างมารดาของตัวเองเมื่อคุณนวลพรรณพูดจบ

“หนูน้ำมนต์ นี่พี่ดินลูกชายของแม่เอง คู่หมั้นของหนูไง ตาดินนี่หนูน้ำมนต์ลูกของลุงคำรณกับป้าเกษร” น้ำมนต์จำต้องยกมือไหว้ผู้ที่มีอาวุโสกว่าตนพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ ทั้งที่ในใจตอนนี้ยังไม่หายเดือดกับคำพูดที่บังเอิญได้ยินมา

“สวัสดีครับพี่ดิน”

“เอ่อ สะ สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จักน้องน้ำมนต์นะครับ” คนพี่ถึงกับติดอ่างเมื่อเจอกับรอยยิ้มหวาน ที่อีกฝ่ายส่งมาให้ตนเอง ตอนนี้ตาเขาพร่ามัวมากที่เจอรอยยิ้มหวานอย่างนี้ โอยยย ตายๆ คนอะไรน่ารักชะมัด รู้อย่างนี้เขาไปตามนัดทุกครั้งคงจะดีกว่านี้

“จริงซิ หนูน้ำมนต์เรียนจบด้านการบัญชีมานี่ ยังไม่ได้ไปสมัครงานที่ไหนใช่ไหมลูก หนูมาทำงานช่วยพี่ดินได้ไหม ไหนๆ อีกไม่นานก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว” คุณเด่นชัยพยายามที่จะให้คนทั้งสองได้มีโอกาสใกล้ชิดกันก่อนแต่งงาน ส่วนคนที่มีส่วนได้อย่างบดินทร์ก็แอบลุ้นเพราะตอนนี้เค้ากำลังลุ้นให้ร่างบางตอบตกลง ใช่แล้วเขาอยากใกล้ชิดน้อง

“เอ่อ พอดีน้ำมนต์เพิ่งจะตกลงตอบรับบริษัทที่เค้าติดต่อมาน่ะครับคุณลุง คงปฏิเสธเค้าไม่ได้แล้วครับ” น้ำมนต์บอกในเชิงปฏิเสธอย่างสุภาพ ส่วนผู้กำเนิดทั้งสองข้างกำลังงงกับงานที่ลูกชายบอกเมื่อสักครู่ทำไมทั้งคู่ไม่เคยรู้ว่าลูกของตัวเองไปสมัครงานตอนไหน

“เสียดายจังเลย แม่อยากให้ลูกทั้งสองได้ทำงานด้วยกันจะได้ศึกษาดูใจกันไปด้วย อีกไม่กี่เดือนก็แต่งงานกันแล้ว” คุณนวลพรรณพูดด้วยความเสียดาย ซึ่งตอนนี้ได้ใจลูกชายเข้าไปเต็มๆ หวังให้ผู้เป็นแม่ช่วยกล่อมให้น้ำมนต์เปลี่ยนใจ

“นั่นน่ะซิ แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าแต่งงานกันเมื่อไหร่ก็ค่อยให้น้องมาช่วยก็ได้นะตาดิน” คุณคำรณบอกกับว่าที่ลูกเขย

“เอ่อ พ่อครับทุกคนครับ น้ำมนต์อยากจะขอพูดสักหน่อยได้ไหมครับ เรื่องการหมั้นและการแต่งงาน น้ำมนต์ว่าเราคิดใหม่ดีไหมครับ”

ร่างบางพูดขึ้นทำเอาทุกคนแทบหันมามองพร้อมกันเลย ต่างคนต่างอยากรู้เหตุผลของร่างบางที่พูดคล้ายปฏิเสธไปในตัว คนที่ร้อนรนอยากรู้มากกว่าใครคงเป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่เพิ่งจะตกหลุมรักคนที่เจอหน้ากันครั้งแรกอย่างบดินทร์

“ทำไมล่ะลูก ก็ในเมื่อเราตกลงกันไว้ตั้งแต่พวกหนูสองคนยังเด็กอยู่ และน้ำมนต์ก็รู้มาตลอดก็ไม่เห็นจะคัดค้านอะไรนี่ ทำไมมาวันนี้ถึงได้พูดแบบนี้ล่ะครับ ไหนบอกพวกพ่อกับแม่หน่อยซิครับ” คุณเกษรผู้เป็นมารดาสอบถามลูกชาย เพราะเธอรู้ถึงความผิดปกติของลูกชายต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นจะต่อต้านหรือพูดแบบนี้

“พอดีน้ำมนต์ก็มาคิดดูแล้ว เราสองคนเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ การที่จะมีลูกสืบสกุลต่อนั้นน่าจะยากนะครับ แล้วก็เราสองคนไม่ได้รู้อุปนิสัยใจคอกันมาก่อน การที่จะอยู่ด้วยกันน่าจะมีความลำบาก บางทีถ้าได้แต่งงานกันไปอาจจะอยู่กันไปไม่รอดมีแนวโน้มที่ต้องเลิกรากัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างเสียเวลาและโอกาสที่สำคัญที่จะเจอคนที่ใช่ อีกทั้งจะยิ่งทำทั้งสองครอบครัวก็จะเสียชื่อเสียง หรือผิดใจกันได้นะครับ และอีกอย่างเราทั้งสองคนอาจจะมีใครในดวงใจแล้วก็ได้นะครับ อาจจะทำให้ต้องเลิกรากับคนที่ตัวเองรักแล้วมาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักมันยิ่งจะทรมานนะครับ น้ำมนต์เลยคิดว่าเรายกเลิกเรื่องหมั้นหรืออย่าเพิ่งพูดเรื่องแต่งงานดีกว่าไหมครับ ตัวพี่ดินอาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นน้ำมนต์ไม่อยากทำบาป ไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งแฟนคนอื่น”

ร่างบางพูดยาวเหยียดเพื่อที่จะหวังให้ทุกคนคล้อยตาม ในเมื่อผู้ชายตรงหน้าไม่อยากแต่งงานกับเขาน้ำมนต์ก็จะจัดให้ ถึงแม้อีกคนจะรูปร่างสูงหุ่นดีผิวสีขาวออกเหลืองมีกล้ามเนื้อพอเหมาะน่ามอง หน้าตาไม่ต้องห่วงไปเป็นดาราได้สบาย ตรงกับสเปคเขาทุกอย่าง เสียอย่างเดียวปากไม่ค่อยดีเท่าไร ทำให้น้ำมนต์ต้องสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว

“แกว่าไงตาดิน เห็นด้วยกับที่น้องเสนอใช่ไหมหรือยังไง แต่พ่อก็ไม่อยากจะขัดเจตนารมณ์ของคุณปู่ทั้งสองของพวกเราสักเท่าไหร่ ใจพ่อก็ยังอยากให้แต่งงานกันอยู่” พ่อของบดินทร์ให้ความเห็นและถามลูกชาย มองหน้าก็รู้ว่ามันเริ่มถูกใจน้ำมนต์ ดีสมน้ำหน้าตอนแรกไม่อยากแต่งดีนัก พอเห็นหน้าเขาแล้วเป็นไงล่ะเขาไม่ชอบกลับเศร้าไหม

“ผมยังไงก็ได้ครับ แต่ถ้าจะคิดว่าผมจะมีคนรัก แล้วน้องกลัวจะแย่งแฟนคนอื่น พี่ดินขอบอกน้องน้ำมนต์ไว้เลยว่าพี่ดินคนนี้ยังไม่มีคนรัก ยังโสดสนิทพร้อมที่จะศึกษาดูใจกับน้ำมนต์ และเพื่อให้ความตั้งใจของคุณปู่ทั้งสองสำเร็จผมก็พร้อมจะแต่งงานกับน้องน้ำมนต์ด้วยก็ได้เลยครับ” บดินทร์บอกกับทุกคนโดยเฉพาะน้ำมนต์ที่เขาตั้งใจที่จะให้รับรู้ที่สุดได้ทราบว่าเขาโสด

“งั้นทางพี่ดินเค้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ลูกล่ะน้ำมนต์จะทำให้ความต้องการของคุณปู่ล้มเหลวเลยเหรอ” คนเป็นพ่อถามลูกชายของตัวเองบ้าง

“เอ่อ คุณพ่อครับ น้ำมนต์ว่างั้นก็แค่ดูใจกันไปก่อนได้ไหมครับ เรื่องงานแต่งงานปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต น้ำมนต์เพิ่งเรียนจบยังใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นไม่คุ้มเลย งั้นขอน้ำมนต์ได้เที่ยวและหาประสบการณ์การทำงานก่อนได้ไหมครับ” ร่างบางลองยื่นข้อเสนอ

“เอาอย่างนี้ไหมลูก พ่อว่าให้เวลาหนึ่งปีสำหรับให้หนูได้ทำตามที่ใจหนูอยากทำ ไม่ต้องทำงานก็ได้ หลังจากนั้นก็มาแต่งงานกับพี่ดินเค้า” คุณคำรณผู้เป็นพ่อสรุปให้ลูกชาย

“ก็ได้ครับถ้าทุกคนเห็นว่าดี” น้ำมนต์ต้องจำยอมในที่สุด แต่สำหรับคนอีกคนที่รับฟังหนึ่งปีมันเป็นการรอคอยที่ยาวนานมากสำหรับบดินทร์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel